ตำรวจเร่งไขปมผัวฆ่าเมียอย่างละเอียด พบหลักฐานเพิ่ม น้ำยาล้างห้องน้ำกรอกปาก ก่อนแทงซ้ำ 2 แผล ผูกคอตายตาม

ตำรวจเร่งไขปมผัวฆ่าเมียอย่างละเอียด พบหลักฐานเพิ่ม น้ำยาล้างห้องน้ำกรอกปาก ก่อนแทงซ้ำ 2 แผล แล้วผูกคอตายตาม คาดปมเหตุปัญหาเรื่องเงินหน้าดิน
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ก.พ. 68 หลังจากที่ ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี ,และ แพทย์เวรโรงพยาบาลวัดญาณสังวราราม ได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด นานกว่า 2 ชม. ซึ่งจากการตรวจสอบภายในห้องนอน ซึ่งเป็นจุดที่พบศพผู้ตายทั้ง 2 คน เบื้องต้น ประตูห้องนอน ถูกล็อกกลอนลูกบิดจากด้านใน ตำรวจจึงนำกุญแจสำรองมาไขเข้าไปตรวจสอบภายในห้อง ซึ่งภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือ รื้อค้นทรัพย์สิน
โดยลักษณะของศพ รายแรก คือ นางนงคราญ อายุ 62 ปี สภาพศพนอนหงายอยู่บนเตียงนอน สวมเสื้อสีดำ นุ่งกระโปรงสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลม เข้าที่บริเวณกลางหลอดลม ( ใต้ลูกกระเดือก ) ความลึกของแผลประมาณ 10 ซม.กว้างประมาณ 1 นิ้ว จำนวน 1 แผล แก้มซ้าย 1 แผล เลือดไหลลงร่าง ที่ปากยังมีลักษณะของน้ำลายฟูมปาก บริเวณข้างศีรษะ พบมีดปลายแหลมประมาณ 30 ซม. เปื้อนคราบเลือดวางอยู่บนหมอน คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธมีดที่ใช้ในการก่อเหตุ อีกทั้งยังพบน้ำยาล้างห้องน้ำ วางอยู่ที่พื้นข้างเตียงนอน ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนรายที่ 2 ห่างจากศพรายแรกประมาณ 1 เมตร ที่บริเวณปากประตูห้องนอน พบศพสามีของนางนงคราญ คือ นายสวัสดิ์ อายุ 65 ปี สภาพศพสวนเสื้อกล้ามสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล โดยศพใช้เชือกไนลอนสีเขียว ยาวประมาณ 1 เมตร ผูกเป็นบ่วงวงกลมแล้วเอาไปเกี่ยวกับขอบประตู ก่อนจะแขวนคอตัวเอง ศพหันหน้าไปทางร่างภรรยา สภาพศพ ลิ้นจุกปาก ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย นอกจากนี้ เสื้อผ้าของผู้ตาย และ มือทั้ง 2 ข้าง เปื้อนไปด้วยเลือด ซึ่งศพทั้ง 2 คน เสียชีวิตมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 6-12 ชม.
ลูกสะใภ้ของนางนงคราญ ซึ่งมีความสนิทสนมกับผู้เป็นแม่สามี ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ปัจจุบันแม่ทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม อมตะนคร จ.ระยอง ส่วน นายสวัสดิ์ มวลคำลา พ่อเลี้ยงเพิ่งกลับมาอยู่กับแม่ ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ หลังที่เลิกรากันไปประมาณ 7-8 เดือน ตอนนั้นที่เลิกกัน รู้เพียงว่ามีการทะเลาะกันเกี่ยวกับพ่อไม่ทำงาน รวมทั้งเกี่ยวกับการหึงแม่ด้วยหรือเปล่าตนเองไม่รู้และไม่แน่ใจ แต่ก่อนหน้านี้ พ่อกับแม่ทะเลาะกันแรงมาก ซึ่งในวันนั้นขณะที่แม่อยู่ในห้องน้ำได้ยินเสียงทุบอะไรสักอย่าง พอแม่วิ่งออกมาดูก็เห็นโทรศัพท์มือถือแตก นอกจากนั้น พ่อก็ล็อก กุญแจ รถจยย.ล็อกประตูบ้านห้อง จับแม่ขังไว้ในห้องนอน แต่แม่ก็หนีออกมาทางหน้าต่าง ซึ่งในตอนนั้นตนเองยังตะโกนตามพ่อว่า จะขังแม่ทำไม ส่วนปมเหตุในครั้งนี้แค่ยังไม่แน่ใจว่ามาจากเรื่องอะไร แต่ทราบคราวๆ รู้เรื่องว่า แม่ต้องการให้พ่อขายหน้าดิน ที่ จ.บุรีรัมย์ แล้ว นำเงินมาทำธุรกิจที่บ้านเรา ก่อนจะเกิดเหตุ สลดดังกล่าว
ผู้สื่อข่าว ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ก่อนเกิดเหตุ โดยพบว่า เวลา 21.02.57 น. ของเมื่อคืน วันที่ 27 นางนงคราญ ได้ขี่ รถ จยย.ไปรับ นายสวัสดิ์ ที่โรงเพาะเห็ด ถัดจากบ้านที่เกิดเหตุไปประมาณ 3 ซอย หรือประมาณ 500 เมตร ก่อนที่ทั้งคู่จะขี่รถจยย.กลับมาที่บ้าน จนกระทั่งพบว่าทั้งคู่กลายเป็นศพดังกล่าว
