โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ลั่น สหรัฐฯ ไร้เหตุผล-รังแกชาติอื่น หลังเก็บภาษีสินค้าบางประเภท 245%

โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน เผยว่า การที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากจีน 245% นั้นไร้เหตุผลและรังแกชาติอื่น ลั่นจีนไม่ได้ต้องการทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ แต่หากจำเป็นก็พร้อมสู้จนถึงที่สุด
วันนี้ (17 เม.ย. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากกรณีที่มีเอกสารข้อเท็จจริงของทำเนียบขาว ระบุว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทของจีนสูงถึง 245%
โดย นายหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ระบุว่า การที่สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการจากจีนสูงถึง 245% นั้นไม่สมเหตุสมผลทางเศรษฐกิจอีกต่อไป และชี้ให้เห็นว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน กลายเป็นเพียงตัวเลขไปแล้ว เพราะผลในทางเศรษฐกิจไม่ได้สร้างความแตกต่างที่แท้จริงอีกต่อไป นอกจากเป็นการแสดงให้เห็นเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ ใช้ภาษีนำเข้าเป็นอาวุธเพื่อบีบบังคับและรังแกผู้อื่น จีนไม่ได้ต้องการทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ แต่หากจำเป็นก็ไม่กลัว พร้อมสู้จนถึงที่สุด และย้ำว่าสงครามการค้าไม่มีผู้ชนะ
ด้าน นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจําประเทศไทย ได้แสดงทัศนะว่า การเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ ไม่ใช่ความยุติธรรม แต่คือการใช้อำนาจบีบบังคับ ซึ่งสหรัฐฯ ใช้ภาษีเป็นอาวุธในการบีบบังคับคู่ค้าจนถึงขีดสุดและแสวงหาผลประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว นี่คือการใช้อำนาจการเมืองเข้าครอบงำเศรษฐกิจและการค้า อันเป็นการกดดันฝ่ายเดียวต่อคู่ค้าอย่างไม่เป็นธรรม ทั่วโลกมี 190 กว่าประเทศ ลองจินตนาการดูว่า หากทุกประเทศต่างคิดว่าประเทศของตนต้องมาก่อน และหลงเชื่อในสถานะที่มีอำนาจที่แข็งแกร่ง โลกนี้จะถอยกลับไปสู่ยุคแห่งกฎป่า ประเทศเล็กและประเทศที่อ่อนแอจะกลายเป็นผู้รับเคราะห์และระเบียบกติกาสากลจะถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ คือการได้ประโยชน์ร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นคู่ค้าสำคัญระหว่างกันทั้งด้านการค้าสินค้าและการค้าบริการ ตลอดจนการลงทุนระหว่างกัน การรักษาความมั่นคงและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างสองประเทศ ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อทั้งจีนและสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังเป็นคุณต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ข้อเท็จจริงพิสูจน์แล้วว่า เมื่อจีนกับสหรัฐฯ ร่วมมือกัน ทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์ แต่หากปะทะกัน ย่อมเสียหายทั้งคู่ สงครามการค้าย่อมไม่มีผู้ชนะ ลัทธิคุ้มครองก็ไม่ใช่ทางออก ความสำเร็จของจีนและสหรัฐฯ ต่างเป็นโอกาสสำหรับอีกฝ่าย มิใช่ภัยคุกคามต่อกันอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ จีนไม่ประสงค์จะทำสงครามภาษี แต่หากมีคนบังคับเรียกเก็บภาษีอย่างไม่มีเหตุผลกับจีน จีนก็จำเป็นต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด ที่ผ่านมา จีนได้ดำเนินมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ อย่างมีพลัง ทั้งนี้เพื่อปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของจีน และเพื่อปกป้องระเบียบการค้าเสรีของโลก รวมถึงความยุติธรรมและความเป็นธรรมของมนุษยชาติ
วันนี้ (17 เม.ย. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากกรณีที่มีเอกสารข้อเท็จจริงของทำเนียบขาว ระบุว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทของจีนสูงถึง 245%
โดย นายหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ระบุว่า การที่สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการจากจีนสูงถึง 245% นั้นไม่สมเหตุสมผลทางเศรษฐกิจอีกต่อไป และชี้ให้เห็นว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน กลายเป็นเพียงตัวเลขไปแล้ว เพราะผลในทางเศรษฐกิจไม่ได้สร้างความแตกต่างที่แท้จริงอีกต่อไป นอกจากเป็นการแสดงให้เห็นเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ ใช้ภาษีนำเข้าเป็นอาวุธเพื่อบีบบังคับและรังแกผู้อื่น จีนไม่ได้ต้องการทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ แต่หากจำเป็นก็ไม่กลัว พร้อมสู้จนถึงที่สุด และย้ำว่าสงครามการค้าไม่มีผู้ชนะ
ด้าน นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจําประเทศไทย ได้แสดงทัศนะว่า การเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ ไม่ใช่ความยุติธรรม แต่คือการใช้อำนาจบีบบังคับ ซึ่งสหรัฐฯ ใช้ภาษีเป็นอาวุธในการบีบบังคับคู่ค้าจนถึงขีดสุดและแสวงหาผลประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว นี่คือการใช้อำนาจการเมืองเข้าครอบงำเศรษฐกิจและการค้า อันเป็นการกดดันฝ่ายเดียวต่อคู่ค้าอย่างไม่เป็นธรรม ทั่วโลกมี 190 กว่าประเทศ ลองจินตนาการดูว่า หากทุกประเทศต่างคิดว่าประเทศของตนต้องมาก่อน และหลงเชื่อในสถานะที่มีอำนาจที่แข็งแกร่ง โลกนี้จะถอยกลับไปสู่ยุคแห่งกฎป่า ประเทศเล็กและประเทศที่อ่อนแอจะกลายเป็นผู้รับเคราะห์และระเบียบกติกาสากลจะถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ คือการได้ประโยชน์ร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นคู่ค้าสำคัญระหว่างกันทั้งด้านการค้าสินค้าและการค้าบริการ ตลอดจนการลงทุนระหว่างกัน การรักษาความมั่นคงและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างสองประเทศ ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อทั้งจีนและสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังเป็นคุณต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ข้อเท็จจริงพิสูจน์แล้วว่า เมื่อจีนกับสหรัฐฯ ร่วมมือกัน ทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์ แต่หากปะทะกัน ย่อมเสียหายทั้งคู่ สงครามการค้าย่อมไม่มีผู้ชนะ ลัทธิคุ้มครองก็ไม่ใช่ทางออก ความสำเร็จของจีนและสหรัฐฯ ต่างเป็นโอกาสสำหรับอีกฝ่าย มิใช่ภัยคุกคามต่อกันอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ จีนไม่ประสงค์จะทำสงครามภาษี แต่หากมีคนบังคับเรียกเก็บภาษีอย่างไม่มีเหตุผลกับจีน จีนก็จำเป็นต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด ที่ผ่านมา จีนได้ดำเนินมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ อย่างมีพลัง ทั้งนี้เพื่อปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของจีน และเพื่อปกป้องระเบียบการค้าเสรีของโลก รวมถึงความยุติธรรมและความเป็นธรรมของมนุษยชาติ
Gallery
