ล่ามือสังหาร 4 ศพ หนึ่งในนั้นเป็นลูกเขยดาบตำรวจ จ.สุราษฎร์ธานี

View icon 414
วันที่ 10 เม.ย. 2566
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - คดีกลุ่มคนร้ายบุกบ้าน อดีตผู้ใหญ่บ้านคนดังแห่งอำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนกราดยิงโหดดับ 4 ศพ ล่าสุด ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด การเก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดทำให้เริ่มเห็นตัวกลุ่มมือสังหารทั้งหมด หนึ่งในนั้นเป็นลูกเขยผู้ใหญ่บ้านผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นตำรวจ

จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามแบบ M16 บุกเข้าไปที่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 8 ตำบลกะเปา อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเกิดการดวลปืนกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 4 ศพ ทราบชื่อรายแรก คือ นายธรรมรงค์ นิลนิยม เจ้าของบ้าน และเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน, รายที่สอง คือ นางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ เป็นภรรยาของนายธรรมรงค์, รายที่สาม คือ นายพรศักดิ์ เพชรชู อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ตำบลท่าขนอน และ รายที่สี่ คือ นายธรรมรัตน์ หรือ วัฒน์ วิเชียร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มของคนร้ายที่เสียชีวิตจากการดวลอาวุธปืนกัน

เมื่อช่วงสายวานนี้ ที่ สภ.คีรีรัฐนิคม พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้เดินทางมานำประชุมร่วมกับ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งหมด ก่อนเดินทางเข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า จากพยานหลักฐานที่พบขณะนี้ ชี้ชัดว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุมีมากกว่า 3 คน และทางเจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้ว รายแรก คือ ดาบตำรวจ อรรถพร วิเชียร ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปรามยาเสพติด สภ.คีรีรัฐนิคม, รายที่สอง คือ นายธรรมรัตน์ หรือ วัฒน์ วิเชียร เป็นพี่ชายของดาบตำรวจ อรรถพร ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และ รายที่สาม คือ นายมานพ ว่างงาน และยังมีผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีอยู่อีก ซึ่งยังอยู่ในช่วงสืบสวนว่ามีกี่ราย

สำหรับชนวนเหตุให้เกิดการยิงกัน สาเหตุเนื่องจาก ดาบตำรวจ อรรถพร ซึ่งได้คบหากับ นางสาวพนิดา หรือ ตั๊ก ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเดียวของ นายธรรมรงค์ ผู้เสียชีวิต และทั้งคู่ได้ไปจดทะเบียนอยู่กินด้วยกัน แต่ด้วย ดาบตำรวจ อรรถพร เป็นตำรวจและมีฐานะที่ด้อยกว่า ทางนายธรรมรงค์ จึงไม่พอใจและบอกให้ลูกสาวหย่าร้างกับดาบตำรวจ อรรถพร ซึ่งทาง ดาบตำรวจ อรรถพร ก็พยายามที่จะเข้าไปคุยกับทาง นายธรรมรงค์ ผู้เป็นพ่อตาหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล กระทั่งมาพบจุดจบวันนี้

มีข้อมูลที่ยืนยันได้ว่าทั้ง ดาบตำรวจ อรรถพร กับ นายธรรมรงค์ ทั้งคู่รู้จักกันมาก่อนนานกว่าสิบปี แต่แนวทางการสอบสวนก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่น ๆ ทิ้ง

สำหรับรายละเอียดที่ได้จากการสอบสวนทราบว่า ในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 8 เมษายน ดาบตำรวจ อรรถพร ได้เดินทางมาที่บ้านเกิดเหตุพร้อมกับ นายธรรมรัตน์ หรือ วัฒน์ ผู้เป็นพี่ชาย และ นายมานพ และยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก1-2 ราย เพื่อที่จะมาเจรจากับนายธรรมรงค์ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ นายพรศักดิ์ เพชรชู อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ตำบลท่าขนอน กำลังมาคุยงานกันพอดีจึงอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ส่วน นางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ ภรรยาของนายธรรมรงค์ นั่งเล่นอยู่ที่ศาลาด้านหน้าบ้าน ซึ่งระหว่างการพูดคุยกันอาจจะตกลงกันไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงดวลใส่กันจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ รวม 4 ศพ ดังกล่าว หลังจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าอาวุธปืนที่ทั้งคู่ใช้ก่อเหตุมีทั้งอาวุธปืนสงคราม M16, ปืนลูกซอง และ ปืนขนาด 9 มม.

ในส่วนของอาวุธปืนสงคราม M16 ที่ใช้ก่อเหตุนั้น ยังอยู่ในช่วงตรวจสอบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุนำมาจากไหน ซึ่งทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้เร่งรัดคดี เนื่องจากเหตุดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตถึง 4 ศพ และจะเดินทางลงมาติดตามคดีด้วยตนเองในวันที่ 11 เมษายน ในส่วนของกลุ่มผู้ก่อเหตุตอนนี้ยังหลบหนีอยู่ และยังไม่ได้รับการติดต่อขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป