ดีเอสไอ ส่ง ป.ป.ช. ฟันหมูเถื่อน 11 คดี เอาผิด "จนท.รัฐ-นายทุน" พร้อมประสานยุโรปตั้งคดีใหม่ ลอบขนหมูเถื่อนออกจากไทย

วันที่ 24 เม.ย. 2568
ส่งครบแล้ว ดีเอสไอ ส่ง ป.ป.ช. ฟันหมูเถื่อน 11 คดี เอาผิด "จนท.รัฐ-นายทุน" กว่า 30 ราย พร้อมเปิดคดีหมูเถื่อนล็อตใหม่ลักลอบนำตู้คอนเทนเนอร์ 2,388 ตู้ออกจากประเทศไทย ประสานข้อมูล 7 ประเทศยุโรป ตั้งคดีเริ่มสืบสวนหลัง ส.ค. นี้

วันนี้ (24 เม.ย.68) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินคดีนำเข้าซากสัตว์ชิ้นส่วนสุกรโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือคดีหมูเถื่อน โดย พ.ต.ต.ยุทธนา ยืนยันว่า คดีนี้ดีเอสไอสืบสวนต่อเนื่อง แยกเป็นหลายคดี และคดีส่วนใหญ่ส่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะในส่วนที่มีข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้อง ทั้งข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองที่พบว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งหลังจากนี้ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ในการสืบสวนขยายผลต่อตามกฎหมาย

ด้าน พ.ต.ต. ณฐพล กล่าวว่า ดีเอสไอรับคดีหมูเถื่อนเป็นคดีพิเศษตั้งแต่กลางปี 2566 จากคดีหมูเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักรวมกว่า 4.9 ล้านกิโลกรัม มูลค่าความเสียหายกว่า 460 ล้านบาท ได้แบ่งสำนวนออกเป็น 10 สำนวนตามบริษัทที่กระทำความผิด 10 บริษัท และจากการตรวจค้นจับกุมทั้ง 10 บริษัท พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งหมด จึงทยอยส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. มาตั้งแต่ปี 2567 ถือว่าส่งสำนวนทั้ง 10 สำนวนให้ ป.ป.ช.ครบทั้งหมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลือสำนวนคดีที่ 10 บริษัท นำตู้คอนเทนเนอร์ออกจากประเทศไทยไปแล้ว 2,385 ใบขน หรือ 2,388 ตู้ มีมูลค่าสินค้านำเข้า จำนวน 1,566,760,187 บาท ได้แยกรับเป็นคดีพิเศษที่ 126/2566 และคณะพนักงานสอบสวนก็ได้ลงพื้นที่ในกลุ่มประเทศยุโรป 7 ประเทศ ตั้งแต่อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ค บราซิล ฮ่องกง สิงคโปร์ ซึ่งเป็นต้นทางการสั่งหมู พบว่ามีสิ่งผิดปกติ น่าจะมีการสำแดงเท็จเกือบทั้งหมด เช่น มีการสั่งปลาแซลมอนจากประเทศอิตาลีและบราซิล แต่ทั้ง 2 ประเทศยืนยันว่าไม่มีการส่งสินค้าประเภทนี้เข้ามาในประเทศไทย

ดังนั้น ดีเอสไอต้องพิสูจน์ทราบว่าทั้ง 2,385 ใบขนนี้เป็นสินค้าอะไรกันแน่ จึงได้ประสานความร่วมมือทางอาญากับทั้ง 7 ประเทศส่งข้อมูลกลับมาให้ดีเอสไอ เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งก็จะทำให้พบเส้นทางการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน และล่าสุดทางกลุ่มประเทศยุโรปได้แจ้งว่าได้มีการตั้งเรื่องคดีฟอกเงินเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้าหมูเถื่อนล็อตแรก 161 ตู้คอนเทนเนอร์ มายังประเทศไทยแล้ว โดยมีประเทศอิตาลีเป็นผู้นำตั้งเรื่องสืบสวนเกี่ยวกับการลักลอบขนสินค้าเถื่อนและคดีฟอกเงิน ซึ่งจะเริ่มสืบสวนหลังเดือนส.ค.นี้ โดยมีประเทศไทยร่วมเป็นคณะทำงาน

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จากการตรวจสอบขยายผลขบวนการสวมสิทธิถิ่นกำเนิด ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ได้มีขบวนการร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออกสินค้าซากสัตว์ประเภทต่าง ๆ เพื่อสวมสิทธิถิ่นกำเนิดสินค้าผลิตและส่งออกจากราชอาณาจักรไปยังต่างประเทศ ได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 127/2566 ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว มีผู้ต้องหาจำนวน 14 ราย ประกอบด้วย นายทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยทั้งข้าราชการประจำและฝ่ายการเมือง ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ส่งสำนวนไป ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 9 ก.ย.67

โดยสรุปจากการรับคดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าและส่งออกซึ่งซากสัตว์ รับไว้ทำการสอบสวนทั้งหมด จำนวน 12 คดี ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จำนวน 11 คดี ส่งสำนวนให้กับ ป.ป.ช. แล้ว มีทั้งนายทุนชาวไทย ชาวจีน ข้าราชการประจำ และข้าราชการฝ่ายการเมือง รวมประมาณ 30 ราย โดยข้าราชการมีการระบุชื่อและพฤติการณ์ชัดเจน แต่จะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงและฝ่ายการเมืองนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งอยู่ระหว่าง ป.ป.ช. ขยายผลอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลืออีก 1 เรื่อง (คดีพิเศษ 126/2567) ที่อยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือทางอาญากับอีก 7 ประเทศ เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป

ด้านนายสมบูรณ์ เปิดเผยว่า คดีหมูเถื่อนล็อตใหม่ 2,385 ใบขน หรือ 2,388 ตู้คอนเทนเนอร์นี้ จะต้องไปหารือกับ ป.ป.ช. ว่าจะให้ดีเอสไอส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการเหมือนคดีอื่นหรือไม่ หรือจะให้ดีเอสไอทำคดีไปก่อน เพราะคดีนี้น่าจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการรอข้อมูลจากต่างประเทศ

Gallery