พบปลอกกระสุนจำนวนมากในบ้านชายคลั่งกราดยิง จ.เพชรบุรี

View icon 35
วันที่ 24 มี.ค. 2566
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบ้านชายคลั่งกราดยิงที่จังหวัดเพชรบุรี พบปลอกกระสุนจำนวนมาก และหลักฐานทั้งน้ำมันพืชและลูกแก้วที่ผู้ก่อเหตุนำมาใช้ ซึ่งไม่เคยพบกลยุทธ์ลักษณะนี้ในพื้นที่มาก่อน

พบปลอกกระสุนจำนวนมากในบ้านชายคลั่งกราดยิง จ.เพชรบุรี
ความคืบหน้าเหตุชายคลั่งกราดยิงออกจากบ้านที่จังหวัดเพชรบุรี จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 3 คน เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อวัดระยะวิถีกระสุนจากบ้านชายคลั่ง ยิงมายังบ้านผู้เสียชีวิตฝั่งตรงข้าม และระยะจากบ้านมายังจุดที่พบศพ รวมถึงเก็บปลอกกระสุนปืนในบ้านที่พบมากกว่า 100 ปลอก

ทีมข่าวของเรา คุณศิรัณพร มูลอุทก ได้สอบถามจาก พลตำรวจตรี กำธร อุ่ยเจริญ ผู้บังคับการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าในที่เกิดเหตุพบปืนเพียง 1 กระบอก ขนาด 9 มม.ตกอยู่ด้านซ้ายของร่างผู้ก่อเหตุ ที่เสียชีวิตอยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้า ภายในบ้านยังพบปลอกกระสุนจำนวนมาก และมีมากกว่า 2 ขนาด ซึ่งต้องนำไปพิสูจน์ว่าส่วนใดเป็นของผู้ก่อเหตุ และของเจ้าหน้าที่ที่เข้าไประงับเหตุ เบื้องต้นปลอกกระสุนที่ตรงกับปืนที่พบในบ้านผู้ก่อเหตุ มีไม่ถึง 50 ปลอก ในบ้านยังไม่พบว่ามีการสะสมอาวุธและเครื่องกระสุนปืน และยังไม่ชัดเจนว่าปืนที่ผู้ก่อเหตุใช้มีกี่กระบอก

ภายในบ้าน ตั้งแต่ชั้น 1 บันไดบ้าน จนถึงรอบตัวผู้ก่อเหตุในห้องพระชั้น 2 มีการราดน้ำมันพืชและโรยลูกแก้วไว้ตามพื้น ซึ่งเป็นอุปสรรคของเจ้าหน้าที่ในการระงับเหตุ โดยที่ผ่านมายังไม่เคยพบกลยุทธ์แบบนี้ของผู้ก่อเหตุรายอื่น ๆ ในพื้นที่มาก่อน แต่ในพื้นที่อื่นตนเองไม่ทราบ

ทยอยเคลียร์คำตอบญาติ สารวัตรกานต์
ส่วนอีกเหตุการณ์ เมื่อวานนี้ ตัวแทนจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม, อัยการ, กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สน.สายไหม ได้นัดพา นายอนุชิต ธาตุเสียว ทนายความของครอบครัว พันตำรวจโท กิตติกานต์ หรือ "สารวัตรกานต์" ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาข้อเท็จจริงว่า การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการควบคุมสถานการณ์ ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่

ทนายอนุชิต บอกว่า สิ่งที่ญาติติดใจสงสัย คือ การไล่ยิงจนเป็นเหตุให้ "สารวัตรกานต์" ต้องหนีลงมาชั้นล่าง แล้วหลังจากนั้นมีการยิงซ้ำหรือไม่ และเหตุใดตำรวจไม่รอให้ญาติมาเจรจาด้วยตัวเอง อีกทั้งการเข้าตรวจที่เกิดเหตุก่อนหน้านี้ ก็ไม่มีการแจ้งญาติ หรืออัยการ เข้าร่วมตรวจสอบด้วย

ด้าน พันตำรวจโท สราวุธ บุตรดี รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.สายไหม เปิดเผยว่า ระหว่างการตรวจค้น ได้วิดีโอคอลพูดคุยกับญาติ เพื่อตอบคำถามทุกประเด็นที่สงสัย ซึ่งญาติก็สบายใจขึ้นในระดับหนึ่ง โดยบอกว่าไม่ใช่ไม่เชื่อใจการทำงานของกองพิสูจน์หลักฐาน แต่อยากให้เกิดความมั่นใจว่า ไม่มีการทำลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ

จิตแพทย์ ถอดบทเรียนเหตุกราดยิง
นายแพทย์ ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต แนะนำให้ถอดบทเรียนจากเหตุกราดยิง ที่จังหวัดเพชรบุรี และสายไหม กรุงเทพฯ รวมถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายต่อหลายครั้งก่อนหน้านี้  มาจากความเครียด และมีปัญหาสภาพจิตใจ องค์กรที่ทำงานต้องมีระบบการดูแลสุขภาพจิตให้คนทำงานด้วย

อีกทั้งยังต้องจัดระบบการถือครองอาวุธปืน ต้องมีระบบติดตามปัญหาสภาพจิตใจด้วย ที่สำคัญ ต้องควบคุมดูแลให้ใช้อาวุธเฉพาะในขณะปฎิบัติหน้าที่ หากเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ก็ไม่ควรให้มีไว้ในครอบครองได้ และต้องยกเลิกปืนสวัสดิการด้วย

ที่น่าห่วงคือ ในอนาคตสังคมจะเกิดความชินชาต่อความรุนแรง ขาดความยับยั้งชั่งใจ จึงต้องมีมาตรการป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ ทุกฝ่ายควรช่วยกันดูแลรักษาคนที่มีปัญหาสุขภาพจิต มีความเครียดสะสม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลดซ้ำในสังคมไทยอีก