วันนี้ (15 มี.ค. 66) ตำรวจ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำโดย พ.ต.ต.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง สว.กก.1 บก.ป., ด.ต.สิทธิศักดิ์ แสนยะบุตร, จ.ส.ต.อนุชา ตาแปง, จ.ส.ต.ชาตรี มากมูล และ ส.ต.อ.กันตสรรค์ ภาพโพธิ์ ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายณัฐวัตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.291/2565 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย”
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2562 ช่วงเกิดเหตุ นางสาวริน (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ผู้เสียหาย ได้รับการชักชวนจากนางสาวเอ (นามสมมติ) เพื่อนของตน ให้เดินทางไปยังบ้านของนายเมศ (นามสมมติ) แฟนของนางสาวเอฯ ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง แยก10 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เมื่อไปถึงพบนายเมศฯ และนายณัฐวัตรฯ ผู้ต้องหา อยู่ที่ห้องดังกล่าวโดยนายณัฐวัตรฯ ได้แนะนำตัวว่าตนเองเป็นเพื่อนของนายเมศฯ และได้ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมดื่มเหล้ากับพวกตน ซึ่งผู้เสียหายได้ปฏิเสธ
จนกระทั่งนางสาวเอฯ และนายเมศฯ ได้ขอแยกย้ายไปนอนจึงเหลือเพียงผู้เสียหาย และผู้ต้องหาอยู่ด้วยกัน จากนั้นผู้ต้องหาได้ขอมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอม ผู้ต้องหาจึงได้ใช้กำลังบังคับถอดเสื้อผ้าของผู้เสียหายออก ผู้เสียหายไม่กล้าร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกทำร้าย ผู้ต้องหาจึงได้ลงมือข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่
จากนั้นผู้เสียหายพร้อมมารดาของตนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา พนักงานสอบสวน สน.คันนายาว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติต่อศาลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จนกระทั่งวันที่ 14 มีนาคม 2566 เจ้าพนักงานตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่บริเวณบ้านพักแห่งหนึ่ง ซอยสัมพันธ์วิลล่า ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผนและเดินทางไปเฝ้ารอสังเกตการณ์ เมื่อถึงเวลาประมาณ 18.40 น. ได้พบนายณัฐวัตรฯ อยู่บริเวณหน้าบ้านพักดังกล่าว เมื่อพบตัวผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัว และเข้าทำการจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมตัวมาดำเนินคดีแต่อย่างใด โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