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ก.พ. 68 หลังจากที่ ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี ,และ แพทย์เวรโรงพยาบาลวัดญาณสังวราราม ได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด นานกว่า 2 ชม. ซึ่งจากการตรวจสอบภายในห้องนอน ซึ่งเป็นจุดที่พบศพผู้ตายทั้ง 2 คน เบื้องต้น ประตูห้องนอน ถูกล็อกกลอนลูกบิดจากด้านใน ตำรวจจึงนำกุญแจสำรองมาไขเข้าไปตรวจสอบภายในห้อง ซึ่งภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือ รื้อค้นทรัพย์สิน
โดยลักษณะของศพ รายแรก คือ นางนงคราญ อายุ 62 ปี สภาพศพนอนหงายอยู่บนเตียงนอน สวมเสื้อสีดำ นุ่งกระโปรงสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลม เข้าที่บริเวณกลางหลอดลม ( ใต้ลูกกระเดือก ) ความลึกของแผลประมาณ 10 ซม.กว้างประมาณ 1 นิ้ว จำนวน 1 แผล แก้มซ้าย 1 แผล เลือดไหลลงร่าง ที่ปากยังมีลักษณะของน้ำลายฟูมปาก บริเวณข้างศีรษะ พบมีดปลายแหลมประมาณ 30 ซม. เปื้อนคราบเลือดวางอยู่บนหมอน คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธมีดที่ใช้ในการก่อเหตุ อีกทั้งยังพบน้ำยาล้างห้องน้ำ วางอยู่ที่พื้นข้างเตียงนอน ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนรายที่ 2 ห่างจากศพรายแรกประมาณ 1 เมตร ที่บริเวณปากประตูห้องนอน พบศพสามีของนางนงคราญ คือ นายสวัสดิ์ อายุ 65 ปี สภาพศพสวนเสื้อกล้ามสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล โดยศพใช้เชือกไนลอนสีเขียว ยาวประมาณ 1 เมตร ผูกเป็นบ่วงวงกลมแล้วเอาไปเกี่ยวกับขอบประตู ก่อนจะแขวนคอตัวเอง ศพหันหน้าไปทางร่างภรรยา สภาพศพ ลิ้นจุกปาก ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย นอกจากนี้ เสื้อผ้าของผู้ตาย และ มือทั้ง 2 ข้าง เปื้อนไปด้วยเลือด ซึ่งศพทั้ง 2 คน เสียชีวิตมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 6-12 ชม.
ลูกสะใภ้ของนางนงคราญ ซึ่งมีความสนิทสนมกับผู้เป็นแม่สามี ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ปัจจุบันแม่ทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม อมตะนคร จ.ระยอง ส่วน นายสวัสดิ์ มวลคำลา พ่อเลี้ยงเพิ่งกลับมาอยู่กับแม่ ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ หลังที่เลิกรากันไปประมาณ 7-8 เดือน ตอนนั้นที่เลิกกัน รู้เพียงว่ามีการทะเลาะกันเกี่ยวกับพ่อไม่ทำงาน รวมทั้งเกี่ยวกับการหึงแม่ด้วยหรือเปล่าตนเองไม่รู้และไม่แน่ใจ แต่ก่อนหน้านี้ พ่อกับแม่ทะเลาะกันแรงมาก ซึ่งในวันนั้นขณะที่แม่อยู่ในห้องน้ำได้ยินเสียงทุบอะไรสักอย่าง พอแม่วิ่งออกมาดูก็เห็นโทรศัพท์มือถือแตก นอกจากนั้น พ่อก็ล็อก กุญแจ รถจยย.ล็อกประตูบ้านห้อง จับแม่ขังไว้ในห้องนอน แต่แม่ก็หนีออกมาทางหน้าต่าง ซึ่งในตอนนั้นตนเองยังตะโกนตามพ่อว่า จะขังแม่ทำไม ส่วนปมเหตุในครั้งนี้แค่ยังไม่แน่ใจว่ามาจากเรื่องอะไร แต่ทราบคราวๆ รู้เรื่องว่า แม่ต้องการให้พ่อขายหน้าดิน ที่ จ.บุรีรัมย์ แล้ว นำเงินมาทำธุรกิจที่บ้านเรา ก่อนจะเกิดเหตุ สลดดังกล่าว
ผู้สื่อข่าว ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ก่อนเกิดเหตุ โดยพบว่า เวลา 21.02.57 น. ของเมื่อคืน วันที่ 27 นางนงคราญ ได้ขี่ รถ จยย.ไปรับ นายสวัสดิ์ ที่โรงเพาะเห็ด ถัดจากบ้านที่เกิดเหตุไปประมาณ 3 ซอย หรือประมาณ 500 เมตร ก่อนที่ทั้งคู่จะขี่รถจยย.กลับมาที่บ้าน จนกระทั่งพบว่าทั้งคู่กลายเป็นศพดังกล่าว
Gallery
