สนธิญา ยื่น อสส. ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย “นายกฯ อิ๊งค์” ปมตั้ง “ณัฐวุฒิ” เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
ต้องรับผิดชอบ “สนธิญา” ยื่น อสส. ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ปม “นายกฯ อิ๊งค์” เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง “ณัฐวุฒิ” เป็นที่ปรึกษาฯขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ชี้ เคยถูกตัดสิทธิทางการเมือง-พฤติการณ์สนับสนุนคนโดน ม.112
วันนี้ (15 ม.ค.68) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายสนธิยา สวัสดี นักร้องเรียนทางการเมืองยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ขอให้ตรวจสอบและพิจารณาส่งเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 67 ซึ่งอาจจะกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญในมาตรา 160 เรื่องความซื่อสัตย์ สุจริตจริยธรรม และคุณธรรม และมาตรา 164 และมาตราอื่น ๆ ประกอบ เนื่องจากนายณัฐวุฒิถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี และถูกจำคุก 2 ปี 8 เดือน ในคดีบุกบ้านพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นอกจากนี้ ยังประกาศสนับสนุนกลุ่มผู้กระทำความผิดกฎหมายในมาตรา 112
โดยนายสนธิญา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ยื่นร้องเรียนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปรับนายณัฐวุฒิ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 67 เพื่อให้คัดชื่อนายณัฐวุฒิ ออกภายใน 1 อาทิตย์ เนื่องจากพฤติกรรมของนายณัฐวุฒิเป็นการเซาะ กร่อน บ่อนทำลายเกี่ยวกับสถาบัน เป็นการกระทำที่รุนแรงต่อกฎหมายความมั่นคง กระทั่งผ่านมาถึงวันนี้เป็นเวลา 3 เดือน 11 วัน ไม่มีการคัดชื่อนายณัฐวุฒิออกแต่อย่างใด ประกอบกับกฤษฎีกาทั้ง 3 คณะชี้ว่ากรณีของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นข้าราชการทางการเมือง ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกันกับนายณัฐวุฒิ ตนจึงนำเข้าสู่กระบวนการยื่นให้อัยการสูงสุดชี้ว่าการกระทำของ น.ส.แพทองธาร ขัดต่อรัฐธรรมนูญตามที่ตนกล่าวหาหรือไม่ อย่างไร บทสรุปสุดท้ายสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องสรุปคำร้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถ้าไม่ยื่นตนจะใช้สิทธิ์ภายใน 60 วันยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยต่อไป
นายสนธิญา กล่าวว่า กระบวนการที่จะเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญได้มี 2 ช่องทาง คือ ผ่านสำนักงานอัยการสูงสุด กกต. หรือผู้ตรวจการแผ่นดิน ตนเลือกใช้วิธียื่นผ่านสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อโปรดพิจารณา ทั้งนี้ หากใครจะเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มราษฎรหรือมีความเห็นอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่กรณีของนายณัฐวุฒิที่ประกาศเป็นผู้สนับสนุน นายกฯ กลับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ทั้งที่นายกรัฐมนตรีจะต้องตรวจสอบคนที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้ เพราะฉะนั้นนายณัฐวุฒิและนายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงลายมือชื่อแต่งตั้งด้วยตัวเอง เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง
"สุดท้ายฝากไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่มีนักร้องมาร้องเรียนมากมายนั้น ขอเรียนว่า ตนจะไปถอนเรื่องร้องเรียนต่อ กกต. 2 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ และนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ประธานกกต.ได้ชี้แจงมาแล้ว ตนเห็นว่าไม่เข้ากระบวนการก็จะถอนให้ 2 เรื่อง เพราะท่านเป็นบุคคลที่อยู่นอกการเมือง แต่เข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมือง ตนร้องเรียนในส่วนที่เห็นว่าชัดเจน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวินิจฉัยชี้แจง และยื่นไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป ตนไม่ได้ทำด้วยความเกลียดหรือความโกรธแต่อย่างใด" นายสนธิญา กล่าว
วันนี้ (15 ม.ค.68) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายสนธิยา สวัสดี นักร้องเรียนทางการเมืองยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ขอให้ตรวจสอบและพิจารณาส่งเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 67 ซึ่งอาจจะกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญในมาตรา 160 เรื่องความซื่อสัตย์ สุจริตจริยธรรม และคุณธรรม และมาตรา 164 และมาตราอื่น ๆ ประกอบ เนื่องจากนายณัฐวุฒิถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี และถูกจำคุก 2 ปี 8 เดือน ในคดีบุกบ้านพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นอกจากนี้ ยังประกาศสนับสนุนกลุ่มผู้กระทำความผิดกฎหมายในมาตรา 112
โดยนายสนธิญา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ยื่นร้องเรียนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปรับนายณัฐวุฒิ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 67 เพื่อให้คัดชื่อนายณัฐวุฒิ ออกภายใน 1 อาทิตย์ เนื่องจากพฤติกรรมของนายณัฐวุฒิเป็นการเซาะ กร่อน บ่อนทำลายเกี่ยวกับสถาบัน เป็นการกระทำที่รุนแรงต่อกฎหมายความมั่นคง กระทั่งผ่านมาถึงวันนี้เป็นเวลา 3 เดือน 11 วัน ไม่มีการคัดชื่อนายณัฐวุฒิออกแต่อย่างใด ประกอบกับกฤษฎีกาทั้ง 3 คณะชี้ว่ากรณีของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นข้าราชการทางการเมือง ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกันกับนายณัฐวุฒิ ตนจึงนำเข้าสู่กระบวนการยื่นให้อัยการสูงสุดชี้ว่าการกระทำของ น.ส.แพทองธาร ขัดต่อรัฐธรรมนูญตามที่ตนกล่าวหาหรือไม่ อย่างไร บทสรุปสุดท้ายสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องสรุปคำร้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถ้าไม่ยื่นตนจะใช้สิทธิ์ภายใน 60 วันยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยต่อไป
นายสนธิญา กล่าวว่า กระบวนการที่จะเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญได้มี 2 ช่องทาง คือ ผ่านสำนักงานอัยการสูงสุด กกต. หรือผู้ตรวจการแผ่นดิน ตนเลือกใช้วิธียื่นผ่านสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อโปรดพิจารณา ทั้งนี้ หากใครจะเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มราษฎรหรือมีความเห็นอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่กรณีของนายณัฐวุฒิที่ประกาศเป็นผู้สนับสนุน นายกฯ กลับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ทั้งที่นายกรัฐมนตรีจะต้องตรวจสอบคนที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้ เพราะฉะนั้นนายณัฐวุฒิและนายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงลายมือชื่อแต่งตั้งด้วยตัวเอง เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง
"สุดท้ายฝากไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่มีนักร้องมาร้องเรียนมากมายนั้น ขอเรียนว่า ตนจะไปถอนเรื่องร้องเรียนต่อ กกต. 2 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ และนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ประธานกกต.ได้ชี้แจงมาแล้ว ตนเห็นว่าไม่เข้ากระบวนการก็จะถอนให้ 2 เรื่อง เพราะท่านเป็นบุคคลที่อยู่นอกการเมือง แต่เข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมือง ตนร้องเรียนในส่วนที่เห็นว่าชัดเจน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวินิจฉัยชี้แจง และยื่นไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป ตนไม่ได้ทำด้วยความเกลียดหรือความโกรธแต่อย่างใด" นายสนธิญา กล่าว
