หลานร้องขอความเป็นธรรม เชื่อหลานเขยออกอุบายให้ยายเซ็นเอกสารที่ดิน ก่อนถูกประกาศขาย

หลานร้องขอความเป็นธรรม เชื่อหลานเขยออกอุบายให้ยายเซ็นเอกสารที่ดิน ก่อนถูกประกาศขาย
จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน part 6 โพสต์ภาพ และข้อความว่าคุณยายอายุ 93 โดนหลอกให้เซ็นเรื่องที่ดิน ก่อนจะถูกติดป้ายขายที่ที่ยายอาศัยอยู่
“ผมขอออกมาชี้แจงรายละเอียดคร่าว ๆ นะครับพี่ ๆ ผมเป็นหลานยายโดยตรง อาศัยอยู่กับคุณยาย ที่บ้านอาศัยอยู่กัน 3 คน แม่/ยาย และก็ตัวผมเองเหตุการที่เกิดขึ้น..คือที่ดินตรงนี้เป็นที่ของยายมายด์และยายมายด์เป็นน้องสาวของยายใบ มีที่ดินจำนวน 4 ไร่ เมื่อก่อนยายมายด์ก็อาศัยอยู่กับยายใบ (คือยายคนในรูป) แต่ในเวลาต่อมาน้องชายของยายใบได้มารับยายมายด์ไปเลี้ยงดูเพราะรู้ดีว่ายายมายด์มีที่ดิน และในเวลาต่อมาน้องชายของยายใบจะเอาที่ตรงนี้ไปขาย แต่ที่มันยังเป็นของยายมายด์อยู่ ตัวยายมายด์เองเป็นผู้พิการทางสมองตั้งแต่เกิดไม่สามารถเซ็นยกที่ให้ใครได้ แล้วก็ไม่มีลูกมีผัว ที่ดิน 4 ไร่ยังต้องตกอยู่ในชั้นพี่น้องซึ่งมีทั้งหมด 3 คน
คือยายใบ/ยายมายด์/และน้องชาย ผมไปถามที่กรมที่ดินมาไปกันทั้งหมด ยายมายด์ไม่สามารถ ยกให้ใครได้นอกจากมีผู้อนุบาลและผู้อนุบาลนั้นก็เป็นน้องชาย
เมื่อเวลาผ่านไปหลานเขยของยายออกกลอุบาย เพราะรู้เห็นกับน้องชายของยาย เพราะว่าหลานเขยอยากจะซื้อที่ผืนนี้ตั้งแต่แรก เลยชักชวนให้ยายไปเซ็นเอกสารฉบับหนึ่ง โดยบอกกับยายว่าถ้าเซ็นแล้วเดี๋ยวจะยกที่ที่อยู่ให้ ด้วยความที่ยายใบไม่รู้ประสาอะไรเพราะเขาบอกว่าถ้าเซ็นแล้วเขาจะแบ่งให้ส่วนที่ยายอยู่ ยายก็ไม่ได้ปรึกษากับลูกหลานเลยเซ็นไปโดยไม่รู้ว่าเอกสารฉบับนั้นคืออะไร แต่สุดท้ายแล้วเอกสารฉบับนั้นคือการยกที่ดินให้เขาไปแล้ว ยายมารู้ทีหลังว่าไม่มีการแบ่งให้คือยายรู้วันนี้ เพราะน้องชายของยายมาติดป้ายขาย ในวันนี้และยายบอกว่ายายจะไปอยู่ที่ไหน ลูกของน้องชายยายบอกว่าก็ให้ไปอยู่ที่อื่นสิเพราะตรงนี้เขาจะขาย อันนี้คือคำบอกเล่าจากปากคุณยายโดยตรงครับ แล้วพวกผมกับยายจะเอาที่ไหนซุกหัวนอนกันครับ”
วันที่ 21 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ กับ นายศุภโชติ อายุ 20 ปี และนางทองใบ อายุ 93 ปี กำลังพายายทองใบมายื่นเรื่องขอความเป็นธรรม ที่ อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับยายทองใบ อายุ 93 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนเองมีพี่น้อง 7 คน เสียชีวิต 4 คน ตอนนี้เหลือกันสามคนพี่น้องคือ
1. นางทองใบ อายุ 93 ปี
2. นางละมาย อายุ 88 ปี (เจ้าของที่ดิน 4 ไร่ เป็นผู้พิการทางสมอง )
3. นายปทุม อายุ 85 ปี (น้องชาย)
ดั้งเดิมที่ดินตรงนี้ก็จะมีตนเองอาศัยอยู่กับลูกสาวหลานชาย อยู่กันมานานจนจะล้มหายตายจากกันแล้ว แต่จู ๆ เมื่อวานนายปทุม (น้องชาย ) และลูกชาย ได้นำป้ายมาติดประกาศขายที่ดิน 4 ไร่
ตนเองก็รู้สึกตกใจว่ามาติดประกาศขายที่ดินตรงนี้ได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ดินตรงนี้ไม่ใช่ของนายปทุม แต่เป็นที่ดินของยายละมาย ซึ่งเป็นน้องสาว ตนเองก็ไม่เข้าใจ ตอนนี้ก็รู้สึกหวั่นใจว่าจะไม่มีอยู่อาศัย
