แม่เหยื่อ สาวท้องกระทืบดับ ประกาศต่อหน้าสื่อไม่อนุญาต ให้มาขอขมาศพ

แม่เหยื่อ สาวท้องกระทืบดับ ประกาศต่อหน้าสื่อไม่อนุญาต ให้มาขอขมาศพ ลั่น ลิ้นไม่มีกระดูกพูดอะไรก็ได้ ส่วนหลาน 1 ขวบ ที่ลูกสาวทิ้งไว้จะดูแลอย่างดี
23 เมษายน 2568 นางบังอร อายุ 50 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ร่วมกับครอบครัวและบรรดาญาติ ร่วมกันทำบุญเลี้ยงถวายภัตตาหารเพลพระ ที่บริเวณศาลา1 ของวัดปากบ่อ อ่อนนุช 35 กรุงเทพฯ เพื่อแผ่อุทิศส่วนกุศลให้กับนางสาวพจนาถ หรือออย ที่เสียชีวิตจากกรณีถูกสาวท้องทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เป็นวันสุดท้ายก่อนจะมีฌาปนกิจช่วงเวลา 16:00 น. ของวันนี้
โดยบังอร อายุ 50 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต บอกว่า ขณะนี้ตนเองก็ยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ เนื่องจากมันรวดเร็ว เพราะที่ผ่านมาไม่มีลางสังหรณ์บอกเหตุแต่อย่างใด มีเพียงได้มีการนั่งกินข้าวกับลูกสาวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 เมษายนด้วยกัน ซึ่งให้ตนเองนึ่งปลาให้กิน เพราะเป็นอาหารที่ชอบ และพูดคุยตามประสาครอบครัว
จากนั้นลูกสาวก็ได้ออกไปทำงาน จนกระทั่งมาทราบข่าว โดยหลังจากนี้ตนเองก็จะต้องดูแลหลานวัย 1 ขวบ 7 เดือน ที่เป็นมรดกชิ้นสุดท้ายของลูกสาวให้ดีที่สุด ส่วนตัวยังพูดอะไรไม่ออก อยากบอกให้ลูกไปสบาย
ต่อไปนี้ ตนเองก็ไม่มีลูกสาวอีกแล้ว
หลังจากเห็นแต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตนเองเห็นภาพคลิปที่ปรากฏถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ตอนนี้ก็มองว่ารับไม่ได้กับการก่อเหตุที่ความรุนแรงถึงขั้นเอาชีวิต อย่างโหดเหี้ยม ซึ่งรวมทั้งตัวต้นเหตุ หรือนายบาส ไม่มีความพยายาม ออกมาปกป้องลูกสาวตนเองเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่ารักลูกสาวตนเองมาก อย่างน้อย ถ้าหากนายบาส ออกมาในวันนั้นลูกสาวตนเองคงไม่เสียชีวิต
ซึ่งการที่นายบาส อ้างว่ากังวลกลัวกับความรุนแรงที่จะได้รับจากภรรยาเขานั้น เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาเคยถูกภรรยาทำร้าย โดยบาดแผลที่นำมาอ้างนั้นก็เป็นบาดแผลที่เก่าแล้ว ซึ่งไม่รู้ในรายละเอียดของเหตุการณ์ อีกทั้งมีการบอกว่า ถึงลูกสาวเสียชีวิตลงไปแล้วตนเองจะมีการขอบวชให้และจะดูแล ตนเองมองว่า “ลิ้นไม่มีกระดูก” คนจะพูดยังไงก็ได้ เพราะทุกวันนี้การแสดงความรับผิดชอบก็ยังไม่ปรากฎให้เห็นชัด พร้อมกับฝ่ายสาวท้อง ที่ป่าวประกาศให้ทุกคนทราบว่า จะขมา แต่สุดท้ายเหมือนผิดคำพูดเหมือนกันทั้งคู่
รวมทั้งคู่กรณีหรือสาวท้องที่มีการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่าหลังจากที่ได้รับการประกันตัวแล้วจะรีบเดินทางมาขอขมาศพ ตนเองยืนยันว่าไม่อนุญาตให้เข้ามาขอขมาเพราะตนเองมองว่า ไม่จำเป็นแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้ก่อเหตุ ไม่มีความพยายามเลย แต่พอเกิดเป็นข่าวแล้ว กลับจะพยายามจะทำในสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ใจ เพราะก่อนหน้านี้ ทั้งคนก่อเหตุ และญาติของคนก่อเหตุไม่มีการติดต่อประสานมาแต่อย่างใดเลย ซึ่งการจะเข้าพบตนเองหรือขอขมา ควรจะไปเจอกันที่โรงพักเท่านั้น แต่ยืนยันว่า ถึงแม้ว่าจะเดินทางมา ก็จะไม่มีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น
ส่วนเรื่องของทางคดีส่วนตนเองไม่มีความรู้ในเรื่องของทางกฎหมาย แต่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าการก่อเหตุฆ่าคนตายทำไมถึงได้มีการได้ประกันตัวง่ายดายแบบนี้ ตนเองไม่มีความรู้ทางกฎหมายจึงขอตั้งข้อสังเกตแต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
