ห้องข่าวภาคเที่ยง - ประชาชนต่างเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร หลังจากไปท่องเที่ยว และกลับภูมิลำเนา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้การจราจรหนาแน่นหลายเส้นทาง
ประชาชนเดินทางกลับกทม. การจราจรหนาแน่น จ.นครราชสีมา
เช้าวันนี้ ถนนมิตรภาพ ช่วงตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง ตั้งแต่กิโลเมตรที่ 52 ไปจนถึงกิโลเมตรที่ 35 มีรถมาก แต่คล่องตัวกว่าเมื่อคืน โดยตำรวจทางหลวง เปิดช่องทางพิเศษหลายจุด และคาดว่าในช่วงบ่าย ปริมาณรถจะเพิ่มขึ้น
ส่วนที่ถนนทางหลวงสาย 201 สีคิ้ว-ชัยภูมิ มีประชาชนเลี่ยงไปใช้ถนนมอเตอร์เวย์สาย 6 รวมทั้งประชาชนที่ใช้ถนนทางหลวงสาย 24 สีคิ้ว-เดชอุดม มาจากบุรีรัมย์ สุรินทร์ ต่างไปใช้ถนนมอเตอร์เวย์สาย 6 เช่นกัน เพื่อลดเวลาการเดินทาง เนื่องจากมีความคล่องตัว แต่ในช่วงทางขึ้นอาจมีการชะลอตัวบ้าง
การจราจรบนถนน 304 ปริมาณรถมีจำนวนมาก จ.ปราจีนบุรี
ไปกันที่เส้นทางถนนสาย 304 ซึ่งเป็นเส้นทางจากภาคอีสาน ไปภาคตะวันออก ผ่านอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เช้านี้ การจราจรยังคงหนาแน่นในทุกช่องทาง โดยเฉพาะบริเวณทางแยกทางร่วม 3 จุดใหญ่ ทั้งทางแยกหนองกี่ ทางแยกสามทหาร และทางแยกคลองรั้ง ทำให้ตำรวจต้องเร่งระบายรถ
การจราจรถนนสายเอเชีย ปริมาณรถมาก จ.ชัยนาท
ที่ถนนสายเอเชีย ช่วงผ่านจังหวัดชัยนาท ซึ่งรองรับปริมาณรถจากภาคเหนือ หลังจากเมื่อคืนที่ผานมา ปริมาณรถมาก ประมาณ 4,000 คันต่อชั่วโมง ส่วนช่วงเช้า รถยังมาก แต่ไม่หนาแน่นเท่าเมื่อวาน โดยมีรถประมาณ 2,000 คันต่อชั่วโมง โดยตำรวจได้เปิดสัญญาณไฟจราจรที่แยกหางน้ำสาคร ตามปกติ ทำให้รถชะลอตัว แต่เมื่อพ้นทางแยก ไปจนถึงแยกทางต่างระดับ อำเภอเมือง การจราจรเคลื่อนตัวได้ดี
การจราจรถนนสายเอเชีย ปริมาณรถมาก จ.อ่างทอง
และเมื่อผ่านไปถึงจังหวัดอ่างทอง มีปริมาณรถเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนเต็มทุกช่องทาง ใช้ความเร็วได้ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจ้าหน้าที่แจ้งให้ไปใช้ทางเลี่ยง โดยเลี้ยวเข้าตัวเมืองอ่างทอง ที่แยกต่างระดับอ่างทอง และเลี้ยวซ้ายใช้ถนน 309 อ่างทอง-อยุธยา ผ่านอำเภอป่าโมก ตรงไปสี่แยกทุ่งมะขามหย่อง ก่อนเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางสาย 347 มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร
ยอดคุมประพฤติเมาขับ 6 วัน 6,705 คดี
กรมคุมประพฤติ รายงานสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติวันที่ 6 พบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 843 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 836 คดี และคดีขับเสพ 7 คดี ส่วนยอดสะสม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-16 เมษายน 6,959 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 6,705 คดี, คดีขับรถประมาท 23 คดี, คดีขับซิ่ง 1 คดี และคดีขับเสพ 230 คดี
หากเปรียบเทียบคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่ 6 ของ 7 วันอันตราย ปี 2565 พบว่า ลดลง 309 คดี จังหวัดที่มีสถิติคดีเมาแล้วขับสะสมสูงสุด 3 อันดับได้แก่ กรุงเทพมหานคร 435 คดี, รองลงมานนทบุรี 333 คดี และร้อยเอ็ด 331 คดี
