พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยววัยเบญจเพสป่วยซึมเศร้า เขียนจดหมายลา ก่อนผูกคอตัวเองเสียชีวิตใต้ต้นมะม่วง
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 27 ก.พ. 66 ร.ต.อ.อนุรุต นวมทอง รอง สว.สอบสวน สภ.ศรีประจันต์ ได้รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิตใต้ต้นมะม่วง บริเวณริมบึงหนองจอก หมู่ 7 ต.วังหว้า อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศรีประจันต์ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพ นายพุฒิพงศ์ อายุ 25 ปี พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว สภาพศพใช้เสื้อเชิ้ตผูกคอติดกับกิ่งมะม่วงเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงนำร่างลงมาชันสูตร ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีแดง ขาว แบบต่อเป็นรถพ่วงข้างขายก๋วยเตี๋ยวตามหมู่บ้านจอดอยู่ ตรวจสอบพบว่าผู้ตายใช้สมุดคู่มือรถเขียนจดหมายสั่งลา บอกรัก และขออโหสิกรรมกับทุกคน พร้อมด้วยรูปยิ้ม ขณะที่ข้างรถจักรยานยนต์ มีชามโฟมใส่ก๋วยเตี๋ยว กินหมดชาม 1 ใบ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนางสาวจตุพร อายุ 19 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ตนกับสามีประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว จะขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จะแยกกันขายก๋วยเตี๋ยวคนละคัน จะตระเวนขายตามหมู่บ้าน อ.ดอนเจดีย์ อ.ศรีประจันต์ อ.สามชุก ซึ่งได้อยู่กินกับผู้ตายมาประมาณ 3 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน วัย 2 ขวบครึ่ง สามีเป็นคนไม่ค่อยพูด จะเป็นคนเก็บกด เงียบ ๆ ชอบอยู่คนเดียว ลักษณะเป็นโรคซึมเศร้า แต่ปกติก็เข้าใจกันดี จะมีทะเลาะกันเรื่องไม่เข้าใจกันบ้าง เรื่องหนี้สินก็ไม่มีอะไร สามีช่วยกันขายก๋วยเตี๋ยวทำงานหาเงินส่งค่างวดรถจักรยานยนต์ทุกเดือน ไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งมาวันนี้มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าสามีผูกคอเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุผู้ตายน่าจะเครียด ซึมเศร้า จึงตัดสินใจผูกคอฆ่าตัวตาย
ขณะที่ นายสุรัตน์ อายุ 57 ปี บิดาผู้ตาย บอกว่า เมื่อเช้าบุตรชาย ให้ตนเปลี่ยนหัวแก๊สให้ ตนก็ซื้อมาเปลี่ยนให้ แต่บุตรชายก็ยังปกติอยู่ไม่มีอาการเครียด ซึ่งผู้ตายกับภรรยา ก็มีการทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ไม่มีอะไรมาก แต่เมื่อเช้าที่ผ่านมาบุตรชายได้ทะเลาะกันกับภรรยาเล็กน้อย เรื่องเกี่ยวกับค้าขายแต่ไม่มีอะไรรุนแรง ก็ไม่ทราบว่าบุตรชายเครียดหรือมีปัญหาอะไร จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายผูกคอตัวเองเสียชีวิตดังกล่าว
ด้าน นายเดชา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.วังหว้า เป็นผู้ที่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุมีคนงานขี่รถผ่านมาให้น้ำในไร่เผือก ใกล้ที่เกิดเหตุ มาพบศพ ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. จึงได้โทรศัพท์แจ้งมาตนทราบ ตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ทางด้านเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุ เจ้าหน้าที่จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
