ลงดาบเชือดแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล CoinEx
ลงดาบเชือดแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล CoinEx แจ้งข้อหาหนักหนุ่มใหญ่ ร่วมกันประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่ได้รับอนุญาต
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุมนายพุฒิพงศ์ฯ ซึ่งได้ร่วมกันกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พุทธศักราช 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. ได้รับเป็นคดีอาญาที่ 35/2567
สืบเนื่องจากเมื่อห้วงปี พ.ศ.2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้ตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่าพบข้อมูลผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศ CoinEx ได้ให้บริการจัดระบบการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเก็บค่าธรรมเนียม และมีการชักชวนและประชาสัมพันธ์ให้มาใช้บริการของ ผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศ CoinEx ในประเทศไทย ผ่านทางโซเชียลมีเดียเป็นภาษาไทย
และพบว่า นายพุฒิพงศ์ฯ ได้แสดงตนว่าเป็น Partner of CoinEx Thailand โดยเป็นผู้ดูแลบูธ CoinEx ในงาน Thailand Crypto Expo 2022 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค และขึ้นบรรยายบนเวทีเพื่อชักชวนประชาชนมาใช้บริการของ CoinEx
นอกจากนี้ นายพุฒิพงศ์ฯ ยังเป็นผู้ส่ง email ในฐานะ Partner of CoinEx Thailand เพื่อสอบถาม ก.ล.ต. เกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับ CoinEx รวมทั้งนายพุฒิพงศ์ฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลห้องสนทนาใน Telegram ชื่อ “CoinEx Official Thailand เพื่อทําให้การซื้อขาย Crypto ง่ายขึ้น โดยมีการส่งข้อความในลักษณะประชาสัมพันธ์การส่งเสริมการขายอันทำให้ CoinEx เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากบุคคลไปใช้บริการมากขึ้นซึ่งนายพุฒิพงศ์ฯ ได้รับค่าตอบแทนจากการกระทำข้างต้น เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่บัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเอง
ซึ่งต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และดำเนินการติดตามตัวนาย พุฒิพงศ์ฯ ฯ ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุมนายพุฒิพงศ์ฯ ซึ่งได้ร่วมกันกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พุทธศักราช 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. ได้รับเป็นคดีอาญาที่ 35/2567
สืบเนื่องจากเมื่อห้วงปี พ.ศ.2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้ตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่าพบข้อมูลผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศ CoinEx ได้ให้บริการจัดระบบการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเก็บค่าธรรมเนียม และมีการชักชวนและประชาสัมพันธ์ให้มาใช้บริการของ ผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศ CoinEx ในประเทศไทย ผ่านทางโซเชียลมีเดียเป็นภาษาไทย
และพบว่า นายพุฒิพงศ์ฯ ได้แสดงตนว่าเป็น Partner of CoinEx Thailand โดยเป็นผู้ดูแลบูธ CoinEx ในงาน Thailand Crypto Expo 2022 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค และขึ้นบรรยายบนเวทีเพื่อชักชวนประชาชนมาใช้บริการของ CoinEx
นอกจากนี้ นายพุฒิพงศ์ฯ ยังเป็นผู้ส่ง email ในฐานะ Partner of CoinEx Thailand เพื่อสอบถาม ก.ล.ต. เกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับ CoinEx รวมทั้งนายพุฒิพงศ์ฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลห้องสนทนาใน Telegram ชื่อ “CoinEx Official Thailand เพื่อทําให้การซื้อขาย Crypto ง่ายขึ้น โดยมีการส่งข้อความในลักษณะประชาสัมพันธ์การส่งเสริมการขายอันทำให้ CoinEx เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากบุคคลไปใช้บริการมากขึ้นซึ่งนายพุฒิพงศ์ฯ ได้รับค่าตอบแทนจากการกระทำข้างต้น เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่บัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเอง
ซึ่งต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และดำเนินการติดตามตัวนาย พุฒิพงศ์ฯ ฯ ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป