เมืองกว่างโจว และเมืองฉงชิ่ง ประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ซึ่งการประกาศเกิดขึ้น หลังจากผู้ชุมนุมในภาคใต้ของกว่างโจวปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 วัน
วันนี้ (1 ธ.ค. 65) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมืองกว่างโจวและฉงชิ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด เมื่อวานนี้ ซึ่งการประกาศเกิดขึ้น หลังจากผู้ชุมนุมในภาคใต้ของกว่างโจวปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 วัน โดยผู้ชุมนุมได้ออกมาประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวด
ทางเมืองฉงชิ่ง อนุญาตให้ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ สามารถกักตัวอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องไปอยู่ในศูนย์กักตัว
ด้านเมืองกว่างโจว ก็ประกาศผ่อนคลายการควบคุมเช่นกัน โดยยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์ชั่วคราวในหลายๆ เขตของเมือง ซึ่งเป็นการพยายามบังคับใช้กฎใหม่ที่ทางการประกาศในเดือนพฤศจิกายน เพื่อลดภาระของประชาชนจากการใช้นโยบายโควิดอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ เมืองกว่างโจว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตของจีน ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งล่าสุดของจีน และผู้คนในเมืองทางตอนใต้พากันออกไปประท้วงมาตรการป้องกันโควิดที่เข้มงวดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่มากเป็นประวัติการณ์ จึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” (Zero Covid) แบบกะทันหิน
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ในเมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานขนาดใหญ่ที่ผลิต “ไอโฟน” ซึ่งมีพนักงานติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ขณะนี้ได้ประกาศการเริ่มกลับมาดำเนินการอย่างเป็นระเบียบ รวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ต โรงยิม และร้านอาหาร
ทั้งนี้ ผู้ประท้วงและผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงต่างประเทศบางคนเชื่อว่า การเสียชีวิตของอดีตประธานาธิบดี “เจียง เจ๋อหมิง” อาจกลายเป็นจุดรวมพลครั้งใหม่สำหรับการประท้วงหลังจากเกิดโรคระบาดนาน 3 ปี
