เสี่ยกำมะลอ หลอกให้หญิงสาวรายหนึ่งรักและไว้ใจ ก่อนฉวยโอกาสขโมยสินสอดหลบหนี

View icon 441
วันที่ 22 เม.ย. 2566
ข่าวช่อง7HD
แชร์
เสี่ยกำมะลอ หลอกให้หญิงสาวรายหนึ่งรักและไว้ใจ ต่อมาน้องสาวของหญิงรายนี้ กำลังจะแต่งงาน และเก็บสินสอดไว้ในห้อง เสี่ยกำมะลอ ทำทีขอเข้าไปดู ก่อนฉวยโอกาสหาจังหวะที่ทุกคนเผลอเข้าไปขโมยสินสอดหลบหนี โดยได้ทองคำหนัก 14 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ และ มีเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง

สืบนครบาลรับแจ้งขอความช่วยเหลือจากคู่สามีภรรยาผู้เสียหายว่าถูก เสี่ยแป๋ม ต้อม หรือหนึ่ง และอีกหลายชื่อ ลักทรัพย์สินเงินทอง ที่เป็นค่าสินสอดไป เป็นทองคำหนัก 14 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ และ มีเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง

โดยก่อนเกิดเหตุคนร้ายรายนี้ รู้ว่าผู้เสียหายกำลังจะแต่งงาน ได้มีการเตรียมทรัพย์สินเงินทองเป็นค่าสินสอดไว้ จึงได้เข้ามาตีสนิทกับพี่สาวของผู้เสียหาย มีการหลอกลวงให้เชื่อว่าเป็นเจ้าของหอพักแห่งหนึ่ง มีฐานะดี และ หวังอยู่กินแบบสามี-ภรรยา กับพี่สาวผู้เสียหาย โดยก่อนวันก่อเหตุ 1 วัน ได้ขอเข้ามาดูห้องของผู้เสียหาย เพราะอ้างว่าจะย้ายมาอยู่กินกับพี่สาวผู้เสียหายที่หอพักเดียวกัน ต่อมาในวันที่เกิดเหตุได้เข้ามาขอยืมรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย ที่มีกุญแจคีย์การ์ดเข้าห้องของผู้เสียหาย จากนั้นได้เข้าไปลักทรัพย์สินที่เตรียมไว้เป็นสินสอด ซึ่งเก็บอยู่ในห้องดังกล่าว เป็นทองคำหนัก 14 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ และ มีเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นได้หลบหนีไป

ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ได้ถูกประกาศแจ้งเตือนในสื่อสังคมออนไลน์ จากหลายช่องทางให้ระมัดระวัง เนื่องจากได้ก่อเหตุในลักษณะนี้อยู่หลายครั้ง โดยเมื่อปี 2563 ผู้ต้องหาได้ไปตีสนิท หลอกผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิงให้ลงทุนซื้อขายทอง มีการโอนเงิน ไปยังบัญชีผู้ก่อเหตุ รวมเป็นเงินเกือบ 8ล้านบาท จากนั้นได้หลบหนีไป ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว

จากการตรวจสอบในระบบ พบว่า ผู้ต้องหารายนี้ มีหมายจับอีกจำนวน 2 หมาย คือ หมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่90/2566 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2566 ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน และ หมายจับของศาลแขวงชลบุรี ที่41/2563 ลงวันที่16 มีนาคม 2563 ข้อหายักยอก ซึ่งได้ประสานงาน และ แจ้งให้อายัดตัวผู้ต้องหารายนี้    

หลังสืบทราบว่าคนร้ายที่กล่าวถึง คือ นายปิยะศักดิ์ อายุ 45 ปี เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวภายในห้องพัก ภายในโรงแรมย่านพระประแดง ตามความผิดข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ ตามหมายจับศาลอาญา

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าลักทรัพย์สินสอดคู้บ่าวสาวผู้เสียหายมาจริง แต่ได้คืนเป็นบางส่วนแล้ว