ครม. ไฟเขียว เปิดทางส่งออก “งูสวยงาม” สร้างรายได้เข้าประเทศ

คณะรัฐมนตรี ยกเลิกมติห้ามส่งออกงูมีชีวิตสร้างรายได้เข้าประเทศ และสนับสนุนธุรกิจเพาะเลี้ยงงูสวยงาม โดยเน้นไปที่ “งูสวยงาม”
วันนี้ (23 เม.ย. 68) คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติสำคัญเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้ยกเลิกมติ ครม. เดิมเมื่อปี 2533 และ 2534 ที่ห้ามการส่งออกงูมีชีวิตและหนังงูที่ยังไม่แปรรูปออกนอกราชอาณาจักร นับเป็นการปลดล็อกข้อจำกัดที่บังคับใช้มากว่า 30 ปี เพื่อเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ
โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายสดุดี พันธุ์ภักดี ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา (ไซเตส) เป็นผู้เสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแก้ไขปัญหาและเปิดช่องทางให้สามารถส่งออก "งูสวยงาม" ที่เพาะเลี้ยงในประเทศไปยังตลาดต่างประเทศซึ่งมีความต้องการสูง
การยกเลิกมติดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลดีหลายด้าน ทั้งการสร้างรายได้เข้าประเทศจากการส่งออก, การสนับสนุนธุรกิจเพาะเลี้ยงงูสวยงามให้กับประชาชนผู้ประกอบการ และที่สำคัญคือการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำงูมีชีวิตออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งการเปิดให้ส่งออกอย่างถูกกฎหมายภายใต้การกำกับดูแล จะช่วยลดแรงจูงใจในการกระทำผิดได้
ปัจจุบัน การซื้อขายงูสวยงามภายในประเทศมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 275 ล้านบาท/ปี นอกจากนี้ ยังมีมูลค่าธุรกิจที่สืบเนื่องจากงูสวยงาม ซึ่งทำให้เกิดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ เช่น ธุรกิจการผลิตสัตว์อาหารงู ไม่ต่ำกว่า 180 ล้านบาท/ปี, ธุรกิจอาหารสำหรับเลี้ยงเหยื่องู ไม่ต่ำกว่า 51 ล้านบาท/ปี, ธุรกิจอุปกรณ์ในการเลี้ยงงู ไม่ต่ำกว่า 17 ล้านบาท/ปี, การรักษางูจากโรงพยาบาลสัตว์ (รวมยาเวชภัณฑ์) ไม่ต่ำกว่า 6 ล้านบาท/ปี เป็นต้น
ทั้งนี้ ประชาชนและผู้ประกอบการที่สนใจจะส่งออกงูจะต้องดำเนินการขออนุญาตตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ซึ่งเป็นกรอบกฎหมายที่มีความเข้มงวดในการพิจารณา เพื่อให้มั่นใจว่าการค้าสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า และผลิตภัณฑ์ จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศ ไม่ทำให้ชนิดพันธุ์สัตว์ป่าต้องสูญพันธุ์ และป้องกันการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย
วันนี้ (23 เม.ย. 68) คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติสำคัญเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้ยกเลิกมติ ครม. เดิมเมื่อปี 2533 และ 2534 ที่ห้ามการส่งออกงูมีชีวิตและหนังงูที่ยังไม่แปรรูปออกนอกราชอาณาจักร นับเป็นการปลดล็อกข้อจำกัดที่บังคับใช้มากว่า 30 ปี เพื่อเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ
โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายสดุดี พันธุ์ภักดี ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา (ไซเตส) เป็นผู้เสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแก้ไขปัญหาและเปิดช่องทางให้สามารถส่งออก "งูสวยงาม" ที่เพาะเลี้ยงในประเทศไปยังตลาดต่างประเทศซึ่งมีความต้องการสูง
การยกเลิกมติดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลดีหลายด้าน ทั้งการสร้างรายได้เข้าประเทศจากการส่งออก, การสนับสนุนธุรกิจเพาะเลี้ยงงูสวยงามให้กับประชาชนผู้ประกอบการ และที่สำคัญคือการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำงูมีชีวิตออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งการเปิดให้ส่งออกอย่างถูกกฎหมายภายใต้การกำกับดูแล จะช่วยลดแรงจูงใจในการกระทำผิดได้
ปัจจุบัน การซื้อขายงูสวยงามภายในประเทศมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 275 ล้านบาท/ปี นอกจากนี้ ยังมีมูลค่าธุรกิจที่สืบเนื่องจากงูสวยงาม ซึ่งทำให้เกิดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ เช่น ธุรกิจการผลิตสัตว์อาหารงู ไม่ต่ำกว่า 180 ล้านบาท/ปี, ธุรกิจอาหารสำหรับเลี้ยงเหยื่องู ไม่ต่ำกว่า 51 ล้านบาท/ปี, ธุรกิจอุปกรณ์ในการเลี้ยงงู ไม่ต่ำกว่า 17 ล้านบาท/ปี, การรักษางูจากโรงพยาบาลสัตว์ (รวมยาเวชภัณฑ์) ไม่ต่ำกว่า 6 ล้านบาท/ปี เป็นต้น
ทั้งนี้ ประชาชนและผู้ประกอบการที่สนใจจะส่งออกงูจะต้องดำเนินการขออนุญาตตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ซึ่งเป็นกรอบกฎหมายที่มีความเข้มงวดในการพิจารณา เพื่อให้มั่นใจว่าการค้าสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า และผลิตภัณฑ์ จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศ ไม่ทำให้ชนิดพันธุ์สัตว์ป่าต้องสูญพันธุ์ และป้องกันการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย
Gallery
