รวบพระลูกวัด ตบะแตก ใช้มีดอีโต้ฟันคอชายเมาเหล้าด่าทอถึงบุพการี

View icon 217
วันที่ 3 เม.ย. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (3 เม.ย. 66) จากกรณีชายอายุ 45 ปี ถูกมีดฟันคอเสียชีวิต ภายในวัดบ้านวังก้านเหลือง หมู่ที่ 2 ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 2 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา สภาพถูกศพถูกมีดฟันบริเวณท้ายทอยหลายแผล นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีน เสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าโบสวัดวังก้านเหลือง หลังจากเมาเหล้าแล้วเอะอะโวยวายภายในวัดดังกล่าว

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.ต.ท.ชยพล ดีหลี สว.(สอบสวน) สภ.บ้านค่าย ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมได้ประสานตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านค่าย เข้าตรวจสอบและหาข้อมูลผู้ก่อเหตุ นำผู้ต้องสงสัยที่อาศัยอยู่ในวัดในเวลาเกิดเหตุ ทั้งฆราวาส และพระภิกษุ มาให้ปากคำสอบสวน ในที่สุดได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดของหมู่บ้านได้ยินเสียงคนทะเลาะกันกับผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คือ พระเด่น กิจบันเทิง

ต่อมาเมื่อนำ พระเด่น กิจบันเทิง มาสอบถาม ได้ยอมรับสารภาพว่า เป็นเสียงของตนที่ทะเลาะกับผู้เสียชีวิตจริง โดยให้การว่า ขณะตนเองได้ทำความสะอาดอยู่ภายในวัด ผู้เสียชีวิตได้เมาเหล้ามาด่าทอถึงบุพการี และเดินเข้ามาหา เกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงใช้มีดแกว่งไปถูกผู้เสียชีวิต แล้วเดินหนีไป จากนั้นเจ้าอาวาสจึงได้ทำการลาสิกขาบทให้กับพระเด่น ซึ่งพระเด่นยินยอมลาสิกขาบทด้วยความสมัครใจ และได้นำไปชี้อาวุธมีดที่ใช้ทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิต แล้วนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณหน้าโบสวัดวังก้านเหลือง

ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุ บอกอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตได้เมาเหล้ากลับเข้ามาภายในวัดแล้วอาละวาด และได้ด่าถึงบุพการี ของตนเสียๆหาย ซึ่งที่ผ่านมามีพฤติกรรมเมาแล้วอาละวาดประจำ ครั้งนี้สุดทนจึงก่อเหตุ และไม่ไปขอคมาศพ เพราะการลงมือครั้งนี้เป็นการป้องกันตัวเอง

ด้าน พ.ต.อ.อภิวัชร์ นาทอง ผกก.สภ.บ้านค่าย บอกว่า ผู้เสียชีวิตเป็นญาติกับเจ้าอาวาส ได้มาอาศัยอยู่ภายในวัดบ้านวังก้านเหลือง ประมาณ 1 เดือน มีพฤติกรรมชอบดื่มเหล้าจนเมา และมีเรื่องทะเลาะกับผู้ก่อเหตุบ่อยครั้ง จนเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตได้เมาเหล้าเหมือนเช่นเคย กลับเข้ามาภายในวัด ได้พบกับผู้ก่อเหตุกำลังกวาดวัดอยู่บริเวณหน้าโบสถ์อยู่ และได้ด่าทอกันขึ้น ผู้ก่อเหตุจึงใช้มีดอีโต้ที่ถืออยู่ในมือฟันผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม จากการสอบสอบสวน ผู้ก่อเหตุให้การภาคเสธ เกิดการทะเลาะวิวาทกัน เป็นการป้องกันตนเอง ซึ่งยอมรับว่าลงมือครั้งเดียว แต่บาดแผลที่ท้ายทอยมี 4 แผล ในเบื้องต้นถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาพกพาอาวุธมีด ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป