เจ้าหนี้เงินกู้โหด อุ้มพระทำร้ายปืนตบหน้า จมูกหัก กรามแตก ทางวัดอยากให้สึกเลยอ้างหมอ-พยาบาล จะได้รักษาง่าย

เจ้าหนี้เงินกู้โหด อุ้มพระลูกวัดเมืองนนท์ทำร้ายปืนตบหน้า จมูกหัก กรามแตก บาดเจ็บสาหัส ขณะที่ทางวัดอยากให้สึกเลย อ้างหมอ พยาบาล จะได้รักษาง่าย เผย พระผู้บาดเจ็บเคยมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 21 เม.ย. 68 นายบรูณ์ทิพัฒน์ เจริญลีฬหา อายุ 48 ปี ตัวแทนเพจกล้าที่จะกล้า ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.จุฑาทิพ อายุ 26 ปี ว่าพระพรหมพงศ์ พระลูกวัดแห่งหนึ่งใน อ.เมืองนนทบุรี ซึ่งเป็นพระพี่ชายถูกคนร้ายจำนวน 2 คน มาอุ้มไปจากกุฏิวัดและทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 19 เม.ย. 68 ที่วัดแห่งหนึ่ง ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพตนร้ายจำนวน 2 คนขับขี่รถ จยย. ออกไปทางซอยกรุงเทพ-นนท์ 2 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี โดยมีพระพรหมพงศ์ นั่งซ้อนกลาง
ทางเพจกล้าที่จะก้าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากเพื่อนของพระพรหมพงศ์ว่า คืนวันที่ 19 เม.ย.68 มีชาย 2 คนขับรถ จยย. เข้าไปที่วัดและขึ้นไปหาพระพรหมพงศ์ที่กุฏิ เพื่อทวงเงินจำนวน 10,000 บาท แต่ทางพระยังไม่มีให้จึงถูกทำร้ายร่างกาย และชกต่อยกัน จากนั้นนายไมค์ 1 ในคนที่มาทวงเงินได้ใช้อาวุธปืนตบไปที่ใบหน้าของพระพรหมพงศ์
ก่อนจะใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้พระเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดา แล้วบังคับขึ้นรถ จยย. ขับออกจาดวัดไปโดยให้ชายอีกคนนั่งประกบหลัง จากนั้นทราบว่าได้พาพระไปทำร้ายซ้ำอีกที่แห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด ก่อนปล่อยตัวพระนั่งแท็กซี่ไปหาน้องสาวเพื่อขอความช่วยเหลือ
น.ส.จุฑาทิพ น้องสาวพระที่ถูกทำร้าย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 68 เวลา 23.30 น. หลวงพี่ได้เดินทางไปหาตนที่บ้าน และให้ตนพาไปส่งโรงพยาบาล ตนเห็นหลวงพี่มีเชือดออกจากจมูกและล้มลงไปนอน ขอน้ำดื่ม พอตนเห็นตนก็โทรเช็กสิทธิ์โรงพยาบาลให้ว่าหลวงพี่จะไปรักษาที่ไหนได้บ้าง แต่หลวงพี่อาการหนักบอดว่าไม่ไหวให้รีบพาไปโรงพยาบาล ตนจึงพาหลวงพี่ไปที่วชิรพยาบาล ทางโรงพยาบาลเช็กสิทธิ์ให้เพราะถ้ารักษาที่วิชระจะต้องจ่ายเงินเอง ตนจึงย้ายไปที่โรงพยาบาลย่านสีลม ทางโรงพยาบาลที่สีลมได้ทำการเอกซเรย์พบว่ากระดูกที่ใบหน้าข้างซ้ายหักหลายส่วน กรามข้างซ้ายหัก จมูกหักเบี้ยว หัวเข่าถลอก
ตอนนี้หลวงพี่ยังรักษาตัวรอผ่าตัดไม่รู้ว่าใครทำร้าย รู้แต่ว่าคนที่ทำร้ายมี 2 คน หนึ่งในนั้นชื่อว่านายไมค์ ส่วนสาเหตุตนทราบแต่ว่าเป็นเรื่องเงิน แต่ตนไม่รู้ว่าเงินอะไร เท่าไหร่
น.ส.จุฑาทิพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ระหว่างที่หลวงพี่รอรักษาตัวที่โรงพยาบาล ได้มีพระที่วัดที่หลวงพี่บวชอยู่เดินทางไปที่โรงพยาบาลและจะให้หลวงพี่สึก โดยอ้างเหตุผลว่าหลวงพี่จะได้รักษาตัวง่ายขึ้น เนื่องจากพยาบาลจะได้ดูแลสะดวก เป็นพระในผ้าเหลืองจะรักษาไม่สะดวก
ส่วนตนคิดว่าน่าจะมีเรื่องอื่นถึงจะให้หลวงพี่สึก ตนไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ตอนนี้หลวงพี่ยังสึกไม่ได้เนื่องจากไม่สามารถพูดได้ ยังเปล่งคำสึกไม่ได้ แต่หลวงพี่มีกำหนดสึกวันที่ 6 พ.ค. อยู่แล้วแต่มีเรื่องเกิดขึ้นเสียก่อน แต่ตอนนี้ทางคนอบครัวไม่ยอมให้สึกเพราะเรื่องเกิดภายในวัด ตนรู้สึกไม่ดีที่ทางวัดบังคับให้หลวงพี่สึก เพื่อนของหลวงพี่ยังได้โต้เถียงกับพระที่จะไปสึกว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ทำไมไม่ดูอาการของพระเลย
หลังเกิดเรื่องทางวัดก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร ทั้งที่หลวงพี่ถูกอุ้มออกมาจากกุฏิ ตนมองว่าเหตุการณ์นี้มันร้ายแรง ทำเกินกว่าเหตุเพราะเงินมันก็ไม่ได้มาก ตนรู้แต่ว่าคนทำร้ายอยู่ที่ปากเกร็ด เป็นคนปล่อยเงินกู้ ตนอยากให้ทางเพจกล้าที่จะก้าว ช่วยตามคดีหาตัวคนร้ายที่ทำหลวงพี่ ตอนนี้ตนกลัวว่าเขาจะกลับมาทำร้ายอีก และก็ห่วงเรื่องความปลอดภัยของตนเองด้วย
ล่าสุดวันที่ 22 เม.ย.68 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.อ.ชยชัย นาธนกาญจน ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เผยว่า ขณะนี้พระบาดเจ็บสาหัสยังไม่สามารถให้การได้ จึงยังไม่ได้สอบปากคำ ต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บ
ส่วนความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุหลบหนี ขณะนี้ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นใคร
ความคืบหน้าที่วัดจุดเกิดเหตุลูกศิษย์วัด พาทีมข่าวไปดูกุฎิของพระโดม เป็นกุฎิทรงไทย อยู่หลังเดียว ภายในพบข้าวของพระโดม แต่ที่ผิดสังเกตคือหัวพอตบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ไฟฟ้า ขวดน้ำกระท่อม อยู่ภายในกุฎิ
โดยลูกศิษย์วัด เคยตักเตือนแล้วว่าหากบวชในห้วงเวลาสั้น ๆ ให้ปฏิบัติตัวให้ดี แต่กลับมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมพาเพื่อนมามั่วสุมจับกลุ่มที่วัด และที่หนักที่สุดคือวันที่ 12 เมษายน พากลุ่มเพื่อนมามั่วสุมจับกลุ่มมีอาการมึนเมา แทบจะเดินไม่ได้ ตนเองจึงเข้าไปต่อว่า และถามว่าเล่นตัวไหนมา แต่พูดไม่รู้เรื่อง ครอบครัวจึงมาคุยเจรจากับเจ้าอาวาสกัน และรับปากจะปรับปรุงตัวในระหว่างที่รอวันสึก 6 พฤษภาคม แต่หากมีเรื่องมีราวอีกจะต้องสึก จนสุดท้ายก็ถูกอุ้มตัวไปถูกทำร้ายร่างกาย แต่กลับมาโทษ ที่วัดว่าไม่มีใครดูแลช่วยเหลือ
ซึ่งตามเวลาเกือบ 5 ทุ่มไม่มีพระรูปไหนตื่นมาเห็นแน่นอน และหลังถูกทำร้ายก็นั่งแท็กซี่กลับบ้าน ไม่ได้มาขอความช่วยเหลือที่วัดเลย
แต่นางสาวจุฑาทิพ กลับมาร้องเรียนโยนความผิดให้กับวัดว่าไม่ดูแลช่วยเหลือ และที่ตนเองกับพระลูกวัดไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปสึก เพราะได้พูดคุยตกลงกันแล้ว และเป็นเรื่องราวทางคดีอาญา ประกอบกับรักษาตัวอยู่การสึกจากพระจึงเหมาะสม ไม่ได้เกี่ยวกับกลัวชื่อเสียงวัดเสียหายหรือจะจัดงานอะไร ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย และที่ตนเองต้องให้เคลียร์กันภายในเพราะว่า ที่บอกว่าเงินกู้ 10,000 บาท เป็นเงินกู้ตามปกติทั่วไปหรือไม่ เพราะถ้าทำให้เป็นเรื่องใหญ่สืบเสาะไปคนที่เสียหายก็คือตัวพระโดมเอง
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 21 เม.ย. 68 นายบรูณ์ทิพัฒน์ เจริญลีฬหา อายุ 48 ปี ตัวแทนเพจกล้าที่จะกล้า ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.จุฑาทิพ อายุ 26 ปี ว่าพระพรหมพงศ์ พระลูกวัดแห่งหนึ่งใน อ.เมืองนนทบุรี ซึ่งเป็นพระพี่ชายถูกคนร้ายจำนวน 2 คน มาอุ้มไปจากกุฏิวัดและทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 19 เม.ย. 68 ที่วัดแห่งหนึ่ง ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพตนร้ายจำนวน 2 คนขับขี่รถ จยย. ออกไปทางซอยกรุงเทพ-นนท์ 2 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี โดยมีพระพรหมพงศ์ นั่งซ้อนกลาง
ทางเพจกล้าที่จะก้าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากเพื่อนของพระพรหมพงศ์ว่า คืนวันที่ 19 เม.ย.68 มีชาย 2 คนขับรถ จยย. เข้าไปที่วัดและขึ้นไปหาพระพรหมพงศ์ที่กุฏิ เพื่อทวงเงินจำนวน 10,000 บาท แต่ทางพระยังไม่มีให้จึงถูกทำร้ายร่างกาย และชกต่อยกัน จากนั้นนายไมค์ 1 ในคนที่มาทวงเงินได้ใช้อาวุธปืนตบไปที่ใบหน้าของพระพรหมพงศ์
ก่อนจะใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้พระเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดา แล้วบังคับขึ้นรถ จยย. ขับออกจาดวัดไปโดยให้ชายอีกคนนั่งประกบหลัง จากนั้นทราบว่าได้พาพระไปทำร้ายซ้ำอีกที่แห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด ก่อนปล่อยตัวพระนั่งแท็กซี่ไปหาน้องสาวเพื่อขอความช่วยเหลือ
น.ส.จุฑาทิพ น้องสาวพระที่ถูกทำร้าย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 68 เวลา 23.30 น. หลวงพี่ได้เดินทางไปหาตนที่บ้าน และให้ตนพาไปส่งโรงพยาบาล ตนเห็นหลวงพี่มีเชือดออกจากจมูกและล้มลงไปนอน ขอน้ำดื่ม พอตนเห็นตนก็โทรเช็กสิทธิ์โรงพยาบาลให้ว่าหลวงพี่จะไปรักษาที่ไหนได้บ้าง แต่หลวงพี่อาการหนักบอดว่าไม่ไหวให้รีบพาไปโรงพยาบาล ตนจึงพาหลวงพี่ไปที่วชิรพยาบาล ทางโรงพยาบาลเช็กสิทธิ์ให้เพราะถ้ารักษาที่วิชระจะต้องจ่ายเงินเอง ตนจึงย้ายไปที่โรงพยาบาลย่านสีลม ทางโรงพยาบาลที่สีลมได้ทำการเอกซเรย์พบว่ากระดูกที่ใบหน้าข้างซ้ายหักหลายส่วน กรามข้างซ้ายหัก จมูกหักเบี้ยว หัวเข่าถลอก
ตอนนี้หลวงพี่ยังรักษาตัวรอผ่าตัดไม่รู้ว่าใครทำร้าย รู้แต่ว่าคนที่ทำร้ายมี 2 คน หนึ่งในนั้นชื่อว่านายไมค์ ส่วนสาเหตุตนทราบแต่ว่าเป็นเรื่องเงิน แต่ตนไม่รู้ว่าเงินอะไร เท่าไหร่
น.ส.จุฑาทิพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ระหว่างที่หลวงพี่รอรักษาตัวที่โรงพยาบาล ได้มีพระที่วัดที่หลวงพี่บวชอยู่เดินทางไปที่โรงพยาบาลและจะให้หลวงพี่สึก โดยอ้างเหตุผลว่าหลวงพี่จะได้รักษาตัวง่ายขึ้น เนื่องจากพยาบาลจะได้ดูแลสะดวก เป็นพระในผ้าเหลืองจะรักษาไม่สะดวก
ส่วนตนคิดว่าน่าจะมีเรื่องอื่นถึงจะให้หลวงพี่สึก ตนไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ตอนนี้หลวงพี่ยังสึกไม่ได้เนื่องจากไม่สามารถพูดได้ ยังเปล่งคำสึกไม่ได้ แต่หลวงพี่มีกำหนดสึกวันที่ 6 พ.ค. อยู่แล้วแต่มีเรื่องเกิดขึ้นเสียก่อน แต่ตอนนี้ทางคนอบครัวไม่ยอมให้สึกเพราะเรื่องเกิดภายในวัด ตนรู้สึกไม่ดีที่ทางวัดบังคับให้หลวงพี่สึก เพื่อนของหลวงพี่ยังได้โต้เถียงกับพระที่จะไปสึกว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ทำไมไม่ดูอาการของพระเลย
หลังเกิดเรื่องทางวัดก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร ทั้งที่หลวงพี่ถูกอุ้มออกมาจากกุฏิ ตนมองว่าเหตุการณ์นี้มันร้ายแรง ทำเกินกว่าเหตุเพราะเงินมันก็ไม่ได้มาก ตนรู้แต่ว่าคนทำร้ายอยู่ที่ปากเกร็ด เป็นคนปล่อยเงินกู้ ตนอยากให้ทางเพจกล้าที่จะก้าว ช่วยตามคดีหาตัวคนร้ายที่ทำหลวงพี่ ตอนนี้ตนกลัวว่าเขาจะกลับมาทำร้ายอีก และก็ห่วงเรื่องความปลอดภัยของตนเองด้วย
ล่าสุดวันที่ 22 เม.ย.68 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.อ.ชยชัย นาธนกาญจน ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เผยว่า ขณะนี้พระบาดเจ็บสาหัสยังไม่สามารถให้การได้ จึงยังไม่ได้สอบปากคำ ต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บ
ส่วนความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุหลบหนี ขณะนี้ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นใคร
ความคืบหน้าที่วัดจุดเกิดเหตุลูกศิษย์วัด พาทีมข่าวไปดูกุฎิของพระโดม เป็นกุฎิทรงไทย อยู่หลังเดียว ภายในพบข้าวของพระโดม แต่ที่ผิดสังเกตคือหัวพอตบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ไฟฟ้า ขวดน้ำกระท่อม อยู่ภายในกุฎิ
โดยลูกศิษย์วัด เคยตักเตือนแล้วว่าหากบวชในห้วงเวลาสั้น ๆ ให้ปฏิบัติตัวให้ดี แต่กลับมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมพาเพื่อนมามั่วสุมจับกลุ่มที่วัด และที่หนักที่สุดคือวันที่ 12 เมษายน พากลุ่มเพื่อนมามั่วสุมจับกลุ่มมีอาการมึนเมา แทบจะเดินไม่ได้ ตนเองจึงเข้าไปต่อว่า และถามว่าเล่นตัวไหนมา แต่พูดไม่รู้เรื่อง ครอบครัวจึงมาคุยเจรจากับเจ้าอาวาสกัน และรับปากจะปรับปรุงตัวในระหว่างที่รอวันสึก 6 พฤษภาคม แต่หากมีเรื่องมีราวอีกจะต้องสึก จนสุดท้ายก็ถูกอุ้มตัวไปถูกทำร้ายร่างกาย แต่กลับมาโทษ ที่วัดว่าไม่มีใครดูแลช่วยเหลือ
ซึ่งตามเวลาเกือบ 5 ทุ่มไม่มีพระรูปไหนตื่นมาเห็นแน่นอน และหลังถูกทำร้ายก็นั่งแท็กซี่กลับบ้าน ไม่ได้มาขอความช่วยเหลือที่วัดเลย
แต่นางสาวจุฑาทิพ กลับมาร้องเรียนโยนความผิดให้กับวัดว่าไม่ดูแลช่วยเหลือ และที่ตนเองกับพระลูกวัดไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปสึก เพราะได้พูดคุยตกลงกันแล้ว และเป็นเรื่องราวทางคดีอาญา ประกอบกับรักษาตัวอยู่การสึกจากพระจึงเหมาะสม ไม่ได้เกี่ยวกับกลัวชื่อเสียงวัดเสียหายหรือจะจัดงานอะไร ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย และที่ตนเองต้องให้เคลียร์กันภายในเพราะว่า ที่บอกว่าเงินกู้ 10,000 บาท เป็นเงินกู้ตามปกติทั่วไปหรือไม่ เพราะถ้าทำให้เป็นเรื่องใหญ่สืบเสาะไปคนที่เสียหายก็คือตัวพระโดมเอง
Gallery
