คนเริ่มมีความหวังเศรษฐกิจฟื้น หลังท่องเที่ยวฟื้น นักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น การเลือกตั้งคึกคักเงินสะพัด ดันดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวต่อเนื่อง สูงสุดในรอบ 38 เดือน
วันนี้ (11 พ.ค.66) นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายนที่ผ่านมา ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯอยู่ที่ 55.0 ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 38 เดือน และปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11
สาเหตุดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น หลังการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว นักท่องเที่ยวเต่างชาติมากขึ้น และช่วงการหาเสียงเลือกตั้งคึกคักทั่วประเทศมีเงินสะพัดมาก และหากการเมืองมีเสถียรภาพ จัดตั้งรัฐบาลได้เร็วและเป็นที่ยอมรับ ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้โดยเร็วก็จะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุน ประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้ยังเติบโตได้ 3.5-4% ถึงแม้การส่งออกจะไม่ดีนัก โดยเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลัง
ส่วนความกังวลของผู้บริโภคยังอยู่ที่เรื่อง ค่าครองชีพสูง ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวบางจังหวัด และกังวลกับเศรษฐกิจโลก ปัญหาสถาบันการเงิน และสงครามรัสเซีย ยูเครนที่ยังไม่ยุติ
