ครอบครัว หนุ่มคลั่งในรพ.ถูกยิงดับ คาใจ ขอความเป็นธรรม ตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ยังไม่ได้ฆ่าใครตาย
ครอบครัว หนุ่มคลั่งในรพ.ถูกยิงดับ คาใจ ขอความเป็นธรรม ตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ยังไม่ได้ฆ่าใครตาย ไม่ได้ทำร้ายผู้ป่วยหนักหนา แค่ทำลายข้าวของ ทำไมต้องถึงขั้นวิสามัญ พร้อมตั้งคำถาม รปภ.ที่ รพ.มีกว่า 20 คน ทำไมควบคุมหนุ่มคลั่งไม่ได้ แม่ผู้เสียชีวิตตั้งข้อสงสัย ปกติลูกไม่เคยมีอาการแบบนี้ เชื่อ อาการคลั่งเกินจากยากันชักที่หมอให้
วันที่ 4 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านอุดม ต.ชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของนายอภิชัย อายุ 26 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุ ถูก จนท.ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ เข้าระงับเหตุ เมื่อเวลา 13.45 น.ของวานนี้ (3 ม.ค.68) หลังผู้ตายได้เข้ามารักษาตัวด้วยโรคไส้ติ่งอักเสบที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ และนอนพักฟื้นอยู่ภายในห้องผู้ป่วยรวม ชั้น 4 ก่อนจะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาด ใช้อาวุธขวานจากที่เก็บไว้เป็นอุปกรณ์ดับเพลิง และเสาน้ำเกลือ ไล่ทำร้ายผู้ป่วย, ญาติผู้ป่วยอื่น และทรัพย์สินทางราชการ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย เจ้าหน้าที่โรงพยาล โทรศัพท์แจ้งเหตุ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 2 นาย เข้าระงับเหตุชายคลุ้มคลั่งดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง นายอภิชัย ปรี่เข้าหาจะทำร้ายตำรวจ ตำรวจจึงได้ปฏิบัติตามยุทธวิธีโดยการสั่งให้นายอภิชัยฯ ทิ้งอาวุธขวานและเสาน้ำเกลือ แต่ทำให้นายอภิชัยฯมีอาการคลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิม ไม่ยอมและได้เดินเข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจในระยะประชิด แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สั่งให้นายอภิชัยฯ “หยุด” และให้ทิ้งอาวุธก็ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้อาวุธปืนประจำกาย ยิงเข้าไปที่นายอภิชัยฯเพื่อป้องกันตัวเอง เป็นเหตุให้นายอภิชัยฯได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลจากคมกระสุนตามร่างกาย จำนวน 3 แห่ง และแพทย์ทำการปฐมพยาบาลอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ที่บ้านผู้ตาย ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพ พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด ครอบครัวญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน ต่างมาร่วมกันจัดเตรียมพื้นที่จัดงานฌาปนกิจ จำนวนมาก หลังจากศพถูกส่งมาถึงตั้งแต่เมื่อคืน
แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า วันนั้นลูกชายอาเจียนทั้งวัน ลุกไม่ได้ ชักสองครั้ง หลังจากฉลองเคานต์ดาวน์ จึงแจ้งรถกู้ชีพมารับไปรักษาตัวที่ รพ.จอมพระ คืนวันที่ 1 ม.ค.68 หมอตรวจเจาะเลือด เอ็กเซรย์สมอง หมอว่า คนไข้เป็นไส้ติ่ง หมอเลยส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ที่เกิดเหตุ ต่อ ในวันที่ 2 ม.ค.68 และเข้าผ่าตัดไส้ติ่งตอนตีสองของวันนั้น คนไข้มีประวัติเคยชัก หมอเลยฉีดยากันชัก คนไข้ฟื้นขึ้นมา ก็ถามแม่ว่า ทำไมผมเป็นอย่างนี้ หมอใส่ยาอะไรให้ผม เลยบอกไปว่า หมอกลัวชัก จะทำให้แผลผ่าตัดฉีด เลยฉีดยาให้ แม่อยู่กับลูกตลอดเวลา บอกลูกว่าสู้ๆเดี๋ยวก็หาย ยานี้ก็เป็นแบบนี้แหละ แม่เคยให้ยาลูกเวลาชัก ลูกจะนอนพูดไปเรื่อย เหมือนคนละเมอ มือจะกระดิกไปมา แม่สงสัยว่าเกิดจากฤทธิ์ยากันชัก
ขณะเกิดเหตุแม่ไปเข้าห้องน้ำกลับมา เห็นผู้ช่วยพยาบาล พูดว่ามือทำไมอยู่ไม่นิ่ง เพราะลูกจะถอดสายน้ำเกลือให้หลุด หมอก็เปลี่ยนใส่แขนอีกข้าง และก็ย้ายเตียง ผู้ช่วยพยาบาล 2 คนพูดไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จากฟังจากสำเนียง ลูกชายบอกทำไมย้ายมาตรงนี้ ตนเลยบอกว่าจะหายแล้ว เขาเลยย้าย จะกลับแล้ว ส่วนพยาบาลก็เอายากันชักมาฉีด เขาฉีดไม่ถึง 10 นาที ก็นอนหลับและตื่นมาและถามตนอีกว่า เขาอยู่ที่ไหน ทำไมผมเป็นแบบนี้ สักพักลูกลุกพรวด และดึงสายน้ำเกลือทิ้ง แม่ก็สติหลุด เลยเรียกให้พยาบาลช่วย หลังจากนั้นได้ยินเสียงอาละวาด ได้ยินแต่เสียงพยาบาลร้องส่งเสียงดัง ตนก็ชะเง้อดูลูกเรื่อยๆ คนไข้ก็นอนอยู่เต็มที่นอน และลุกไม่ได้ ถ้าลูกตี คงตายกันหมดแล้ว แต่แม่คิดว่า ลูกคงข้องใจกับผู้ช่วยพยาบาล 2 คนนั้นที่ว่าลูก พอแม่เปิดประตูไป เห็นลูกถือขวาน แม่ก็กลัว แต่ตนไม่เห็นว่าลูกแม่ตีใคร เห็นแต่ยามอยู่หน้าระตู แม่วิ่งลงมาทางประตูหนีไฟ สักพักก็ได้ยินเสียงปืน 4 นัด แม่โทรคุยกับลูกคนโตว่า น้องมันคลั่ง มันหลอนอาละวาด ให้มาดูน้อง เมื่อได้ยินเสียงปืน เท่านั้นเลยรู้ว่าเจ้าหน้าที่คงยิงแล้ว เลยบอกให้พาพี่น้องมาที่ รพ.เลย
ตอนลูกอายุประมาณ 16 ปี มีประวัติเสพยาอยู่ แต่ตอนนี้ ลูกบอกเลิกแล้ว แต่ตนไม่เคยเชื่อลูก เพื่อนๆลูกบอกว่าลูกไม่เคยยุ่งและแตะต้องเลย แต่ลูกกินเหล้าหนัก ตนติดใจ คือ ลูกแม่ไม่ได้ฆ่าใครตาย ไม่ได้ทำร้ายผู้ป่วยหนักหนา แค่ทำลายข้าวของ ทำไมต้องถึงขั้นวิสามัญลูกแม่ด้วย ระหว่างเกิดเหตุตนก็ไม่เห็น แต่เพื่อความชัดเจนและสบายใจ แม่ขอดูกล้องวงจรปิด ว่าลูกชายทำอะไรยังไงบ้าง จะได้รู้ว่าลูกตนเองไล่ตีพยาบาลหรือตีใครมาบ้าง ที่ข้องใจอยู่ เมื่อวานรอง ผอ.รพ.สุรินทร์ ก็มาส่งตนเองที่บ้านพร้อมกับศพ เขาก็พูดแสดงความเสียใจ กับเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ตำรวจยังไม่มา เขาบอกว่าสุดวิสัย เป็นการป้องกันตัว
คนตายเป็นลูกคนสุดท้อง ตนมีลูก 3 คน และจะเผาลูกตอนเช้าวันอาทิตย์นี้ที่วัดบ้านอุดม ต.ชุมแสงฯแม้ข้องใจอยากดูกล้องวงจรปิด ฝากนักข่าวด้วย สังคมตอนนี้ก็โจมตีแม่แล้ว บางคนก็ว่าลูกเราดี แต่เราก็ต้องสืบสอบถามชาวบ้านชาวช่องด้วย ว่าลูกเป็นคนยังไง ถึงเขากินเหล้าหนัก อัธยาศัยดี เขาไม่เคยทำร้ายใคร ไม่เคยเป็นแบบนี้ ช่วยงานชาวบ้านตลอด น่าจะเกิดจากยาหมอให้หรือไม่ที่ทำให้ลูกชายคลุ้มคลั่งและทราบเรื่องการเยียวยาด้วย ไม่ใช่สังคมโจมตีว่าลูกชายและตายอย่างหมาข้างถนน ไม่มีแม่คนไหนหรอก ที่อยากให้ลูกเป็นแบบนี้ อยากให้รู้หัวอกคุณแม่ด้วย แม่ผู้ตายฯกล่าว
ด้านน้าสาวผู้ตาย บอกว่า ผู้ตายเป็นคนขี้เล่น ชอบหยอก เงียบขรึม นิสัยธรรมดา ตามประสาวัยรุ่น ส่วนใหญ่เขาชอบชัก การคลุ้มคลั่งไม่มี มีแต่เคยขู่ถ้ามีปัญหากับใคร แต่ไม่เคยมีถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่ติดว่า การที่ไปรักษาตัวในนามคนป่วย แต่ญาติกลับได้รับศพมา การกระทำของตำรวจเกินกว่าเหตุไหม อยากให้เขาได้รับความเป็นธรรม แต่ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรบ้าง แต่เห็นสภาพศพแล้วรับไม่ได้ เห็นว่าโดนยิง ฝ่ามือ แขน ซี่โครงทะลุ และต้นขา น่าจะสี่นัด การระงับเหตุยิงขาแล้วไม่อยู่ถึงขั้นยิงถึงปอดถึงซี่โครงเลยหรือ เขาผ่าตัดใหม่ๆไม่มีแรงขนาดนั้น ทำไม รปภ 20 คน เอาไม่อยู่ ถึงขนาดให้ไปเอาขวานได้ แล้วยุทธวิธีตำรวจไม่มีทำเบากว่านี้หรือ ที่ว่าไม่ใช้ปืนจริงกระสุนจริง แต่นี้ใช้ถึงขั้นใช้กระสุนจริงจนต้องเสียชีวิต อยากทราบควรมกระจ่างในเรื่องนี้และขอเรียกร้องความเป็นธรรมด้วย
ทั้งนี้ จนท.ตำรวจ จะมีการแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้ และทราบข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า จนท.ตำรวจได้เข้าไปเก็บข้อมูลภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุมาแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมา
วันที่ 4 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านอุดม ต.ชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของนายอภิชัย อายุ 26 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุ ถูก จนท.ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ เข้าระงับเหตุ เมื่อเวลา 13.45 น.ของวานนี้ (3 ม.ค.68) หลังผู้ตายได้เข้ามารักษาตัวด้วยโรคไส้ติ่งอักเสบที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ และนอนพักฟื้นอยู่ภายในห้องผู้ป่วยรวม ชั้น 4 ก่อนจะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาด ใช้อาวุธขวานจากที่เก็บไว้เป็นอุปกรณ์ดับเพลิง และเสาน้ำเกลือ ไล่ทำร้ายผู้ป่วย, ญาติผู้ป่วยอื่น และทรัพย์สินทางราชการ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย เจ้าหน้าที่โรงพยาล โทรศัพท์แจ้งเหตุ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 2 นาย เข้าระงับเหตุชายคลุ้มคลั่งดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง นายอภิชัย ปรี่เข้าหาจะทำร้ายตำรวจ ตำรวจจึงได้ปฏิบัติตามยุทธวิธีโดยการสั่งให้นายอภิชัยฯ ทิ้งอาวุธขวานและเสาน้ำเกลือ แต่ทำให้นายอภิชัยฯมีอาการคลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิม ไม่ยอมและได้เดินเข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจในระยะประชิด แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สั่งให้นายอภิชัยฯ “หยุด” และให้ทิ้งอาวุธก็ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้อาวุธปืนประจำกาย ยิงเข้าไปที่นายอภิชัยฯเพื่อป้องกันตัวเอง เป็นเหตุให้นายอภิชัยฯได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลจากคมกระสุนตามร่างกาย จำนวน 3 แห่ง และแพทย์ทำการปฐมพยาบาลอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ที่บ้านผู้ตาย ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพ พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด ครอบครัวญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน ต่างมาร่วมกันจัดเตรียมพื้นที่จัดงานฌาปนกิจ จำนวนมาก หลังจากศพถูกส่งมาถึงตั้งแต่เมื่อคืน
แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า วันนั้นลูกชายอาเจียนทั้งวัน ลุกไม่ได้ ชักสองครั้ง หลังจากฉลองเคานต์ดาวน์ จึงแจ้งรถกู้ชีพมารับไปรักษาตัวที่ รพ.จอมพระ คืนวันที่ 1 ม.ค.68 หมอตรวจเจาะเลือด เอ็กเซรย์สมอง หมอว่า คนไข้เป็นไส้ติ่ง หมอเลยส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ที่เกิดเหตุ ต่อ ในวันที่ 2 ม.ค.68 และเข้าผ่าตัดไส้ติ่งตอนตีสองของวันนั้น คนไข้มีประวัติเคยชัก หมอเลยฉีดยากันชัก คนไข้ฟื้นขึ้นมา ก็ถามแม่ว่า ทำไมผมเป็นอย่างนี้ หมอใส่ยาอะไรให้ผม เลยบอกไปว่า หมอกลัวชัก จะทำให้แผลผ่าตัดฉีด เลยฉีดยาให้ แม่อยู่กับลูกตลอดเวลา บอกลูกว่าสู้ๆเดี๋ยวก็หาย ยานี้ก็เป็นแบบนี้แหละ แม่เคยให้ยาลูกเวลาชัก ลูกจะนอนพูดไปเรื่อย เหมือนคนละเมอ มือจะกระดิกไปมา แม่สงสัยว่าเกิดจากฤทธิ์ยากันชัก
ขณะเกิดเหตุแม่ไปเข้าห้องน้ำกลับมา เห็นผู้ช่วยพยาบาล พูดว่ามือทำไมอยู่ไม่นิ่ง เพราะลูกจะถอดสายน้ำเกลือให้หลุด หมอก็เปลี่ยนใส่แขนอีกข้าง และก็ย้ายเตียง ผู้ช่วยพยาบาล 2 คนพูดไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จากฟังจากสำเนียง ลูกชายบอกทำไมย้ายมาตรงนี้ ตนเลยบอกว่าจะหายแล้ว เขาเลยย้าย จะกลับแล้ว ส่วนพยาบาลก็เอายากันชักมาฉีด เขาฉีดไม่ถึง 10 นาที ก็นอนหลับและตื่นมาและถามตนอีกว่า เขาอยู่ที่ไหน ทำไมผมเป็นแบบนี้ สักพักลูกลุกพรวด และดึงสายน้ำเกลือทิ้ง แม่ก็สติหลุด เลยเรียกให้พยาบาลช่วย หลังจากนั้นได้ยินเสียงอาละวาด ได้ยินแต่เสียงพยาบาลร้องส่งเสียงดัง ตนก็ชะเง้อดูลูกเรื่อยๆ คนไข้ก็นอนอยู่เต็มที่นอน และลุกไม่ได้ ถ้าลูกตี คงตายกันหมดแล้ว แต่แม่คิดว่า ลูกคงข้องใจกับผู้ช่วยพยาบาล 2 คนนั้นที่ว่าลูก พอแม่เปิดประตูไป เห็นลูกถือขวาน แม่ก็กลัว แต่ตนไม่เห็นว่าลูกแม่ตีใคร เห็นแต่ยามอยู่หน้าระตู แม่วิ่งลงมาทางประตูหนีไฟ สักพักก็ได้ยินเสียงปืน 4 นัด แม่โทรคุยกับลูกคนโตว่า น้องมันคลั่ง มันหลอนอาละวาด ให้มาดูน้อง เมื่อได้ยินเสียงปืน เท่านั้นเลยรู้ว่าเจ้าหน้าที่คงยิงแล้ว เลยบอกให้พาพี่น้องมาที่ รพ.เลย
ตอนลูกอายุประมาณ 16 ปี มีประวัติเสพยาอยู่ แต่ตอนนี้ ลูกบอกเลิกแล้ว แต่ตนไม่เคยเชื่อลูก เพื่อนๆลูกบอกว่าลูกไม่เคยยุ่งและแตะต้องเลย แต่ลูกกินเหล้าหนัก ตนติดใจ คือ ลูกแม่ไม่ได้ฆ่าใครตาย ไม่ได้ทำร้ายผู้ป่วยหนักหนา แค่ทำลายข้าวของ ทำไมต้องถึงขั้นวิสามัญลูกแม่ด้วย ระหว่างเกิดเหตุตนก็ไม่เห็น แต่เพื่อความชัดเจนและสบายใจ แม่ขอดูกล้องวงจรปิด ว่าลูกชายทำอะไรยังไงบ้าง จะได้รู้ว่าลูกตนเองไล่ตีพยาบาลหรือตีใครมาบ้าง ที่ข้องใจอยู่ เมื่อวานรอง ผอ.รพ.สุรินทร์ ก็มาส่งตนเองที่บ้านพร้อมกับศพ เขาก็พูดแสดงความเสียใจ กับเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ตำรวจยังไม่มา เขาบอกว่าสุดวิสัย เป็นการป้องกันตัว
คนตายเป็นลูกคนสุดท้อง ตนมีลูก 3 คน และจะเผาลูกตอนเช้าวันอาทิตย์นี้ที่วัดบ้านอุดม ต.ชุมแสงฯแม้ข้องใจอยากดูกล้องวงจรปิด ฝากนักข่าวด้วย สังคมตอนนี้ก็โจมตีแม่แล้ว บางคนก็ว่าลูกเราดี แต่เราก็ต้องสืบสอบถามชาวบ้านชาวช่องด้วย ว่าลูกเป็นคนยังไง ถึงเขากินเหล้าหนัก อัธยาศัยดี เขาไม่เคยทำร้ายใคร ไม่เคยเป็นแบบนี้ ช่วยงานชาวบ้านตลอด น่าจะเกิดจากยาหมอให้หรือไม่ที่ทำให้ลูกชายคลุ้มคลั่งและทราบเรื่องการเยียวยาด้วย ไม่ใช่สังคมโจมตีว่าลูกชายและตายอย่างหมาข้างถนน ไม่มีแม่คนไหนหรอก ที่อยากให้ลูกเป็นแบบนี้ อยากให้รู้หัวอกคุณแม่ด้วย แม่ผู้ตายฯกล่าว
ด้านน้าสาวผู้ตาย บอกว่า ผู้ตายเป็นคนขี้เล่น ชอบหยอก เงียบขรึม นิสัยธรรมดา ตามประสาวัยรุ่น ส่วนใหญ่เขาชอบชัก การคลุ้มคลั่งไม่มี มีแต่เคยขู่ถ้ามีปัญหากับใคร แต่ไม่เคยมีถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่ติดว่า การที่ไปรักษาตัวในนามคนป่วย แต่ญาติกลับได้รับศพมา การกระทำของตำรวจเกินกว่าเหตุไหม อยากให้เขาได้รับความเป็นธรรม แต่ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรบ้าง แต่เห็นสภาพศพแล้วรับไม่ได้ เห็นว่าโดนยิง ฝ่ามือ แขน ซี่โครงทะลุ และต้นขา น่าจะสี่นัด การระงับเหตุยิงขาแล้วไม่อยู่ถึงขั้นยิงถึงปอดถึงซี่โครงเลยหรือ เขาผ่าตัดใหม่ๆไม่มีแรงขนาดนั้น ทำไม รปภ 20 คน เอาไม่อยู่ ถึงขนาดให้ไปเอาขวานได้ แล้วยุทธวิธีตำรวจไม่มีทำเบากว่านี้หรือ ที่ว่าไม่ใช้ปืนจริงกระสุนจริง แต่นี้ใช้ถึงขั้นใช้กระสุนจริงจนต้องเสียชีวิต อยากทราบควรมกระจ่างในเรื่องนี้และขอเรียกร้องความเป็นธรรมด้วย
ทั้งนี้ จนท.ตำรวจ จะมีการแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้ และทราบข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า จนท.ตำรวจได้เข้าไปเก็บข้อมูลภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุมาแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมา