ทนายอนันต์ชัย เผย อ.เบียร์ ติดต่ออยากขอโทษ
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เรียกว่า ดรามาไม่เว้นแต่ละวัน สำหรับ "อ.เบียร์ คนตื่นธรรม" หลังจากเมื่อวานนี้ มีกลุ่มพิทักษ์สถาบันแจ้งความดำเนินคดีมาตรา 112 กรณีไลฟ์พาดพิงสถาบัน ล่าสุดวันนี้ ถึงคิวของทนายอนันต์ชัย แจ้งเอาผิด "อ.เบียร์ คนตื่นธรรม" ข้อหาหมิ่นมหาเถรสมาคม จากกรณีคลิปไลฟ์พูดถึงมหาเถรสมาคม ลองไปฟังเสียงบางช่วงบางตอน
ทนายอนันต์ชัย เผย อ.เบียร์ ติดต่ออยากขอโทษ
นี่เป็นคลิปต้นเหตุขณะที่ อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ไลฟ์พูดถึงมหาเถรสมาคมบางช่วงบางตอน ซึ่งคลิปนี้ อาจารย์เบียร์ ไลฟ์เมื่อช่วงเดือน กันยายน ปี 2567 ว่า มึงไปโค่นล้มมหาเถรสมาคมไม่ได้หรอก เขาอยู่ยงคงกระพันด้วยตำแหน่งหน้าที่และอำนาจ ไม่ใช่ด้วยพระธรรม มีแต่ด้วยอำนาจ มหาเถรสมาคมทำตามพระธรรม ทำตามพระวินัยก็มี แต่หลายอย่างที่ไม่ทำตามพระวินัย ทำตามอำนาจหน้าที่ของตนที่ผิดจากหลักคำสอนหรือหลักพระวินัยของพระพุทธเจ้าก็มีเยอะแยะมากมาย
วันนี้ (9 ม.ค.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมทีมงานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับ นายสัญชัย วันพิรัตน์ หรือ อ.เบียร์ คนตื่นธรรม ว่า "คำพูดดังกล่าว ยอมไม่ได้ เนื่องจากเป็นการหมิ่นพระเกียรติคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่อาจารย์เบียร์ไม่ได้มีความรู้เรื่องพระไตรปิฎก แต่มาก่นด่ามาหมิ่นพระเกียรติ มาสั่งสอนสมเด็จพระสังฆราช และมหาเถรสมาคม ออกเป็นข่าวทั่วประเทศ อยากถามสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่าพวกท่านทำอะไรกันอยู่ ทำไมถึงปล่อยให้ฆราวาสอย่างตนออกมาเคลื่อนไหวเอง" จึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับอาจารย์เบียร์ ข้อหาหมิ่นประมาท พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องให้พนักงานสอบสวนพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดใดบ้าง
ทนายอนันต์ชัย ยังบอกอีกว่า ก่อนจะมาแจ้งความวันนี้ มีคนที่เคารพรักโทรมาหาตน บอกว่า คนสอนธรรมคนนี้ อยากจะมาหาและอยากจะมาขอโทษ ตนบอกว่ายังไม่ต้องมาขอโทษ ถ้าจะขอโทษไม่ต้องมาขอโทษตน ให้ไปขอโทษมหาเถรสมาคม ขอโทษพี่น้องประชาชน ขอโทษคณะสงฆ์จะดีเสียกว่า เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของตน
ทนายเกิดผล เตือน อ.เบียร์ ใช้ศีลธรรมไม่ช่วยรอดคดี
ขณะที่ ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กใจความระบุว่า "อาจารย์เบียร์ชอบพูดว่า ทุกสิ่งเป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัย ไม่มีใครทำอาจารย์ได้ เพราะอาจารย์ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า อยากจะบอกอาจารย์เบียร์ว่า อาจจะรู้จักกฎหมายไทยน้อยไป ศาลไทยไม่ได้พิจารณาคดีจากพระไตรปิฎก แต่พิจารณาจากพยานหลักฐาน การใช้ศีลธรรมกับวาทกรรมของพุทธวจนะ เมื่อใช้ในการต่อสู้คดีน่าจะไม่รอด บ้านเราเป็นระบบกล่าวหา การใช้ความดี ไม่เพียงพอต่อการต่อสู้คดีในศาล อาจารย์ต้องมีทั้งทนายที่ดีมีฝีมือ และต้องมีพยานหลักฐานในการต่อสู้ สิ่งที่อาจารย์ต้องเร่งหา ไม่ใช่การเดินสายออกรายการโทรทัศน์ แต่คือการเร่งหาพยานหลักฐาน อาจารย์จะพูด แต่เพียงว่ากูบริสุทธิ์ พระพุทธเจ้าเป็นแบ็คกู ไม่ได้นะ อาจารย์ไม่รอดนะ
อ.เบียร์ ไม่กังวลโดนแจ้งจับ ลั่นไม่เจตนาหมิ่น
ขณะที่ล่าสุด อ.เบียร์ คนตื่นธรรม ออกมาชี้แจงมรสุมดรามาผ่านรายการหนึ่งว่า ไม่ได้ท้อ แต่เหนื่อยบ้าง เพราะต้องมานั่งชี้แจง ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด และไม่เคยขัดแย้งกับใครมาก่อน แต่สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าก็ยังเคยถูกใส่ร้ายเป็นเรื่องปกติ ส่วนกรณีที่ ทนายอนันต์ชัย แจ้งความเรื่องหมิ่นมหาเถรสมาคม ว่า ไม่กังวลอะไร เพราะไม่เจตนาดูหมิ่น ต้องดูบริบททั้งหมด อาจารย์พูดแค่ว่า บางส่วนทำตาม บางส่วนไม่ทำตาม แต่เขาใส่ร้าย ยุยงทำให้สังคมแตกแยก ถ้าอาจารย์ผิดพร้อมจะขอโทษและเข้าไปกราบขอขมา และหากต้องเป็นคดีความขึ้นศาล อาจจะขัดขวางการบวชของตนในช่วงปลายปีได้ แต่ตอนนี้ไม่คิดถึงอนาคต ปล่อยให้เป็นไปตามเหตุ
ทนายอนันต์ชัย เผย อ.เบียร์ ติดต่ออยากขอโทษ
นี่เป็นคลิปต้นเหตุขณะที่ อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ไลฟ์พูดถึงมหาเถรสมาคมบางช่วงบางตอน ซึ่งคลิปนี้ อาจารย์เบียร์ ไลฟ์เมื่อช่วงเดือน กันยายน ปี 2567 ว่า มึงไปโค่นล้มมหาเถรสมาคมไม่ได้หรอก เขาอยู่ยงคงกระพันด้วยตำแหน่งหน้าที่และอำนาจ ไม่ใช่ด้วยพระธรรม มีแต่ด้วยอำนาจ มหาเถรสมาคมทำตามพระธรรม ทำตามพระวินัยก็มี แต่หลายอย่างที่ไม่ทำตามพระวินัย ทำตามอำนาจหน้าที่ของตนที่ผิดจากหลักคำสอนหรือหลักพระวินัยของพระพุทธเจ้าก็มีเยอะแยะมากมาย
วันนี้ (9 ม.ค.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมทีมงานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับ นายสัญชัย วันพิรัตน์ หรือ อ.เบียร์ คนตื่นธรรม ว่า "คำพูดดังกล่าว ยอมไม่ได้ เนื่องจากเป็นการหมิ่นพระเกียรติคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่อาจารย์เบียร์ไม่ได้มีความรู้เรื่องพระไตรปิฎก แต่มาก่นด่ามาหมิ่นพระเกียรติ มาสั่งสอนสมเด็จพระสังฆราช และมหาเถรสมาคม ออกเป็นข่าวทั่วประเทศ อยากถามสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่าพวกท่านทำอะไรกันอยู่ ทำไมถึงปล่อยให้ฆราวาสอย่างตนออกมาเคลื่อนไหวเอง" จึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับอาจารย์เบียร์ ข้อหาหมิ่นประมาท พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องให้พนักงานสอบสวนพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดใดบ้าง
ทนายอนันต์ชัย ยังบอกอีกว่า ก่อนจะมาแจ้งความวันนี้ มีคนที่เคารพรักโทรมาหาตน บอกว่า คนสอนธรรมคนนี้ อยากจะมาหาและอยากจะมาขอโทษ ตนบอกว่ายังไม่ต้องมาขอโทษ ถ้าจะขอโทษไม่ต้องมาขอโทษตน ให้ไปขอโทษมหาเถรสมาคม ขอโทษพี่น้องประชาชน ขอโทษคณะสงฆ์จะดีเสียกว่า เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของตน
ทนายเกิดผล เตือน อ.เบียร์ ใช้ศีลธรรมไม่ช่วยรอดคดี
ขณะที่ ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กใจความระบุว่า "อาจารย์เบียร์ชอบพูดว่า ทุกสิ่งเป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัย ไม่มีใครทำอาจารย์ได้ เพราะอาจารย์ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า อยากจะบอกอาจารย์เบียร์ว่า อาจจะรู้จักกฎหมายไทยน้อยไป ศาลไทยไม่ได้พิจารณาคดีจากพระไตรปิฎก แต่พิจารณาจากพยานหลักฐาน การใช้ศีลธรรมกับวาทกรรมของพุทธวจนะ เมื่อใช้ในการต่อสู้คดีน่าจะไม่รอด บ้านเราเป็นระบบกล่าวหา การใช้ความดี ไม่เพียงพอต่อการต่อสู้คดีในศาล อาจารย์ต้องมีทั้งทนายที่ดีมีฝีมือ และต้องมีพยานหลักฐานในการต่อสู้ สิ่งที่อาจารย์ต้องเร่งหา ไม่ใช่การเดินสายออกรายการโทรทัศน์ แต่คือการเร่งหาพยานหลักฐาน อาจารย์จะพูด แต่เพียงว่ากูบริสุทธิ์ พระพุทธเจ้าเป็นแบ็คกู ไม่ได้นะ อาจารย์ไม่รอดนะ
อ.เบียร์ ไม่กังวลโดนแจ้งจับ ลั่นไม่เจตนาหมิ่น
ขณะที่ล่าสุด อ.เบียร์ คนตื่นธรรม ออกมาชี้แจงมรสุมดรามาผ่านรายการหนึ่งว่า ไม่ได้ท้อ แต่เหนื่อยบ้าง เพราะต้องมานั่งชี้แจง ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด และไม่เคยขัดแย้งกับใครมาก่อน แต่สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าก็ยังเคยถูกใส่ร้ายเป็นเรื่องปกติ ส่วนกรณีที่ ทนายอนันต์ชัย แจ้งความเรื่องหมิ่นมหาเถรสมาคม ว่า ไม่กังวลอะไร เพราะไม่เจตนาดูหมิ่น ต้องดูบริบททั้งหมด อาจารย์พูดแค่ว่า บางส่วนทำตาม บางส่วนไม่ทำตาม แต่เขาใส่ร้าย ยุยงทำให้สังคมแตกแยก ถ้าอาจารย์ผิดพร้อมจะขอโทษและเข้าไปกราบขอขมา และหากต้องเป็นคดีความขึ้นศาล อาจจะขัดขวางการบวชของตนในช่วงปลายปีได้ แต่ตอนนี้ไม่คิดถึงอนาคต ปล่อยให้เป็นไปตามเหตุ