สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วานนี้ (23 พ.ค.64) กระเช้าลอยฟ้า หรือเคเบิล คาร์ ในเมืองสเตรซา ของอิตาลี ที่เชื่อมระหว่างทะเลสาบมัจจิออเรกับยอดเขามอตตาโรเน ได้เกิดร่วงลงมากระแทกพื้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 คน โดยในจำนวนนี้เป็นชาวอิสราเอล 6 คน และมีเด็กอายุราว 5 ปีบาดเจ็บสาหัส 1 คน
ด้านมาร์เซลลา เซเวริโน นายกเทศมนตรีเมืองสเตรซา กล่าวว่า กระเช้าลอยฟ้ากำลังมุ่งหน้าขึ้นสู่ยอดเขา และร่วงลงกระแทกพื้นจากความสูงราวๆ 20 เมตร และกลิ้งไปตามไหลเขา ก่อนหยุดลงหลังจากกระแทกต้นไม้ และผู้เสียชีวิตยางคนกระเด็นออกจากกระเช้า
ขณะที่รัฐบาลอิตาลี มีคำสั่งให้เร่งสอบสวนถึงสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว และทำให้เกิดคำถามตามมาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของกระเช้าลอยฟ้า
ทั้งนี้ ระบบกระเช้าไฟฟ้ารางคู่นี้ถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นช่วงระยะทาง 2 กิโลเมตรระหว่างสเตรซากับอัลปิโน และอีกส่วนระหว่างอัลปิโนกับมอตตาโรเน มีระยะทาง 3 กิโลเมตร โดยประกอบด้วยกระเช้า 2 ตัวขึ้นลงสลับกัน แต่ละกระเช้าสามารถบรรทุกผู้โดยสารสูงสุด 40 คน
อย่างไรก็ตาม กระเช้าลอยฟ้าสเตรซา-มอตตาโรเน เพิ่งกลับเปิดใช้งานเมื่อเร็วๆ นี้ หลังอิตาลีได้ผ่อนปรนมาตรการสกัดโควิด-19 โดยยอดเขามอตตาโรเน เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเพราะว่ามันมีทัศนียภาพแลเห็นทะเลสาบมัจจิออเรอย่างกว้างขวาง เช่นเดียวกับหมู่เกาะที่งดงามต่างๆ และทิวทัศน์รอบๆ เทือกเขาแอลป์
