ร้านเช่ารถป่าตอง แจงถูกกลั่นแกล้ง มีคนนำรูปหน้าร้านและเบอร์โทรศัพท์ไปโพสต์ใน ทวิตตอร์กลุ่มเซ็กส์

ร้านเช่ารถป่าตอง แจงถูกกลั่นแกล้ง มีคนนำรูปหน้าร้านและเบอร์โทรศัพท์ไปโพสต์ใน ทวิตตอร์กลุ่มเซ็กส์ ทำให้เสียหายชื่อเสียง เตรียมแจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด
จากกรณี เพจอีซ้อขยี้ข่าว ได้ลงโพสต์ข้อความ “เจ้าของร้านเช่ารถภูเก็ตสุดเฟี้ยส ถ้าไม่พอใจลูกค้าด่าหมดไม่สนลูกใคร มีลูกค้าบางคนถูกด่าลามปามไปถึงบุพการี หรือไปแซะลูกค้าว่าฉลาดน้อย ฯลฯ ถ้าอนาคตใครจะเช่ารถร้านเช่าในภูเก็ตก็สมควรดูให้ดีๆ เดี๋ยวถ้าเราสงสัยอะไรดันไปถามไม่เข้าหู อาจถูกเค้าด่าพ่องงงก็ได้“
ล่าสุด (27 กพ.68) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนมีอาชีพปล่อยรถจักรยานยนต์และรถยนต์ให้เช่าอยู่ที่ป่าตอง ตำบลป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งหลังจากข้อความ ในเพจอีซ่อขยี้ข่าว ได้โพสต์เผยแพร่ไปในสื่อโซเชียล ทำให้ตนนั้นได้รับความเสียหาย ความจริงไม่ได้เป็นแบบนี้ เพียงแต่สงสัยว่า ลูกค้าจริง ทำไมไม่เคยขอบัตรประชาชนของตน แต่ลูกค้ารายนี้ ยังไม่ได้เป็นลูกค้าด้วย แต่กลับมาขอบัตรประชาชนของตน ซึ่งมันคิดหลายหลายอย่าง ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้น หน้าร้านของตนเองมีเบอร์โทรศัพท์ และเบอร์นั้นถูกนำไปโพสต์ใน Twitter กลุ่ม ต่างๆที่คุยกันเรื่องเซ็กส์ และมีผู้ชายโทรมาหาตนทุกวันติดต่อกัน 5 วัน แล้ว วันนี้ตนจึงเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหาช่องทางดำเนินคดี และตรวจสอบเพจอวตารพวกนี้ว่าเป็นใครมาใส่ร้ายต้นทำไม
ก่อนหน้านี้ตนเคยมีปัญหากับเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันมานานหลายปีแล้ว ซึ่งตอนยังไม่ได้เปิดร้านให้เช่ารถ ตนเองก็ไปขอเช่ารถจากร้านที่ปล่อยให้เช่ารถจักรยานยนต์ร้านหนึ่งในป่าตอง ตกลงให้ตนเช่าแล้ว แต่พอรุ่งเช้าไปรับรถ เขาตัดสินใจไม่ปล่อยให้ตนเช่า โดยบอกว่าให้คนอื่นเช่าไปแล้ว ตนจึงเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ และพยายามเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งและปรึกษาสามีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถ จักรยานยนต์มือสอง เอามาปล่อยให้กับคนไทยเช่าเพราะร้านรถเช่าในจังหวัดภูเก็ต เขาไม่ปล่อยให้คนไทยเช่ารถจักรยานยนต์ เพราะเขากลัวมีปัญหา แต่ตนเองนั้นได้รับบทเรียนนี้มาแล้ว จึงเป็นเจ้าแรกที่ปล่อยรถจักรยานยนต์ให้กับคนไทยเช่า ซึ่งหัวอกของคนไม่มีรถ ไปทำงานวันละ 300 มาเช่ารถ วันละ 500 มันใช่หรือไม่ ตนจึงปล่อยให้คนไทยเช่ารถวันละ 150 บาท ซึ่งมันก็เกิดปัญหากับเพื่อนร่วมอาชีพถึงกับบล็อกไม่ให้ตนนั้นเข้าร่วมในกลุ่มของรถเช่าในจังหวัดภูเก็ต เขาปิดช่องทางตนทุกอย่างตนต้องอาศัยสื่อโซเชียล Google เป็นหลักลูกค้าตอนนี้มีอยู่ประมาณหนึ่งแล้วซึ่งเป็นลูกค้าประจำ
