2 ใน 3 วิศวกร หลบสื่อฯ ขอให้ข้อมูลเป็นการส่วนตัว
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ดีเอสไอ - โยธาฯ ประชุมลับ ตรวจเอกสาร หลังเข้าค้น บริษัทไชน่า เรลเวย์ และกิจการร่วมค้า 4 บริษัท ส่วน 3 วิศวกร หลบสื่อขอเข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอเป็นการส่วนตัว
2 ใน 3 วิศวกร หลบสื่อฯ ขอให้ข้อมูลเป็นการส่วนตัว
พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นัดหมายวิศวกร 3 คน จาก 51 คน ที่มีรายชื่อก่อสร้างตึก สตง. จะเข้ามาให้ข้อมูล ทำให้สื่อทุกสำนักปักหลักอยู่ที่ดีเอสไอ ปรากฎว่ามีการเปลี่ยนสถานที่สอบปากคำเป็นที่อื่น เพราะพยานทั้ง 2 คน ไม่ประสงค์ที่จะเป็นข่าว
แม้เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่มีวิศวกรมาสอบปากคำ แต่ก็มีพนักงานสอบสวน ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อตรวจเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ของบริษัทไชน่า เรลเวย์ และกิจการร่วมค้า 4 บริษัท ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นการประชุมลับ แล้วนำกระดาษมาปิดประตูกระจก เพื่อไม่ให้สื่อบันทึกภาพ
ส่วนรายชื่อทั้งหมดนี้คือรายชื่อของวิศวกรที่ปรากฏในเอกสารควบคุมงานก่อสร้างตึก สตง. โดย 2 ใน 3 คน หลบสื่อ ส่วนวิศวกรอีกคน ชื่อ นายชัยฤทธิ์ อยู่ลำดับ 9 ในรายชื่อ เคยมาพบพนักงานสอบสวนแล้วก่อนหน้านี้ และวันนี้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวนจะพิสูจน์ทราบว่า วิศวกรคนใดเป็นผู้ควบคุมงานจริง ๆ บ้าง และมีการลงนามควบคุมงานด้วยตนเองจริงหรือไม่ รวมถึงมีผู้เกี่ยวข้องกี่คน และมีกี่คนที่ถูกแอบอ้างชื่อ
ด้าน สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มีญาติผู้เสียชีวิตชาวกัมพูชาติดต่อขอรับศพ 1 คน ส่วนผู้เสียชีวิต 4 คน ที่แพทย์ยืนยันเอกลักษณ์บุคคลก่อนหน้านี้ ญาติยังไม่ได้ยืนยันว่าจะเข้ามารับศพเมื่อใด อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ แพทย์ยืนยันเอกลักษณ์บุคคลได้แล้ว 33 คน ในจำนวนนี้พบว่าเป็นแรงงานนอกระบบ 10 คน
ขณะที่หน้าไซต์ตึก สตง. เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรายชื่อบนบอร์ดขณะนี้ มีผู้เสียชีวิต 42 คน รอการพิสูจน์เอกลักษณ์ 3 คน บาดเจ็บ 9 คน และอยู่ระหว่างการติดตาม 50 คน
นายกฯ เรียกถกคืบหน้าสอบตึก สตง.ถล่ม
ขณะที่วันนี้ นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีพร้อมย้ำว่ารับไม่ได้ที่มีคนเสียชีวิตจำนวนมากจากเหตุตึกถล่มเพียงตึกเดียว
และวันนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและสูญหาย รายละ 100,000 บาท
2 ใน 3 วิศวกร หลบสื่อฯ ขอให้ข้อมูลเป็นการส่วนตัว
พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นัดหมายวิศวกร 3 คน จาก 51 คน ที่มีรายชื่อก่อสร้างตึก สตง. จะเข้ามาให้ข้อมูล ทำให้สื่อทุกสำนักปักหลักอยู่ที่ดีเอสไอ ปรากฎว่ามีการเปลี่ยนสถานที่สอบปากคำเป็นที่อื่น เพราะพยานทั้ง 2 คน ไม่ประสงค์ที่จะเป็นข่าว
แม้เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่มีวิศวกรมาสอบปากคำ แต่ก็มีพนักงานสอบสวน ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อตรวจเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ของบริษัทไชน่า เรลเวย์ และกิจการร่วมค้า 4 บริษัท ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นการประชุมลับ แล้วนำกระดาษมาปิดประตูกระจก เพื่อไม่ให้สื่อบันทึกภาพ
ส่วนรายชื่อทั้งหมดนี้คือรายชื่อของวิศวกรที่ปรากฏในเอกสารควบคุมงานก่อสร้างตึก สตง. โดย 2 ใน 3 คน หลบสื่อ ส่วนวิศวกรอีกคน ชื่อ นายชัยฤทธิ์ อยู่ลำดับ 9 ในรายชื่อ เคยมาพบพนักงานสอบสวนแล้วก่อนหน้านี้ และวันนี้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวนจะพิสูจน์ทราบว่า วิศวกรคนใดเป็นผู้ควบคุมงานจริง ๆ บ้าง และมีการลงนามควบคุมงานด้วยตนเองจริงหรือไม่ รวมถึงมีผู้เกี่ยวข้องกี่คน และมีกี่คนที่ถูกแอบอ้างชื่อ
ด้าน สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มีญาติผู้เสียชีวิตชาวกัมพูชาติดต่อขอรับศพ 1 คน ส่วนผู้เสียชีวิต 4 คน ที่แพทย์ยืนยันเอกลักษณ์บุคคลก่อนหน้านี้ ญาติยังไม่ได้ยืนยันว่าจะเข้ามารับศพเมื่อใด อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ แพทย์ยืนยันเอกลักษณ์บุคคลได้แล้ว 33 คน ในจำนวนนี้พบว่าเป็นแรงงานนอกระบบ 10 คน
ขณะที่หน้าไซต์ตึก สตง. เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรายชื่อบนบอร์ดขณะนี้ มีผู้เสียชีวิต 42 คน รอการพิสูจน์เอกลักษณ์ 3 คน บาดเจ็บ 9 คน และอยู่ระหว่างการติดตาม 50 คน
นายกฯ เรียกถกคืบหน้าสอบตึก สตง.ถล่ม
ขณะที่วันนี้ นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีพร้อมย้ำว่ารับไม่ได้ที่มีคนเสียชีวิตจำนวนมากจากเหตุตึกถล่มเพียงตึกเดียว
และวันนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและสูญหาย รายละ 100,000 บาท
Gallery