ด้านนายศุภโชติ ยายทองใบ เจ้าของโพสต์ พาไปดูที่ดิน 4 ไร่ ที่อยู่ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.คลองน้อย อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา พบบริเวณรั้วบ้านยังมีป้ายติดประกาศขายที่ดิน 4 ไร่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์
โดยนายศุภโชติ เล่าให้ฟังว่าเมื่อวานตนเองกับยายทองใบรู้สึกตกใจมากเมื่อเห็นนายปทุม และลูกชาย นำป้ายมาติดประกาศขาย ซึ่งตัวยายทองใบก็เข้าไปพูดคุยสอบถามว่ามาติดป้ายขายได้อย่างไรตัวนายปทุม ก็พูดว่าก็จะขายเพราะตนเองเป็นคนดูแลยายละมาย ส่วนใหญ่ยายทองใบจะไปอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ ซึ่งตนเองก็มองว่ามันไม่เป็นธรรมทั้ง ๆ ที่ดั้งเดิมแล้วยายละมาย ก็เคยพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว และยายทองใบ และแม่ของตนเองก็เคยดูแลมาแต่เมื่อประมาณ 8 ปี
ก่อนนายปทุม ซึ่งเป็นน้องชายคนเล็กมารับยายละมายไปอยู่ด้วย จากนั้นก็มาเอาที่ดินไปเป็นของตนเองคนเดียว ซึ่งตนเองเคยไปสอบที่กรมที่ดินแล้วซึ่งกรมที่ดินก็ยืนยันว่ายายละมาย ไม่สามารถยกที่ดินให้ใครได้เพราะเป็นผู้พิการ ต้องใช้คำคำสั่งของศาลเท่านั้น แต่จู่ ๆ มีการมาติดประกาศขาย โดมไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า ทำแบบมัดมือชก
ซึ่งตอนนี้ตนเองก็รู้สึกกังวลว่าจะไม่มีที่อยู่อาศัยหากมีการประกาศขายจริงและก็อยากจะร้องขอความเป็นธรรมให้กับยายอยากให้มีหน่วยงานหรือผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของตนเอง
จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน part 6 โพสต์ภาพ และข้อความว่าคุณยายอายุ 93 โดนหลอกให้เซ็นเรื่องที่ดิน ก่อนจะถูกติดป้ายขายที่ที่ยายอาศัยอยู่
“ผมขอออกมาชี้แจงรายละเอียดคร่าว ๆ นะครับพี่ ๆ ผมเป็นหลานยายโดยตรง อาศัยอยู่กับคุณยาย ที่บ้านอาศัยอยู่กัน 3 คน แม่/ยาย และก็ตัวผมเองเหตุการที่เกิดขึ้น..คือที่ดินตรงนี้เป็นที่ของยายมายด์และยายมายด์เป็นน้องสาวของยายใบ มีที่ดินจำนวน 4 ไร่ เมื่อก่อนยายมายด์ก็อาศัยอยู่กับยายใบ (คือยายคนในรูป) แต่ในเวลาต่อมาน้องชายของยายใบได้มารับยายมายด์ไปเลี้ยงดูเพราะรู้ดีว่ายายมายด์มีที่ดิน และในเวลาต่อมาน้องชายของยายใบจะเอาที่ตรงนี้ไปขาย แต่ที่มันยังเป็นของยายมายด์อยู่ ตัวยายมายด์เองเป็นผู้พิการทางสมองตั้งแต่เกิดไม่สามารถเซ็นยกที่ให้ใครได้ แล้วก็ไม่มีลูกมีผัว ที่ดิน 4 ไร่ยังต้องตกอยู่ในชั้นพี่น้องซึ่งมีทั้งหมด 3 คน
คือยายใบ/ยายมายด์/และน้องชาย ผมไปถามที่กรมที่ดินมาไปกันทั้งหมด ยายมายด์ไม่สามารถ ยกให้ใครได้นอกจากมีผู้อนุบาลและผู้อนุบาลนั้นก็เป็นน้องชาย
เมื่อเวลาผ่านไปหลานเขยของยายออกกลอุบาย เพราะรู้เห็นกับน้องชายของยาย เพราะว่าหลานเขยอยากจะซื้อที่ผืนนี้ตั้งแต่แรก เลยชักชวนให้ยายไปเซ็นเอกสารฉบับหนึ่ง โดยบอกกับยายว่าถ้าเซ็นแล้วเดี๋ยวจะยกที่ที่อยู่ให้ ด้วยความที่ยายใบไม่รู้ประสาอะไรเพราะเขาบอกว่าถ้าเซ็นแล้วเขาจะแบ่งให้ส่วนที่ยายอยู่ ยายก็ไม่ได้ปรึกษากับลูกหลานเลยเซ็นไปโดยไม่รู้ว่าเอกสารฉบับนั้นคืออะไร แต่สุดท้ายแล้วเอกสารฉบับนั้นคือการยกที่ดินให้เขาไปแล้ว ยายมารู้ทีหลังว่าไม่มีการแบ่งให้คือยายรู้วันนี้ เพราะน้องชายของยายมาติดป้ายขาย ในวันนี้และยายบอกว่ายายจะไปอยู่ที่ไหน ลูกของน้องชายยายบอกว่าก็ให้ไปอยู่ที่อื่นสิเพราะตรงนี้เขาจะขาย อันนี้คือคำบอกเล่าจากปากคุณยายโดยตรงครับ แล้วพวกผมกับยายจะเอาที่ไหนซุกหัวนอนกันครับ”
วันที่ 21 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ กับ นายศุภโชติ อายุ 20 ปี และนางทองใบ อายุ 93 ปี กำลังพายายทองใบมายื่นเรื่องขอความเป็นธรรม ที่ อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับยายทองใบ อายุ 93 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนเองมีพี่น้อง 7 คน เสียชีวิต 4 คน ตอนนี้เหลือกันสามคนพี่น้องคือ
1. นางทองใบ อายุ 93 ปี
2. นางละมาย อายุ 88 ปี (เจ้าของที่ดิน 4 ไร่ เป็นผู้พิการทางสมอง )
3. นายปทุม อายุ 85 ปี (น้องชาย)
ดั้งเดิมที่ดินตรงนี้ก็จะมีตนเองอาศัยอยู่กับลูกสาวหลานชาย อยู่กันมานานจนจะล้มหายตายจากกันแล้ว แต่จู ๆ เมื่อวานนายปทุม (น้องชาย ) และลูกชาย ได้นำป้ายมาติดประกาศขายที่ดิน 4 ไร่
ตนเองก็รู้สึกตกใจว่ามาติดประกาศขายที่ดินตรงนี้ได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ดินตรงนี้ไม่ใช่ของนายปทุม แต่เป็นที่ดินของยายละมาย ซึ่งเป็นน้องสาว ตนเองก็ไม่เข้าใจ ตอนนี้ก็รู้สึกหวั่นใจว่าจะไม่มีอยู่อาศัย
ด้านนายศุภโชติ ยายทองใบ เจ้าของโพสต์ พาไปดูที่ดิน 4 ไร่ ที่อยู่ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.คลองน้อย อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา พบบริเวณรั้วบ้านยังมีป้ายติดประกาศขายที่ดิน 4 ไร่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์
โดยนายศุภโชติ เล่าให้ฟังว่าเมื่อวานตนเองกับยายทองใบรู้สึกตกใจมากเมื่อเห็นนายปทุม และลูกชาย นำป้ายมาติดประกาศขาย ซึ่งตัวยายทองใบก็เข้าไปพูดคุยสอบถามว่ามาติดป้ายขายได้อย่างไรตัวนายปทุม ก็พูดว่าก็จะขายเพราะตนเองเป็นคนดูแลยายละมาย ส่วนใหญ่ยายทองใบจะไปอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ ซึ่งตนเองก็มองว่ามันไม่เป็นธรรมทั้ง ๆ ที่ดั้งเดิมแล้วยายละมาย ก็เคยพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว และยายทองใบ และแม่ของตนเองก็เคยดูแลมาแต่เมื่อประมาณ 8 ปี
ก่อนนายปทุม ซึ่งเป็นน้องชายคนเล็กมารับยายละมายไปอยู่ด้วย จากนั้นก็มาเอาที่ดินไปเป็นของตนเองคนเดียว ซึ่งตนเองเคยไปสอบที่กรมที่ดินแล้วซึ่งกรมที่ดินก็ยืนยันว่ายายละมาย ไม่สามารถยกที่ดินให้ใครได้เพราะเป็นผู้พิการ ต้องใช้คำคำสั่งของศาลเท่านั้น แต่จู่ ๆ มีการมาติดประกาศขาย โดมไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า ทำแบบมัดมือชก
ซึ่งตอนนี้ตนเองก็รู้สึกกังวลว่าจะไม่มีที่อยู่อาศัยหากมีการประกาศขายจริงและก็อยากจะร้องขอความเป็นธรรมให้กับยายอยากให้มีหน่วยงานหรือผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของตนเอง
Gallery
