ผู้เสียหายกว่า 10 คน เข้าแจ้งความหลังโดนหลอกสมัครงาน ให้โอนเงินค่าเสื้อ อุปกรณ์เซฟตี คาดเป็นฝีมือพนักงาน
วันนี้ ( 20 พ.ค.66) ผู้เสียหายประมาณ 10 คน ได้รวมตัวกันเดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรพานทอง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ จากกรณี ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ในเขตอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี ได้โพสต์ในกลุ่มคนหางาน ประกาศรับสมัครพนักงาน จำนวนหลายอัตรา ซึ่งได้มีกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ตกงานอยู่ในตอนนี้ได้ติดต่อไปยังบริษัทดังกล่าว เพื่อจะสมัครงาน ซึ่งมีการการันตีว่าถ้าจ่ายเงินค่าต่างๆตามที่บริษัทกำหนด จะได้ทำงานทันที จึงมีคนแห่กันไปสมัคร ตามที่บริษัทดังกล่าวได้ลงในเพจรับสมัครงาน ซึ่งในครั้งนี้มีผู้เสียหายมากกว่า 100 คน
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรพานทอง และได้พบกับ น.ส.ศุชาดา อายุ 31 ปี เป็น 1 ในผู้เสียหายพร้อมกับคนอื่นๆอีก ได้เล่าฟังว่า ตนนั้นตกงานจึงได้หาสมัครงานผ่านทางเพจเฟซบุ๊กรับสมัครงาน ซึ่งตนได้เจออยู่บริษัทหนึ่งได้โพสต์ข้อความว่า รับแทนผู้ได้งานใหม่ เน้นโทรรับด่วนหญิง 3 คน พร้อมเริ่มงานหลังวันที่ 10/5/2566 สอบถามรายละเอียดโทร 080-145 XXXX (ติ๊ก) สถานที่ทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง ใน จ.ชลบุรี และมีโปสเตอร์แนบรายละเอียดสวัสดิการไว้ใต้โพสต์ดังกล่าว ตนจึงได้ติดต่อไปยังเบอร์โทรดังกล่าว หลังจากนั้นทางปลายสายให้ตนนั้นเดินทางไปยังหน้าบริษัทเพื่อกรอกเอกสารและให้จ่ายเงินค่าเสื้อพนักงานและอุปกรณ์เซฟตี เป็นจำนวนเงิน 860 บาท และยังการรันตีอีกว่าถ้าจ่ายเงินแล้วจะได้เริ่มงานแน่นอน ตนจึงบอกไปว่าไม่มีเงินในบัญชีที่จะโอน ตนมีแต่เงินสดและจึงขอออกไปนำเงินสดเข้าบัญชีที่โอนแต่ทางพนักงานที่รับใบสมัครนั้นบอกว่าจ่ายเป็นเงินสดก็ได้ ยังไงตนก็จะต้องนำเงินไปเข้าให้กับบริษัทอยู่แล้ว ทาง น.ส.ศุชาดา จึงได้จ่ายเป็นเงินสดไป และทางเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้มีการการันตีว่าได้ทำงานแน่นอน เพราะจ่ายเงินแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พค. ที่ผ่านมา ตนได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวว่าตนยังจะมีสิทธิที่จะได้ทำงานอีกไหม ถ้าไม่ได้จะขอเงินที่จ่ายไปคืน แต่กลับไม่ได้รับคำตอบ ตนจึงสอบถามไปหาเพื่อนที่ไปสมัครด้วยกันก็ยังไม่มีใครได้ไปทำงานที่นี่เลยสักคน ตนจึงคิดว่าน่าจะถูกหลอกแล้วจึงได้ตั้งกลุ่มไลน์และโพสต์ในกลุ่มเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นเพื่อสอบถามกับคนอื่นๆว่ามีใครได้ทำงานหรือได้รับเงินที่จ่ายไปคืนมาบ้างแล้ว แต่กลับยังไม่มีใครได้ทำงานหรือได้เงินคืนแม้แต่คนเดียว หลังจากโพสต์เฟซบุ๊กไปได้มีคนติดต่อเข้ากลุ่มจำนวนมาก และหลังจากนั้นได้มีการทยอยโอนเงินคืนให้เป็นบางคน ส่วนคนที่ยังไม่ได้ก็ได้พากันมาที่ สภ.พานทอง เพื่อแจ้งความ โดยมี ร.ต.อ จารึก โพธิ์ทอง รอง สว.สส.สภ.พานทองเป็นผู้มารับเรื่องราวไว้
จากนั้นทางตำรวจได้โทรไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ซับคอนแทรค ตามเบอร์ที่ให้ไว้ โดยจับใจความได้ว่ากำลังทยอยคืนเงินให้กับผู้เสียหายทั้งหมด บางรายอยู่ระหว่างการตรวจสอบเนื่องจากบัญชีที่โอนเงินให้นั้นไม่ตรงกับชื่อของผู้มาสมัครงาน อาจจะเป็นบัญชีของสามีหรือเพื่อน ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน จะโอนคืน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตือนผู้เสียหายว่าในการทำธุรกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับบริษัทให้ดูว่าจะต้องโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัท ถ้าบัญชีเป็นของบุคคลให้คิดไว้เลยว่าเป็นมิจฉาชีพ
ส่วนผู้เสียหายมีความประสงค์จะแจ้งความนั้นก็สามารถทำได้และได้ให้ผู้เสียหายทั้งหมดรอคิวแจ้งความต่อไป ทางด้าน น.ส.ศุชาดา ยังกล่าวต่ออีกว่าในการไปสมัครงานครั้งนี้ทางพนักงานซับคอนแทรคคนดังกล่าวได้ให้เตรียมเอกสารทางราชการแต่ให้เซ็นเพียงชื่อและสำเนาถูกต้องเท่านั้นไม่ต้องเขียนกำกับว่าเอาไว้ใช้ทำอะไรโดยปกติแล้วที่เคยไปสมัครงานมาก็สามารถเขียนกำกับได้ และในวันนี้ตนก็ได้แจ้งความเกี่ยวกับเอกสารที่ทางพนักงานซับคอนแทรคคนดังกล่าวนำไปด้วย ตนเกรงว่าจะนำไปใช้ในทางที่ผิด อย่างเช่น นำไปกู้เองหรือใช้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังนั่งคุยกันอยู่นั้นได้มีโทรศัพท์เข้ามาหาน.ส.ศุชาดา ปลายสายเป็นเสียงผู้ชายบอกว่ากำลังโอนเงินคืนให้นะ และไม่นานก็มีเงินเข้ามาในบัญชีครบตามจำนวนแต่ต้นทางบัญชีไม่ใช่คนที่ตนโอนเงินไป ปลายสายยังบอกว่าที่บริษัทซับคอนแทรคนั้นไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนอาจจะมีการทุจริตของพนักงานขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล ตนอยากจะฝากถึงคนที่ตกงานทุกคนที่กำลังหาสมัครงานอยู่ให้ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าที่ๆจะไปสมัครงานนั้นเปิดรับจริงๆหรือไม่และส่วนมากจะไม่มีการเรียกเก็งเงินก่อนที่จะได้เข้าทำงานใดๆทั้งสิ้น
