ชุดพญาเสือ บุกจับไม้จากโรงงานในนครพนม ลักลอบตัดข้ามจังหวัดจาก อช.ภูผายล

View icon 709
วันที่ 21 พ.ค. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชุดพญาเสือ บุกจับไม้จากโรงงานในนครพนม ลักลอบตัดข้ามจังหวัดจาก อช.ภูผายล จ.สกลนคร ยึดอายัดส่งตำรวจเอาผิดชุดใหญ่หลายข้อหา

นครพนมเจอกลุ่มตัดไม้ทำลายป่า วันนี้(21 พ.ค.2566) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 06.10 น. เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) นำโดย นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าชุดพญาเสือ ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดนครพนม เข้าตรวจค้นโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.นครพนม เนื่องจากมีหลักฐานว่ามีการนำไม้ที่ลักลอบตัดจากอุทยานแห่งชาติภูผายล จ.สกลนคร นำมาเก็บไว้ที่โรงงานแห่งนี้

จากการเข้าตรวจค้นโรงงานดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบไม้ประดู่ป่าที่ถูกลักลอบนำมาจากอุทยานแห่งชาติภูผายล ในบริเวณโรงงานดังกล่าว ซึ่งเอกสารรับรองที่นำมาแสดงปรากฏว่าภาพถ่ายไม่สอดคล้องกับแปลงโฉนด ซึ่งเป็นการรับรองเป็นเท็จ จึงทำการตรวจยึดไม้ของกลางดังกล่าวจำนวน 21 เหลี่ยม ปริมาตร 2.62 ลบ.ม. คิดเป็นมูลค่าประมาณ 91,599.20 บาท

นายมงคล ไชยภักดี กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผายล จ.สกลนคร ได้ออกลาดตระเวนสืบหาข่าว การลักลอบตัดไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ในท้องที่ ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จ.สกลนคร ระหว่างอุทยานแห่งชาติภูผายล และป่าสงวนแห่งชาติป่าภูล้อมข้าว และป่าภูแพ็ก ได้ตรวจพบร่องรอยการชักลากไม้ออกมาจากป่าในเขตอุทยานแห่งชาติภูผายล จึงได้ติดตามไปตรวจพบมีการแปรรูปไม้ และพบไม้แปรรูปถูกวางกระจัดกระจายในบริเวณป่า ตรวจสอบพบว่าเป็นไม้ประดู่แปรรูปจำนวน 3 เหลี่ยม ซึ่งลักษณะไม้ไม่ใช่ไม้เพื่อก่อสร้างบ้านเรือน คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วคาดว่าเป็นไม้ที่นายทุนสั่งซื้อ เพื่อลักลอบส่งออกต่างประเทศ จึงติดตามขบวนการลักลอบค้าไม้ดังกล่าว โดยรถที่ขนส่งไม้ได้ขับปรับเปลี่ยนไปหลายเส้นทาง กระทั่งเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 เวลา 06.07 น. รถขนไม้ได้หยุดอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายศาลจังหวัดนครพนมเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว

โดยเจ้าหน้าที่ได้ร่วมจับกุม นายเจษฎา และนางบุญเฮือง​ คนที่นำไม้มาขาย และบริษัทโรงงานที่ไม้ของกลางดังกล่าวไปปรากฏอยู่ ในฐานร่วมกันกระทำความผิดฐาน "ทำไม้หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่" ตามมาตรา 19 (2) ประกอบมาตรา 56 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฯ ความผิดฐาน
"ทำไม้ นำไม้ออกจากป่า กระทำด้วยประการใด ๆ  โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ผู้ใดนำไม้เคลื่อนที่ต้องมีใบเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่กำกับไปด้วยตามข้อกำหนดในกฎกระทรวง, ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ห้ามมิให้ผู้ใดแปรรูปไม้  มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามแปรรูปชนิดอื่นเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และผู้ใดรับไว้ด้วยประการใดซ่อนเร้น หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่มีผู้ได้มาโดยกระทำผิด มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น" อันเป็นความผิดตามมาตรา 11, 39, 48 และ 64 ทวิ มาตรา 70 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ  และความผิดฐาน "ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่" และการใช้เอกสารที่เป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ, ป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้อายัดของกลาง พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยนำของกลางไปเก็บไว้ที่อุทยานแห่งชาติภูผายล เพื่อดูแลรักษา สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของดำเนินกิจการโรงงานบริษัทดังกล่าว สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 สาขานครพนม กรมป่าไม้ จะตรวจสอบความถูกต้องของดำเนินกิจการเพื่อจะทำการอายัดต่อไป