ห้องข่าวภาคเที่ยง - แก๊งมิจฉาชีพยังคงหลอกผู้เสียหายที่กำลังเดือดร้อน ให้เดือดร้อนหนักขึ้นกว่าเดิม อย่างเหยื่อรายล่าสุด ก็เป็นเจ้าหน้าที่ศาล ที่ถูกแก๊งกู้เงินออนไลน์หลอกให้โอนเงินค้ำประกันเครดิต สูญเงินไปจำนวนมาก
โดยผู้เสียหาย คือ นางสาวพัชร์วรปภา เจ้าหน้าที่ศาลแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 หรือ บก.สอท.3 ว่าถูกแก๊งกู้เงินออนไลน์ส่งข้อความผ่าน SMS อ้างว่าเป็นบริการของธนาคารแห่งหนึ่งที่ตนเองใช้บริการอยู่ มีสิทธิ์สามารถยื่นกู้เงินได้ 50,000 บาท จึงเกิดความสนใจคลิ๊กลิงก์เข้าไปดูรายละเอียด ก็ปรากฎไปเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันไลน์ของคนที่ชื่อ นางสาวมลิษา กองคำ บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการสินเชื่อ สามารถกู้ยืมเงินกับธนาคารไหนก็ได้ และบอกว่า วงเงินที่สามารถกู้ได้คือ 100,000 บาท ผ่อน 36 งวด งวดละ 2,972 บาท จึงได้กรอกข้อมูลลงทะเบียนไปตามที่แนะนำ จากนั้นก็ได้รับแจ้งว่าอนุมัติเงินกู้ผ่านแล้ว แต่เนื่องจากเป็นสมาชิกใหม่ ต้องสร้างเครดิตให้ธนาคารเกิดความมั่นใจก่อน แล้วก็เข้าแผนมิจฉาชีพให้โอนเงินไปที่บัญชี ๆ หนึ่ง 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 71,000 บาท พอโอนไปแล้วก็อ้างว่าต้องทำเอกสารใหม่ ให้โอนเงินไปอีก 50,500 บาท พอจับทางได้ว่าเป็นมิจฉาชีพจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี
ต่อมาตำรวจได้สืบสวนพบว่า ผู้ร่วมก่อเหตุมีด้วยกัน 4 คน จึงขอศาลออกหมายจับฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ" ก่อนจะติดตามไปจับกุมตัวทั้งหมดมาดำเนินคดี
เรามาดูข้อมูลนี้กันหน่อย จากการรวบรวมข้อมูลคดีต่าง ๆ พบว่า ปัจจุบันมีอย่างน้อย 29 หน่วยงาน ทั้งของรัฐและเอกชนที่มิจฉาชีพนำชื่อไปอ้าง เช่น กรมสรรพากร, สถานีตำรวจต่าง ๆ, DSI , ป.ป.ง., สถาบันการเงิน รวมถึงโครงการต่าง ๆ ของรัฐ อย่างล่าสุดก็คือ โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5
และที่ต้องย้ำเตือนกันเพื่อจะได้ระมัดระวังตัว 1. อย่ากดลิงก์ที่เเนบมากับ SMS (รวมถึงช่องทางโซเชียลอื่น ๆ ด้วย) 2. หากมีเบอร์ไม่คุ้นเคยโทรมาอ้างว่ามาจากหน่วยงานต่าง ๆ ให้ขอ ชื่อ-นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ แล้วบอกว่าจะติดต่อกลับไปภายหลัง 3. นำข้อมูลที่ได้มาตรวจสอบกับหน่วยงานนั้น ๆ ว่า จริงหรือไม่ และที่สำคัญ อย่าติดตั้งโปรแกรม หรือแอปฯ ที่มีคนส่งมาให้โดยเด็ดขาด