23 เมษายน 2568 นางบังอร อายุ 50 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ร่วมกับครอบครัวและบรรดาญาติ ร่วมกันทำบุญเลี้ยงถวายภัตตาหารเพลพระ ที่บริเวณศาลา1 ของวัดปากบ่อ อ่อนนุช 35 กรุงเทพฯ เพื่อแผ่อุทิศส่วนกุศลให้กับนางสาวพจนาถ หรือออย ที่เสียชีวิตจากกรณีถูกสาวท้องทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เป็นวันสุดท้ายก่อนจะมีฌาปนกิจช่วงเวลา 16:00 น. ของวันนี้
โดยบังอร อายุ 50 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต บอกว่า ขณะนี้ตนเองก็ยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ เนื่องจากมันรวดเร็ว เพราะที่ผ่านมาไม่มีลางสังหรณ์บอกเหตุแต่อย่างใด มีเพียงได้มีการนั่งกินข้าวกับลูกสาวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 เมษายนด้วยกัน ซึ่งให้ตนเองนึ่งปลาให้กิน เพราะเป็นอาหารที่ชอบ และพูดคุยตามประสาครอบครัว
จากนั้นลูกสาวก็ได้ออกไปทำงาน จนกระทั่งมาทราบข่าว โดยหลังจากนี้ตนเองก็จะต้องดูแลหลานวัย 1 ขวบ 7 เดือน ที่เป็นมรดกชิ้นสุดท้ายของลูกสาวให้ดีที่สุด ส่วนตัวยังพูดอะไรไม่ออก อยากบอกให้ลูกไปสบาย
ต่อไปนี้ ตนเองก็ไม่มีลูกสาวอีกแล้ว
หลังจากเห็นแต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตนเองเห็นภาพคลิปที่ปรากฏถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ตอนนี้ก็มองว่ารับไม่ได้กับการก่อเหตุที่ความรุนแรงถึงขั้นเอาชีวิต อย่างโหดเหี้ยม ซึ่งรวมทั้งตัวต้นเหตุ หรือนายบาส ไม่มีความพยายาม ออกมาปกป้องลูกสาวตนเองเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่ารักลูกสาวตนเองมาก อย่างน้อย ถ้าหากนายบาส ออกมาในวันนั้นลูกสาวตนเองคงไม่เสียชีวิต
ซึ่งการที่นายบาส อ้างว่ากังวลกลัวกับความรุนแรงที่จะได้รับจากภรรยาเขานั้น เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาเคยถูกภรรยาทำร้าย โดยบาดแผลที่นำมาอ้างนั้นก็เป็นบาดแผลที่เก่าแล้ว ซึ่งไม่รู้ในรายละเอียดของเหตุการณ์ อีกทั้งมีการบอกว่า ถึงลูกสาวเสียชีวิตลงไปแล้วตนเองจะมีการขอบวชให้และจะดูแล ตนเองมองว่า “ลิ้นไม่มีกระดูก” คนจะพูดยังไงก็ได้ เพราะทุกวันนี้การแสดงความรับผิดชอบก็ยังไม่ปรากฎให้เห็นชัด พร้อมกับฝ่ายสาวท้อง ที่ป่าวประกาศให้ทุกคนทราบว่า จะขมา แต่สุดท้ายเหมือนผิดคำพูดเหมือนกันทั้งคู่
รวมทั้งคู่กรณีหรือสาวท้องที่มีการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่าหลังจากที่ได้รับการประกันตัวแล้วจะรีบเดินทางมาขอขมาศพ ตนเองยืนยันว่าไม่อนุญาตให้เข้ามาขอขมาเพราะตนเองมองว่า ไม่จำเป็นแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้ก่อเหตุ ไม่มีความพยายามเลย แต่พอเกิดเป็นข่าวแล้ว กลับจะพยายามจะทำในสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ใจ เพราะก่อนหน้านี้ ทั้งคนก่อเหตุ และญาติของคนก่อเหตุไม่มีการติดต่อประสานมาแต่อย่างใดเลย ซึ่งการจะเข้าพบตนเองหรือขอขมา ควรจะไปเจอกันที่โรงพักเท่านั้น แต่ยืนยันว่า ถึงแม้ว่าจะเดินทางมา ก็จะไม่มีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น
ส่วนเรื่องของทางคดีส่วนตนเองไม่มีความรู้ในเรื่องของทางกฎหมาย แต่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าการก่อเหตุฆ่าคนตายทำไมถึงได้มีการได้ประกันตัวง่ายดายแบบนี้ ตนเองไม่มีความรู้ทางกฎหมายจึงขอตั้งข้อสังเกตแต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
Gallery