และเมื่อประมาณ 5 วัน ที่ผ่านมาตนถูกก่อกวนโดยทวิตตอร์อวตารนำข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ และรูปหน้าร้านรถเช่าของตนเอาไปลงในทวิตตอร์ แต่ไม่ได้ลงเรื่องรถเช่า กับกลายเป็นลงเรื่องเซ็กส์ ซึ่งแต่ละวันจะมีคนโทรเข้ามาในเบอร์โทรศัพท์ของตนเป็นจำนวนมาก ยิ่งช่วงกลางคืนด้วยแล้วจะมีหนุ่มหนุ่มโทรมาหาเยอะมากๆ ตนเองต้องรับโทรศัพท์ทุกสาย เพราะบางสายก็เป็นลูกค้าจริงๆ ที่ต้องการเช่ารถ
ส่วนหนุ่มที่โทรเข้ามาตนก็จะหลอกถามว่าโทรมาจากไหน ทราบได้อย่างไรได้เบอร์มาจากที่ไหนส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าได้มาจาก Twitter ซึ่งทุกคนจะพูดเหมือนกันหมดว่าตนรับบริการเรื่องเซ็กซ์ ตนก็เลยต้องบอกความจริงกับหนุ่มเหล่านั้นไปว่า ตนถูกมิจฉาชีพเอาเบอร์โทรศัพท์และรูปหน้าร้านรถเช่าไปลงในทวิตตอร์ ซึ่งเรื่องราวที่เขาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ไม่เกี่ยวกับตน ปลายสายซึ่งเป็นหนุ่มก็เข้าใจ และวางสายไปและอีกไม่กี่นาทีก็จะมีสายโทรศัพท์คุยเรื่องเซ็กซ์โทรมาอีกจะเป็นแบบนี้ทั้งวัน
เรื่องที่เป็นประเด็นกันอยู่ก็คือเรื่องของ คนคนหนึ่งโทรศัพท์มาบอกว่าอยู่กรุงเทพจะนั่งรถทัวร์มาภูเก็ตแล้ว จะมาเช่ารถของตน ตนก็บอกว่ารถมีให้เช่าอยู่แล้วสามารถที่จะตรวจสอบข้อมูลของทางร้านได้ แต่ผู้เช่ารายนี้กลับขอบัตรประชาชนของตน เพื่อจะตรวจสอบว่าตนมีตัวตนจริงหรือไม่ ซึ่งตนมองว่ามันผิดปกติ ตนระวังเรื่องนี้อยู่แล้วตนไม่ทราบว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ตนทำงานบริการให้เช่ารถจักรยานยนต์และรถยนต์ยังไม่เคยมีลูกค้าคนไหนขอบัตรประชาชนของตนก่อนเลย
ตนพยามอธิบายให้กับลูกค้ารายดังกล่าวทราบแล้วแต่ก็ยืนยันว่าจะขอบัตรประชาชนของตนนั้นไปตรวจสอบตนก็เลยอารมณ์ขึ้นหลังจากนั้นก็ลูกค้ารายดังกล่าวนำเรื่องราวไปโพสต์ในสื่อโซเชียล จึงเป็นประเด็นนี้ขึ้นมาความจริงแล้วถ้าเป็นลูกค้าปกติเมื่อคุยกันรู้เรื่องแล้วตนก็จะส่ง เอกสารที่อยู่เบอร์โทรศัพท์อีเมลและ LINE ไปให้ลูกค้าเพื่อจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลการเช่ารถกันแต่เหตุการณ์นี้ลูกค้าไม่ยอมส่งอะไรมาให้ตนดูเลยว่าจะเดินทางมาภูเก็ตวันไหนบอกแต่เพียงว่าจะนั่งรถทัวร์มาภูเก็ตตนก็ไม่เห็นตั๋วรถทัวร์หรือตั๋วเครื่องบินแต่อย่างใด ความเครียดที่ตนโดนเอาเบอร์โทรศัพท์ไปโพสต์ว่าตนรับทำเรื่องเซ็กซ์นั้นมันก็พออยู่แล้ว แต่มาเจอลูกค้าขอบัตรประชาชนของตนนั้นรับไม่ได้
จากกรณี เพจอีซ้อขยี้ข่าว ได้ลงโพสต์ข้อความ “เจ้าของร้านเช่ารถภูเก็ตสุดเฟี้ยส ถ้าไม่พอใจลูกค้าด่าหมดไม่สนลูกใคร มีลูกค้าบางคนถูกด่าลามปามไปถึงบุพการี หรือไปแซะลูกค้าว่าฉลาดน้อย ฯลฯ ถ้าอนาคตใครจะเช่ารถร้านเช่าในภูเก็ตก็สมควรดูให้ดีๆ เดี๋ยวถ้าเราสงสัยอะไรดันไปถามไม่เข้าหู อาจถูกเค้าด่าพ่องงงก็ได้“
ล่าสุด (27 กพ.68) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนมีอาชีพปล่อยรถจักรยานยนต์และรถยนต์ให้เช่าอยู่ที่ป่าตอง ตำบลป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งหลังจากข้อความ ในเพจอีซ่อขยี้ข่าว ได้โพสต์เผยแพร่ไปในสื่อโซเชียล ทำให้ตนนั้นได้รับความเสียหาย ความจริงไม่ได้เป็นแบบนี้ เพียงแต่สงสัยว่า ลูกค้าจริง ทำไมไม่เคยขอบัตรประชาชนของตน แต่ลูกค้ารายนี้ ยังไม่ได้เป็นลูกค้าด้วย แต่กลับมาขอบัตรประชาชนของตน ซึ่งมันคิดหลายหลายอย่าง ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้น หน้าร้านของตนเองมีเบอร์โทรศัพท์ และเบอร์นั้นถูกนำไปโพสต์ใน Twitter กลุ่ม ต่างๆที่คุยกันเรื่องเซ็กส์ และมีผู้ชายโทรมาหาตนทุกวันติดต่อกัน 5 วัน แล้ว วันนี้ตนจึงเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหาช่องทางดำเนินคดี และตรวจสอบเพจอวตารพวกนี้ว่าเป็นใครมาใส่ร้ายต้นทำไม
ก่อนหน้านี้ตนเคยมีปัญหากับเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันมานานหลายปีแล้ว ซึ่งตอนยังไม่ได้เปิดร้านให้เช่ารถ ตนเองก็ไปขอเช่ารถจากร้านที่ปล่อยให้เช่ารถจักรยานยนต์ร้านหนึ่งในป่าตอง ตกลงให้ตนเช่าแล้ว แต่พอรุ่งเช้าไปรับรถ เขาตัดสินใจไม่ปล่อยให้ตนเช่า โดยบอกว่าให้คนอื่นเช่าไปแล้ว ตนจึงเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ และพยายามเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งและปรึกษาสามีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถ จักรยานยนต์มือสอง เอามาปล่อยให้กับคนไทยเช่าเพราะร้านรถเช่าในจังหวัดภูเก็ต เขาไม่ปล่อยให้คนไทยเช่ารถจักรยานยนต์ เพราะเขากลัวมีปัญหา แต่ตนเองนั้นได้รับบทเรียนนี้มาแล้ว จึงเป็นเจ้าแรกที่ปล่อยรถจักรยานยนต์ให้กับคนไทยเช่า ซึ่งหัวอกของคนไม่มีรถ ไปทำงานวันละ 300 มาเช่ารถ วันละ 500 มันใช่หรือไม่ ตนจึงปล่อยให้คนไทยเช่ารถวันละ 150 บาท ซึ่งมันก็เกิดปัญหากับเพื่อนร่วมอาชีพถึงกับบล็อกไม่ให้ตนนั้นเข้าร่วมในกลุ่มของรถเช่าในจังหวัดภูเก็ต เขาปิดช่องทางตนทุกอย่างตนต้องอาศัยสื่อโซเชียล Google เป็นหลักลูกค้าตอนนี้มีอยู่ประมาณหนึ่งแล้วซึ่งเป็นลูกค้าประจำ
และเมื่อประมาณ 5 วัน ที่ผ่านมาตนถูกก่อกวนโดยทวิตตอร์อวตารนำข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ และรูปหน้าร้านรถเช่าของตนเอาไปลงในทวิตตอร์ แต่ไม่ได้ลงเรื่องรถเช่า กับกลายเป็นลงเรื่องเซ็กส์ ซึ่งแต่ละวันจะมีคนโทรเข้ามาในเบอร์โทรศัพท์ของตนเป็นจำนวนมาก ยิ่งช่วงกลางคืนด้วยแล้วจะมีหนุ่มหนุ่มโทรมาหาเยอะมากๆ ตนเองต้องรับโทรศัพท์ทุกสาย เพราะบางสายก็เป็นลูกค้าจริงๆ ที่ต้องการเช่ารถ
ส่วนหนุ่มที่โทรเข้ามาตนก็จะหลอกถามว่าโทรมาจากไหน ทราบได้อย่างไรได้เบอร์มาจากที่ไหนส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าได้มาจาก Twitter ซึ่งทุกคนจะพูดเหมือนกันหมดว่าตนรับบริการเรื่องเซ็กซ์ ตนก็เลยต้องบอกความจริงกับหนุ่มเหล่านั้นไปว่า ตนถูกมิจฉาชีพเอาเบอร์โทรศัพท์และรูปหน้าร้านรถเช่าไปลงในทวิตตอร์ ซึ่งเรื่องราวที่เขาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ไม่เกี่ยวกับตน ปลายสายซึ่งเป็นหนุ่มก็เข้าใจ และวางสายไปและอีกไม่กี่นาทีก็จะมีสายโทรศัพท์คุยเรื่องเซ็กซ์โทรมาอีกจะเป็นแบบนี้ทั้งวัน
เรื่องที่เป็นประเด็นกันอยู่ก็คือเรื่องของ คนคนหนึ่งโทรศัพท์มาบอกว่าอยู่กรุงเทพจะนั่งรถทัวร์มาภูเก็ตแล้ว จะมาเช่ารถของตน ตนก็บอกว่ารถมีให้เช่าอยู่แล้วสามารถที่จะตรวจสอบข้อมูลของทางร้านได้ แต่ผู้เช่ารายนี้กลับขอบัตรประชาชนของตน เพื่อจะตรวจสอบว่าตนมีตัวตนจริงหรือไม่ ซึ่งตนมองว่ามันผิดปกติ ตนระวังเรื่องนี้อยู่แล้วตนไม่ทราบว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ตนทำงานบริการให้เช่ารถจักรยานยนต์และรถยนต์ยังไม่เคยมีลูกค้าคนไหนขอบัตรประชาชนของตนก่อนเลย
ตนพยามอธิบายให้กับลูกค้ารายดังกล่าวทราบแล้วแต่ก็ยืนยันว่าจะขอบัตรประชาชนของตนนั้นไปตรวจสอบตนก็เลยอารมณ์ขึ้นหลังจากนั้นก็ลูกค้ารายดังกล่าวนำเรื่องราวไปโพสต์ในสื่อโซเชียล จึงเป็นประเด็นนี้ขึ้นมาความจริงแล้วถ้าเป็นลูกค้าปกติเมื่อคุยกันรู้เรื่องแล้วตนก็จะส่ง เอกสารที่อยู่เบอร์โทรศัพท์อีเมลและ LINE ไปให้ลูกค้าเพื่อจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลการเช่ารถกันแต่เหตุการณ์นี้ลูกค้าไม่ยอมส่งอะไรมาให้ตนดูเลยว่าจะเดินทางมาภูเก็ตวันไหนบอกแต่เพียงว่าจะนั่งรถทัวร์มาภูเก็ตตนก็ไม่เห็นตั๋วรถทัวร์หรือตั๋วเครื่องบินแต่อย่างใด ความเครียดที่ตนโดนเอาเบอร์โทรศัพท์ไปโพสต์ว่าตนรับทำเรื่องเซ็กซ์นั้นมันก็พออยู่แล้ว แต่มาเจอลูกค้าขอบัตรประชาชนของตนนั้นรับไม่ได้
Gallery
