สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ อดีตรอง ผบ.ตร. ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานตำรวจ ลงพื้นที่เร่งรัดติดตามคดีฆาตกรรมโหด 4 ศพ พื้นที่จังหวัดนราธิวาส และเข้าตรวจสอบรอบบ้านผู้ต้องสงสัยหลังเดิมเพื่อหาหลักฐานเพิ่มด้วยตนเอง หลังเค้นสอบผู้ต้องสงสัยอย่างหนัก พบว่าเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุจริง โดยอยู่ระหว่างเร่งขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่ม
ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมอำพรางยัดศพใส่ท้ายกระโปรงรถเก๋ง และโยนศพทิ้งน้ำ 4 ศพ ที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส หลังจากที่ต้องใช้กฎหมายพิเศษกองกำลัง 3 ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง โดยอาศัยตามอำนาจกฎอัยการศึกเชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน 4 ปาก ที่ศูนย์ซักถาม กรมทหารพรานที่ 46 จังหวัดนราธิวาส และเค้นสอบอย่างหนัก ล่าสุดพบว่าหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวไว้ เป็นผู้ก่อเหตุจริง ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผล เพื่อเชื่อมโยงไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เหลือ ซึ่งคาดว่ายังมีอีกหลายคน
โดยช่วงเย็นวานนี้ (24 ก.พ.) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานตำรวจ ได้ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าด้านคดีที่ สภ.แว้ง และลงพื้นที่บ้านผู้ต้องสงสัยหลังเดิม ที่อยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน และมีบ่อน้ำรอบ ๆ บ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ พบปลอกกระสุนปืน อาวุธปืน คราบเลือด ร่องรอยการเผาโทรศัพท์มือถือภายในบริเวณบ้านมาแล้ว
นอกจากนี้ยังมีพยานบุคคลซึ่งเป็นชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ยืนยันว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ช่วงเวลา 20.00-22.00 น. คืนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปตรวจสอบ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามั่วสุม และเป็นบ้านของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
โดยชุดสืบสวนเชื่อว่าบริเวณบ้านหลังดังกล่าว น่าจะเป็นจุดที่ฆาตกรรมทั้ง 4 ศพ ก่อนจะเคลื่อนย้ายศพออกไป จนต้องนำกำลังเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ใหม่อย่างละเอียดอีกรอบ
นอกจากนี้กล่าวว่า ตอนนี้แนวทางการสืบสวนแคบลง และพบความเชื่อมโยงกลุ่มผู้ก่อเหตุมากขึ้น คาดว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 5-7 คน พร้อมได้กำชับให้ชุดสืบสวนหาหลักฐานให้รัดกุมและรอบคอบ เนื่องจากกลุ่มผู้ตายและผู้ก่อเหตุ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งต้องอาศัยหลักนิติวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยต้องใช้เคมีฟิสิกส์เก็บหลักฐานมัดตัวผู้ก่อเหตุอย่างละเอียด
