พบผู้เสียชีวิตจาก “ไวรัสอีโบลา” ในประเทศยูกันดา

พบผู้ป่วยติดเชื้อ “ไวรัสอีโบลา” เสียชีวิตแล้วในประเทศยูกันดา หลังการระบาดครั้งที่ 9 ซึ่งมีผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้เสียชีวิต 44 คน
วันนี้ (31 ม.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขยูกันดา ยืนยันว่า หลังจากที่มีการระบาดของไวรัส “อีโบลา” (Ebola) ในกรุงกัมปาลา เมืองหลวงของประเทศยูกันดา ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว เมื่อวันพุธที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งการระบาดครั้งนี้ถือเป็นการระบาดครั้งที่ 9 ของประเทศยูกันดา นับตั้งแต่มีการบันทึกการติดเชื้อไวรัสในประเทศครั้งแรกเมื่อปี 2543
โดยผู้ป่วยที่เสียชีวิตรายดังกล่าวเป็นบุรุษพยาบาลชายของโรงพยาบาลรับผู้ป่วยส่งต่อแห่งชาติมูลาโก ในกรุงกัมปาลา ซึ่งก่อนเสียชีวิตผู้ป่วยมีอาการคล้ายเป็นไข้ และเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลหลายแห่ง รวมทั้งแพทย์แผนโบราณด้วย ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นมีรายชื่อผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต 44 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขถึง 30 คน
ทั้งนี้ การระบาดของไวรัส “อีโบลา” ครั้งใหญ่ที่สุด เป็นการระบาดในแอฟริกาตะวันตกตั้งแต่ปลายปี 2556 ถึงต้นปี 2559 มีผู้ป่วยกว่า 28,000 คน และเสียชีวิตกว่า 11,000 คน
วันนี้ (31 ม.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขยูกันดา ยืนยันว่า หลังจากที่มีการระบาดของไวรัส “อีโบลา” (Ebola) ในกรุงกัมปาลา เมืองหลวงของประเทศยูกันดา ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว เมื่อวันพุธที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งการระบาดครั้งนี้ถือเป็นการระบาดครั้งที่ 9 ของประเทศยูกันดา นับตั้งแต่มีการบันทึกการติดเชื้อไวรัสในประเทศครั้งแรกเมื่อปี 2543
โดยผู้ป่วยที่เสียชีวิตรายดังกล่าวเป็นบุรุษพยาบาลชายของโรงพยาบาลรับผู้ป่วยส่งต่อแห่งชาติมูลาโก ในกรุงกัมปาลา ซึ่งก่อนเสียชีวิตผู้ป่วยมีอาการคล้ายเป็นไข้ และเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลหลายแห่ง รวมทั้งแพทย์แผนโบราณด้วย ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นมีรายชื่อผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต 44 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขถึง 30 คน
ทั้งนี้ การระบาดของไวรัส “อีโบลา” ครั้งใหญ่ที่สุด เป็นการระบาดในแอฟริกาตะวันตกตั้งแต่ปลายปี 2556 ถึงต้นปี 2559 มีผู้ป่วยกว่า 28,000 คน และเสียชีวิตกว่า 11,000 คน
Gallery
