ผบ.ทรภ.1 เผย ขณะนี้ผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย มีจิตใจห่อเหี่ยว

View icon 500
วันที่ 26 ธ.ค. 2565
ข่าวช่อง7HD
แชร์
ผบ.ทรภ.1 เผย ขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรือหลวงสุโขทัยอับปาง อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากเป็นรายงานด่วนและความลับ เบื้องต้นยอมรับ “ผู้บังคับการเรือ” มีจิตใจห่อเหี่ยว

พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 1 แถลงสรุปภารกิจค้นหากำลังพลที่สูญหายตลอดทั้งวันวานนี้ (เวลา 19.30 น. 25 ธันวาคม 2565 ) ว่า จากรายงานตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ปรากฎว่าพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย โดยทั้ง 3 ราย มีสิ่งบ่งชี้ได้ว่าเป็นกำลังพลที่สูญหาย แต่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งจุดที่พบนั้นอยู่ในพื้นที่เซกเตอร์ 2A ส่วนล่าง และ 5A รวม 2 ร่าง คือ ในช่วงพื้นที่ตอนล่างของอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และอยู่ติดกับอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ซึ่งทั้ง 2 ร่าง จะมากับเรือ ต.113 ในช่วงเวลา 20.00 น.

ส่วนอีก 1 ร่างนั้น พบที่เกาะไข่ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร โดยทางจังหวัดจะเป็นผู้รับผิดชอบนำร่างส่งมูลนิธิสว่างราษฏร์ศรัทธาธรรมสถาน รวมแล้วตอนนี้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย (นับตั้งแต่เมื่อวาน 8+3) ขณะนี้อยู่ระหว่างรอพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล สูญหายอีก 11 คน ซึ่งทางนิติเวชจะดำเนินการตามขั้นตอนตั้งแต่วันพรุ่งนี้ โดยเชื่อว่าน่าจะมีแนวโน้มที่ร่างจะลอยน้ำใกล้ฝั่งมากขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้

ขณะเดียวกันเคสที่ตรวจสอบพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว 1 ราย คือ พลทหารวรพงษ์ บุญละคร ในวันนี้ 26 ธันวาคม จะออกจากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมืองไปสัตหีบ ก่อนจะนำร่างไปทำพิธีให้สมเกียรติตามขั้นตอนต่อไป

ขณะที่หมู่เรือช่วยเหลือที่ 1 ได้ดำเนินการตามแผนทั้งหมดแล้ว ส่วนหมู่เรือช่วยเหลือที่ 2 เรือหลวงบางระจัน และเรือหลวงราวี ปรากฎว่า วันนี้มีคลื่นลมแรง จึงไม่สามารถออกไปปฏิบัติงานได้ โดยในวันพรุ่งนี้จะต้องตรวจสอบพยากรณ์อากาศอีกครั้งว่าคลื่นลมแรงกว่านี้หรือไม่ หากยังมีคลื่นลมแรงเช่นเดิม ก็ยังไม่สามารถออกไปปฎิบัติภารกิจได้ เพื่อความปลอดภัยของกำลังพล

ส่วนการทำงานบริเวณชายฝั่งและใกล้ชายฝั่งนั้น ศรชล. ได้ร่วมกับ 3 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี รวมถึงส่วนของเอกชน อาสาสมัคร และมูลนิธิฯ ได้เดินเท้าสำรวจตลอดแนวชายฝั่ง แต่บางส่วนไม่สามารถนำเรือออกไปสำรวจได้ เพราะวันนี้ขึ้นลมแรง จึงเน้นปูพรมค้นหาทางบก

ทั้งนี้ในช่วงค่ำคืนวันนี้หมู่เรือช่วยเหลือที่ 1 ยังคงออกปฏิบัติภารกิจอย่างเข้มข้น แต่จะมีเรือหลวงนเรศวร และเรือหลวงนราธิวาส กลับเข้ามาเติมน้ำมันและตรวจเช็คสภาพ ก่อนที่จะออกไปปฎิบัติภารกิจค้นหาต่อในวันพรุ่งนี้ แต่ตอนนี้ยังคงเหลือเรือหลวงอีกสองลำที่ยังคงปฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่ เน้นอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นหลัก พร้อมยืนยันว่าปฎิบัติภารกิจค้นหาเป็นพื้นที่ทั้งหมด

ส่วนล่าสุดจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานกรณีที่พบเคสสีเขียว แต่หวังว่าจะมีร่องรอยบ้าง หลังจากก่อนหน้าที่พบแพของกำลังพลลอยเข้าฝั่ง โดยยังยืนยันว่า “เจ้าหน้าที่ไม่ได้ทิ้งพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง และยังปูพรมค้นหาอย่างเต็มกำลัง ทั้งผิวน้ำ ชายฝั่ง และตามเกาะร้างต่างๆ”

ส่วนในประเด็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงสาเหตุที่เรือหลวงสุโขทัยร่มนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการควบคู่กับการค้นหา โดยขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว ซึ่งเป็นรายงานด่วนและถือเป็นความลับ เบื้องต้นได้เริ่มสอบสวนไปแล้ว พร้อมยอมรับว่าผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย “มีจิตใจห่อเหี่ยว” แต่ก็ได้บอกและให้กำลังใจเจ้าตัวว่า “ข้อเท็จจริงต้องบอกให้หมด อนาคตจะได้นำไปแก้ไข ไม่มีอะไรดีไปกว่าความจริง” ซึ่งหากใครผิดพลาดอะไรตรงไหน ก็จะต้องรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เป็นอุบัติเหตุหรือเกิดจากความประมาท ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ระบุว่า “ตอบไม่ได้ และผู้บังคับการเรือถือว่าอยู่ในชั้นยศสูง นาวาโท มีความสามารถ จึงต้องเชื่อในการตัดสินใจ”