แม่แท้ ๆ ใช้ไอซ์ ลูกเริ่มมีปัญหาตั้งแต่ 3 ขวบครึ่ง

เคสอุทาหรณ์รับดูแลลูก ที่แม่แท้ ๆ ใช้ไอซ์ขณะตั้งครรภ์ ลูกเริ่มมีปัญหาตั้งแต่ 3 ขวบครึ่ง พูดไม่มองหน้า หลบตา รักษาต่อเนื่องมาตลอด ขณะนี้อายุ 7 ขวบ อาการดีขึ้นยังมีปัญหาการควบคุมอารมณ์ ยังคงต้องรับยาต่อเนื่อง
วันนี้ (24 เม.ย.68) เพจเรื่องเล่าจากโรงหมอ แชร์เคสอุทาหรณ์ที่คุณแม่ท่านหนึ่งแชร์ประสบการณ์การรับดูแลลูก ที่คุณแม่แท้ ๆ ของเด็กมีประวัติในขณะตั้งครรภ์ใช้ยาไอซ์ ซึ่งเป็นสารเสพติดกลุ่มเดียวกับยาบ้า แต่มีความบริสุทธิ์สูงกว่ามาก มาให้เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่น ๆ จะได้เห็นอันตรายของการใช้สารเสพติดกลุ่มนี้ และหลีกเลี่ยง
เคสนี้ คุณแม่บอกว่า ลูกซนมากตั้งแต่เด็ก เริ่มเห็นความผิดปกติสัก 3 ขวบครึ่ง พูดไม่มองหน้า หลบตา เมื่อเรียนชั้นอนุบาล 3 การเรียนยากขึ้นจำเป็นต้องใช้สมาธิ ลูกมีปัญหามาก ไม่มีสมาธิ (concentrate) อยู่นิ่งไม่ได้ แป๊บ ๆ ลุกเดิน หมอวินิจฉัยเป็นโรคกลุ่มสมาธิสั้น และเพิ่งย้อนไปซักประวัติได้ว่าขณะตั้งครรภ์แม่แท้ ๆ ใช้ไอซ์ ทำให้ลูกต้องรับการรักษาต่อเนื่องมาตลอด ขณะนี้อายุ 7 ขวบ อาการดีขึ้นยังมีปัญหาการควบคุมอารมณ์ ยังคงต้องรับยา และรักษาต่อเนื่อง
สารเสพติดในกลุ่มแอมเฟตามีน มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท การที่แม่เสพแอมเฟตามีนจึงมีผลต่อการพัฒนาของระบบประสาทลูก และมีผลเสียอื่น ๆ ได้แก่
การเจริญเติบโตของทารกช้าลง (IUGR) – ทารกอาจมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำ ตัวเล็กกว่าปกติ
คลอดก่อนกำหนด – เพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด
ภาวะแทรกซ้อนทางสมองและหัวใจ – เช่น เลือดออกในสมอง หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด
ภาวะถอนยาในทารกแรกเกิด (Neonatal Abstinence Syndrome) เช่น ร้องไม่หยุด ตัวสั่น ดูดนมไม่ดี
พัฒนาการทางสมองและพฤติกรรมผิดปกติในระยะยาว เช่น สมาธิสั้น (ADHD) พฤติกรรมก้าวร้าว การเรียนรู้ช้า
นอกจากนั้น แอมเฟตามีนสามารถส่งผ่านทางน้ำนม ไปสู่ทารกได้ การที่แม่ให้นมเสพยา และส่งผ่านไปยังลูกจะมีผลกระตุ้นระบบประสาทของทารก อาจทำให้ลูกหงุดหงิด นอนไม่หลับ ตัวสั่น และอาจมีผลต่อพัฒนาการทางสมองหากได้รับยาในปริมาณมากหรือต่อเนื่อง
ยาเสพติดไม่ใช้จะดีที่สุด อย่าไปยุ่งกับมัน แต่ถ้ายังมีความเสี่ยง อยากให้คุมกำเนิดให้ดี อย่าให้ลูกต้องมารับความเสี่ยง เกิดมาเจอปัญหาเลย
วันนี้ (24 เม.ย.68) เพจเรื่องเล่าจากโรงหมอ แชร์เคสอุทาหรณ์ที่คุณแม่ท่านหนึ่งแชร์ประสบการณ์การรับดูแลลูก ที่คุณแม่แท้ ๆ ของเด็กมีประวัติในขณะตั้งครรภ์ใช้ยาไอซ์ ซึ่งเป็นสารเสพติดกลุ่มเดียวกับยาบ้า แต่มีความบริสุทธิ์สูงกว่ามาก มาให้เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่น ๆ จะได้เห็นอันตรายของการใช้สารเสพติดกลุ่มนี้ และหลีกเลี่ยง
เคสนี้ คุณแม่บอกว่า ลูกซนมากตั้งแต่เด็ก เริ่มเห็นความผิดปกติสัก 3 ขวบครึ่ง พูดไม่มองหน้า หลบตา เมื่อเรียนชั้นอนุบาล 3 การเรียนยากขึ้นจำเป็นต้องใช้สมาธิ ลูกมีปัญหามาก ไม่มีสมาธิ (concentrate) อยู่นิ่งไม่ได้ แป๊บ ๆ ลุกเดิน หมอวินิจฉัยเป็นโรคกลุ่มสมาธิสั้น และเพิ่งย้อนไปซักประวัติได้ว่าขณะตั้งครรภ์แม่แท้ ๆ ใช้ไอซ์ ทำให้ลูกต้องรับการรักษาต่อเนื่องมาตลอด ขณะนี้อายุ 7 ขวบ อาการดีขึ้นยังมีปัญหาการควบคุมอารมณ์ ยังคงต้องรับยา และรักษาต่อเนื่อง
สารเสพติดในกลุ่มแอมเฟตามีน มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท การที่แม่เสพแอมเฟตามีนจึงมีผลต่อการพัฒนาของระบบประสาทลูก และมีผลเสียอื่น ๆ ได้แก่
การเจริญเติบโตของทารกช้าลง (IUGR) – ทารกอาจมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำ ตัวเล็กกว่าปกติ
คลอดก่อนกำหนด – เพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด
ภาวะแทรกซ้อนทางสมองและหัวใจ – เช่น เลือดออกในสมอง หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด
ภาวะถอนยาในทารกแรกเกิด (Neonatal Abstinence Syndrome) เช่น ร้องไม่หยุด ตัวสั่น ดูดนมไม่ดี
พัฒนาการทางสมองและพฤติกรรมผิดปกติในระยะยาว เช่น สมาธิสั้น (ADHD) พฤติกรรมก้าวร้าว การเรียนรู้ช้า
นอกจากนั้น แอมเฟตามีนสามารถส่งผ่านทางน้ำนม ไปสู่ทารกได้ การที่แม่ให้นมเสพยา และส่งผ่านไปยังลูกจะมีผลกระตุ้นระบบประสาทของทารก อาจทำให้ลูกหงุดหงิด นอนไม่หลับ ตัวสั่น และอาจมีผลต่อพัฒนาการทางสมองหากได้รับยาในปริมาณมากหรือต่อเนื่อง
ยาเสพติดไม่ใช้จะดีที่สุด อย่าไปยุ่งกับมัน แต่ถ้ายังมีความเสี่ยง อยากให้คุมกำเนิดให้ดี อย่าให้ลูกต้องมารับความเสี่ยง เกิดมาเจอปัญหาเลย
Gallery
