เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจไซเบอร์ สืบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบขายอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ผ่านช่องทางออนไลน์ ให้กับกลุ่มนักเรียนนักศึกษาไปใช้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ได้ของกลางจำนวนมาก รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตด้วย
พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ พร้อมชุดสืบสวน และตัวแทนจากกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหา 4 คน พร้อมของกลางอาวุธปืน ขนาด .45 ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก, ปืนปากกา 4 กระบอก, ปืนไทยประดิษฐ์ แบบลูกซอง และแบบขนาด .22 อีกอย่างละ 1 กระบอก พร้อมกระสุนหลายขนาด รวมกว่า 6,000 นัด, เครื่องมือผลิตอาวุธปืน, สมุดบัญชี, บัตรเอทีเอ็ม, กล่องพัสดุ และโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง
พลตำรวจโท วรวัฒน์ ระบุว่า เป็นการขยายผลต่อเนื่องกัน หลังได้รับข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องที่นักเรียนนักศึกษามีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง นำอาวุธปืนผิดกฎหมายไปก่อเหตุกับคู่อริ จึงสืบสวนจนพบช่องทางขายอาวุธปืนเถื่อนผ่านทางออนไลน์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ และเริ่มเข้าจับกุม นายพิเชษฐ์ ผู้ต้องหาได้เป็นรายแรก ที่บ้านพักย่านลาดกระบัง พร้อมอุปกรณ์การผลิตอาวุธปืน เช่น เครื่องกลึง, เครื่องเจาะเหล็ก, อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบทำปืนปากกา จากนั้นก็ขยายผลไปจับกุม นายปิยทัศน์ ที่แพ็กสินค้าส่งขายให้ลูกค้า ที่บ้านพักในจังหวัดนนทบุรี พร้อมกระสุนกว่า 6,000 นัด และปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ ก่อนจะไปจับกุม นายสมภพ และ นายภัคพล ผู้ร่วมขบวนการจำหน่ายปืนเถื่อนออนไลน์ ได้ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และบุรีรัมย์ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม เรื่องการกวาดล้างอาวุธปืนเถื่อนผิดกฎหมาย ตำรวจมีการระดมกวาดล้างกันมาอย่างต่อเนื่อง อย่างเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ PCT ก็เพิ่งเข้าตรวจค้น 3 จุด ในจังหวัดเชียงใหม่ สุรินทร์ และชลบุรี จับกุมผู้ต้องหา 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน ยึดของกลางเป็นอาวุธปืน 30 กระบอก, กระสุนปืนขนาดต่าง ๆ กว่า 32,000 นัด ตรวจยึดรถยนต์หรู 5 คัน พร้อมเงินสด รวมมูลค่าทรัพย์สินของกลางและตรวจยึดกว่า 50 ล้านบาท
