องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ประจำปีการศึกษา 2565-2566 เป็นวันแรก
เวลา 10.10 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปยังหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2565-2566 เป็นวันแรก
ในการนี้ ผู้แทนพระองค์ มอบปริญญากิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน และมอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี จากคณะรัฐศาสตร์ รวม 2,167 คน
โอกาสนี้ ผู้แทนพระองค์ มอบโอวาทความว่า "บัณฑิตเมื่อสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาแล้ว ย่อมเป็นที่คาดหวังของสังคมว่าจะเป็นผู้มีคุณสมบัติพร้อมที่จะประกอบอาชีพการงาน และรับภาระหน้าที่ในกิจการงานต่าง ๆ กล่าวกันว่า คุณสมบัติสำคัญประการหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ต้องการและคาดหวังของหน่วยงานทั้งหลาย ก็คือความมีวิสัยทัศน์ ทุกคนจึงควรจะได้ทำความเข้าใจคุณสมบัติข้อนี้ โดยพิจารณาร่วมกัน คำว่าวิสัยทัศน์นั้น หากพิจารณาตามศัพท์ คือการมองเห็นสิ่งที่เป็นไปได้ หรืออยู่ในความสามารถที่จะกระทำได้ การที่บุคคลจะเล็งเห็นได้ดังนั้น จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามเป็นจริงเป็นพื้นฐาน อาศัยประสบการณ์ที่สร้างสมมาเป็นเครื่องประกอบ และอาศัยวิจารณญาณอันเที่ยงตรงเป็นเครื่องมือในการคิดพิจารณา โดยนัยนี้ ผู้มีวิสัยทัศน์ ย่อมเป็นผู้มีความเข้าใจศักยภาพของตนและหน่วยงานตามเป็นจริง ทำให้สามารถกำหนดเป้าหมายและวิธีการ ในการพัฒนาตนพัฒนางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งคาดการณ์เพื่อเตรียมความพร้อม ที่จะรับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง นับเป็นผู้มองการณ์ไกลโดยแท้ จึงชอบที่บัณฑิตทุกคนจะได้ฝึกตนให้เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นคุณสมบัติอันพึงคาดหวัง เพราะจะอำนวยประโยชน์ ทั้งแก่ตัวบัณฑิตเอง แก่งานที่ทำ และแก่ชาติบ้านเมืองเป็นอย่างมาก"
ในการนี้ ผู้แทนพระองค์ มอบปริญญากิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน และมอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี จากคณะรัฐศาสตร์ รวม 2,167 คน
โอกาสนี้ ผู้แทนพระองค์ มอบโอวาทความว่า "บัณฑิตเมื่อสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาแล้ว ย่อมเป็นที่คาดหวังของสังคมว่าจะเป็นผู้มีคุณสมบัติพร้อมที่จะประกอบอาชีพการงาน และรับภาระหน้าที่ในกิจการงานต่าง ๆ กล่าวกันว่า คุณสมบัติสำคัญประการหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ต้องการและคาดหวังของหน่วยงานทั้งหลาย ก็คือความมีวิสัยทัศน์ ทุกคนจึงควรจะได้ทำความเข้าใจคุณสมบัติข้อนี้ โดยพิจารณาร่วมกัน คำว่าวิสัยทัศน์นั้น หากพิจารณาตามศัพท์ คือการมองเห็นสิ่งที่เป็นไปได้ หรืออยู่ในความสามารถที่จะกระทำได้ การที่บุคคลจะเล็งเห็นได้ดังนั้น จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามเป็นจริงเป็นพื้นฐาน อาศัยประสบการณ์ที่สร้างสมมาเป็นเครื่องประกอบ และอาศัยวิจารณญาณอันเที่ยงตรงเป็นเครื่องมือในการคิดพิจารณา โดยนัยนี้ ผู้มีวิสัยทัศน์ ย่อมเป็นผู้มีความเข้าใจศักยภาพของตนและหน่วยงานตามเป็นจริง ทำให้สามารถกำหนดเป้าหมายและวิธีการ ในการพัฒนาตนพัฒนางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งคาดการณ์เพื่อเตรียมความพร้อม ที่จะรับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง นับเป็นผู้มองการณ์ไกลโดยแท้ จึงชอบที่บัณฑิตทุกคนจะได้ฝึกตนให้เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นคุณสมบัติอันพึงคาดหวัง เพราะจะอำนวยประโยชน์ ทั้งแก่ตัวบัณฑิตเอง แก่งานที่ทำ และแก่ชาติบ้านเมืองเป็นอย่างมาก"
Gallery
