ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ยืนยันคดีการเสียชีวิตของเน็ตไอดอลสาว "จีจี้ สุพิชชา" พร้อมแฟนหนุ่ม ไม่มีตายทิพย์ ด้านตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ระบุวันเกิดเหตุ เจอศพทั้งคู่ พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก
เร่งเก็บหลักฐานคดี จีจี้-อิกคิว เสียชีวิต
ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของเน็ตไอดอลชื่อดัง "จีจี้-สุพิชชา" พร้อมแฟนหนุ่ม "อิกคิว ภูมิพัฒน์" นักเรียนเตรียมทหารอากาศชั้นปีที่ 2 ภายในคอนโดมิเนียมหรูย่านอโศก โดยทั้งคู่มีบาดแผลถูกยิง และยังพบอาวุธปืนแม็กกาซีนตกอยู่ 1 กระบอกนั้น
ล่าสุดวันนี้ (21 เม.ย.) พลตำรวจตรี วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตรวจพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างเก็บหลักฐานต่าง ๆ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบความชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่มีการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เช่น อาวุธปืน คราบเขม่าดินปืน และปลอกกระสุนปืน 2 ปลอก นอกจากนี้ ยังเจอร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ร่าง ซึ่งปืนตกอยู่หว่างขาผู้ตายที่เป็นผู้ชาย
ยันไม่มีตายทิพย์ ! คดี "จีจี้" เสียชีวิตพร้อมแฟนหนุ่ม
ส่วนกระแสข่าวในโซเชียลเรื่องการตายทิพย์ของฝ่ายชายนั้น ทาง พลตำรวจตรี อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ยืนยันว่า คดีนี้ไม่มีการให้ความช่วยเหลือแน่นอน และฝ่ายชายเสียชีวิตจริง ไม่ได้มีการจัดฉากตายทิพย์ โดยวันเกิดเหตุ มีการตรวจตามขั้นตอนกฎหมาย และมีพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รวมถึงแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี ตรวจสอบศพทั้ง 2
ทั้งนี้ ช่วงดำเนินการนำศพทั้ง 2 คนออกมา มีพ่อแม่และครอบครัวของผู้เสียชีวิต รับทราบกระบวนการต่าง ๆ อยู่ด้วย ฉะนั้นคงไม่มีอะไรผิดปกติ ตามที่โลกโซเชียลตั้งข้อสังเกต ส่วนการสอบปากคำพยาน มีการพูดคุยกับครอบครัวฝ่ายหญิงแล้ว ขณะที่ครอบครัวฝ่ายชาย ยังไม่สะดวกให้ปากคำ และขอเลื่อนให้ปากคำ เป็นช่วงหลังประกอบพิธีทางศาสนาของลูกชายแทน เช่นเดียวกับเรื่องอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ อยู่ระหว่างพิจารณาหลาย ๆ ด้าน หากพบว่าเป็นความบกพร่องจากเจ้าของปืน ก็ต้องเรียกตัวมาสอบปากคำตามขั้นตอน
เล็งเรียก "พ่ออิกคิว" ให้ปากคำปมอาวุธปืน
ด้าน พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น ต้องเชิญตัวบิดาของ "อิกคิว" ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ครอบครองปืนมาให้ปากคำ เพื่อสอบถามว่า ลูกชายได้ปืนมาอย่างไร โดยจะมีการเชิญตัวมาหลังงานศพ
ขณะที่พฤติการณ์ก่อเหตุ เชื่อว่า "อิกคิว" เป็นผู้ก่อเหตุ ไม่มีบุคคลที่ 3 เนื่องจากหลักฐานวงจรปิด เห็นผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนเข้าไปในห้อง โดยไม่มีบุคคลอื่น ส่วนที่โลกโซเชียล มีการตั้งข้อสังเกตว่า ฝ่ายชายไม่ได้เสียชีวิตจริง เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน
