ไพบูลย์ เตือน นายกฯ อย่าประมาท เตรียมตัวรอรับการขยายผลหลังศึกอภิปรายให้ดี มอง อาจมีคนยื่นศาลฯ จนเกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

วันนี้ (23 มี.ค. 68) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในวันที่ 24 มีนาคมว่า หลายเรื่องที่พรรคฝ่ายค้านรวมถึงพรรคพลังประชารัฐจะนำมาอภิปราย
หากข้อมูลที่นำมามีความชัดเจน เช่น ชี้ให้เห็นว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมของความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เช่น การครอบครองที่ธรณีสงฆ์ ก็จะถือว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ซึ่งตนเชื่อว่า จะมีส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้มีการพิจารณาถึงประเด็นดังกล่าว
ซึ่งที่ผ่านมา ศาล รธน.มีบรรทัดฐานในการวินิจฉัยไว้อยู่แล้ว และยังมีบรรทัดฐานที่ศาลฎีกาด้วย ดังนั้น น.ส.แพทองธาร และพรรคเพื่อไทยอย่าเพิ่งไปประมาท คิดว่า จะผ่านไปง่าย ๆ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้อาจจะเกิดเรื่องสำคัญมากขึ้นมาก็ได้
“หลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่องที่ถูกนำมาอภิปรายจะถูกนำไปขยายผลได้ เช่นเรื่องผลประโยชน์ชาติ หรืออาจจะแปลงเป็นคำร้องต่างๆ เช่นคำร้องยื่นกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือมีการส่งคำร้องไปศาลรัฐธรรมนูญที่มันก็อาจมีผล เช่นหากมีคำร้องไปศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากทั้งข้อกฎหมาย ความถูกต้องต่างๆ มันพร้อมทั้งองค์ประกอบ มันจะเกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นมา“นายไพบูลย์ กล่าว
ส่วนการอภิปรายของพรรคพลังประชารัฐ นายไพบูลย์ กล่าวย้ำว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ท่านเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว และจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า พปชร.พร้อมทำหน้าที่ในทุกบทบาท และทันทีที่มีการเลือกตั้ง เราก็พร้อมที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร
หากข้อมูลที่นำมามีความชัดเจน เช่น ชี้ให้เห็นว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมของความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เช่น การครอบครองที่ธรณีสงฆ์ ก็จะถือว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ซึ่งตนเชื่อว่า จะมีส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้มีการพิจารณาถึงประเด็นดังกล่าว
ซึ่งที่ผ่านมา ศาล รธน.มีบรรทัดฐานในการวินิจฉัยไว้อยู่แล้ว และยังมีบรรทัดฐานที่ศาลฎีกาด้วย ดังนั้น น.ส.แพทองธาร และพรรคเพื่อไทยอย่าเพิ่งไปประมาท คิดว่า จะผ่านไปง่าย ๆ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้อาจจะเกิดเรื่องสำคัญมากขึ้นมาก็ได้
“หลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่องที่ถูกนำมาอภิปรายจะถูกนำไปขยายผลได้ เช่นเรื่องผลประโยชน์ชาติ หรืออาจจะแปลงเป็นคำร้องต่างๆ เช่นคำร้องยื่นกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือมีการส่งคำร้องไปศาลรัฐธรรมนูญที่มันก็อาจมีผล เช่นหากมีคำร้องไปศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากทั้งข้อกฎหมาย ความถูกต้องต่างๆ มันพร้อมทั้งองค์ประกอบ มันจะเกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นมา“นายไพบูลย์ กล่าว
ส่วนการอภิปรายของพรรคพลังประชารัฐ นายไพบูลย์ กล่าวย้ำว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ท่านเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว และจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า พปชร.พร้อมทำหน้าที่ในทุกบทบาท และทันทีที่มีการเลือกตั้ง เราก็พร้อมที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร
Gallery
