ข่าวเย็นประเด็นร้อน - มิจฉาชีพยุคนี้มีวิธีการก่อเหตุอาชญากรรมได้ทุกรูปแบบจริง ๆ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มีคนร้ายไปหลอกหลวงตาอายุ 91 ปี โดยทำทีขอแลกเงินกับหลวงตา ซึ่งหลวงตาก็เป็นพระที่ใจดี ได้ช่วยเหลือแลกเงิน แต่ด้วยสายตาของหลวงตาที่ไม่ดีแล้ว คนร้ายจึงอาศัยช่วงจังหวะนี้ หลอกเอาเงินหลวงตากว่า 5,000 บาท ทำให้หลวงตาเกิดความเครียด และเกิดอาการชักจนมรณภาพ
ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพชายคนหนึ่ง ที่สวมใส่หมวกกันน็อก และขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่หน้ากฏิของหลวงตาอายุ 91 ปี ช่วงเวลาประมาณ 05.57 น.ของเมื่อวานนี้ โดยชายคนนี้ได้ขับรถมาจอดรถด้านหน้ากุฏิ ก่อนจะเคาะประตูเรียกหลวงตาออกมา แล้วทำทีของแลกเงิน หลังจากนั้นชายคนนี้ก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่พอหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เวลาประมาณ 08.46 น. กล้องวงจรปิดในวัดก็จับภาพขณะที่หลวงตาอายุ 91 ปี เกิดอาการชักและหมดสติไป จนพระลูกวัดต้องเข้ามาช่วยกันทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ระหว่างรอรถพยาบาลมาถึง
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่วัดปากน้ำ นนทบุรี ในพื้นที่ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี โดยได้พบกับเจ้าหน้าที่ของวัด ซึ่งเล่าว่า หลวงตาท่านนี้เกิดอาการเครียด มีอาการชักจนหมดสติ กระทั่งมรณภาพในเวลาต่อมา โดยสาเหตุคาดว่า มาจากการที่ถูกมิจฉาชีพมาทำทีขอแลกเงินกับหลวงตา
เจ้าหน้าที่วัดคนนี้ เล่าอีกว่า มีคนร้ายมาขอแลกเงินกับหลวงตา ซึ่งหลวงตามีแบงก์พัน แต่คนที่มาแลก มีแต่ซองเปล่า โดยมาเคาะประตูกุฏิเรียก หลวงตาจึงเปิดไฟและเอาเงินให้ ซึ่งหลวงตามองไม่เห็น เนื่องจากตาข้างหนึ่งใช้การไม่ได้ จึงได้ยกกระเป๋าให้คนร้าย พอคนร้ายเห็นจังหวะนี้ จึงเอาเงินทั้งหมดไป ทิ้งไว้เพียงแค่ซองเปล่าไว้ให้หลวงตาเท่านั้น
ก่อนจะมรณภาพ หลวงตาได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว หลวงตาเคยโดนหลอกเงินไป 3,000 บาท และวันนี้มาโดนอีกครั้ง หลวงตาจำได้ว่าคนเดิมที่เคยมาก่อเหตุ ทำให้หลวงตาเกิดความเครียด เพราะโดนหลอกเงินไป จำนวน 5,000 บาท พอเวลาประมาณ 08.30 น. หลวงตาก็เกิดอาการชัก และมรณภาพในที่สุด
เจ้าหน้าที่วัดยังบอกอีกว่า ปกติหลวงตาเป็นคนอารมณ์ดี ไม่มีโรคประจำตัว ตนสงสารหลวงตามาก เพราะท่านมรณภาพไป ญาติก็ไม่มี ลูกหลานไม่มี มีแต่เจ้าหน้าที่วัดที่คอยดูแล อยากให้ผู้ก่อเหตุมามอบตัว มั่นใจว่าหลวงตาท่านไม่ได้เครียดเรื่องอื่น เครียดเรื่องเงิน 5,000 บาท ที่โดนหลอกไป และทุกคนก็เชื่อว่าสาเหตุมาจากเรื่องนี้
ด้านชาวบ้านในพื้นที่ ขอฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเร่งติดตามคดีนี้ เพราะเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว หากตำรวจไม่เร่งรัดคดี และจับกุมตัวคนร้าย ชาวบ้านจะรวมตัวกันไปร้องเรียนที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1
