“วิโรจน์” กล่าวหา “นายกฯ” ทำนิติกรรมอำพราง หนีภาษีโอนหุ้น 9 ปี 218 ล้านบาท

“วิโรจน์” ปล่อยหมัดเด็ดพุ่งเป้า “นายกฯ” ทำนิติกรรมอำพราง เลี่ยงจ่ายภาษี 218 ล้านบาท หรือไม่

วันนี้ (24มี.ค.68) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน นำข้อมูลที่อ้างว่า นายกรัฐมนตรีทำนิติกรรมอำพราง เพื่อหลีกเลี่ยง ‘ภาษีการรับให้’ มาตั้งแต่ปี 2559 ด้วยการแกะรอยจากบัญชีทรัพย์สินของนายกรัฐมนตรี ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

พบว่า นายกรัฐมนตรี เป็นลูกหนี้อยู่ 9 รายการ มูลค่าหนี้สินรวม 4,434 ล้านบาท พอมาดูที่รายละเอียดของเอกสารประกอบ หนี้สิน 9 รายการที่ว่า มูลค่าสูงถึง 4,434 ล้านบาท กลับมีเอกสารแนบมาเพียงแค่ 9 แผ่น จึงเชื่อว่าไม่ใช่หนี้ที่อยู่ในรูปแบบของสัญญาเงินกู้ แต่เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือ ตั๋ว PN ซึ่งเป็นหนี้สินที่นายกรัฐมนตรี ซื้อหุ้นจากครอบครัวแบบ “ซื้อเชื่อ” แล้วออกตั๋ว PN แทนการจ่ายเงิน ส่งผลให้ไม่ต้องจ่ายภาษี

เนื่องจากหลักเกณฑ์การรับรู้รายได้ในการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะใช้เกณฑ์เงินสด ซึ่งรายได้จะถูกนับเป็นเงินได้พึงประเมิน ก็ต่อเมื่อมีการรับเงินสดจริง  ดังนั้น การที่นายกรัฐมนตรี จ่ายค่าหุ้นที่ซื้อด้วยตั๋ว PN ซึ่งไม่ได้มีการจ่ายเงินกันจริง หรือ จะจ่ายเมื่อไหร่ไม่อาจทราบได้ ทำให้ครอบครัวไม่ต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดา

และ หากครอบครัวขายหุ้นในราคาพาร์ หรือ ราคาทุน ก็ไม่ต้องจ่ายภาษีรายได้บุคคลธรรมดาเช่นกัน เมื่อคำนวณรวมแล้ว อาจเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีการรับให้ เป็นเงินสูงถึง 218.7 ล้านบาท

นายวิโรจน์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะไปร้องต่อ ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวน กรณีนายกรัฐมนตรีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พร้อมพิจารณาส่งสำนวน และความเห็นของ ป.ป.ช. ไปที่ศาลฎีกาตามลำดับ