หญิงวัย 35 ถูกตำรวจจับผิดตัว โดยถูกนำตัวจากชัยภูมิ มาที่ สน.บางยี่ขัน กทม.

วันที่ 20 ธ.ค. 2567
ข่าวการประกวด
หญิงวัย 35 ถูกตำรวจจับผิดตัว โดยถูกนำตัวจากชัยภูมิ มาที่ สน.บางยี่ขัน กทม. หลังสอบสวนตำรวจยืนยันจับกุมผิดตัวจริง เพราะผู้ก่อเหตุชื่อและนามสกุล ซ้ำกับผู้เสียหาย ล่าสุด ครอบครัวร้องขอความเป็นธรรม ให้ได้รับการเยียวยา วันเกิดเหตุตำรวจส่งเงินค่ารถ ให้กลับชัยภูมิ 2,000 บาท

หญิงวัย 35 ปี ชาว อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ถูกตำรวจนครบาลบางยีขัน นำหมายศาลเข้าจับกุมกลางป่าไร่อ้อย ขณะเลี้ยงรับจ้างตัดอยู่กลางไร่อ้อย ถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน พื้นที่บางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ นำตัวไปสอบสวนที่ สน.บางยี่ขันข้ามคืนถึงรู้ว่าจับผิดตัว ถูกปล่อยตัวกลับบ้านพ้นความผิด แม้หญิงวัย 35 ปี ถูกจับกุมตัวไปไม่ติดใจการทำงานของตำรวจ แต่อย่างเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้ได้รับการเยียวยาบ้าง

วันนี้(20 ธ.ค.67) นายแฮ็ด อายุ 60 ปี นางหนูภักดิ์ อายุ 57 ปี พ่อและแม่ ของ น.ส.พรทิพย์ อายุ 35 ปี ชาวบ้าน ต.หนองตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เข้าแจ้งความลงบันทึกประวันไว้ที่ สภ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ขอความเป็นธรรม หลังจากที่ น.ส.พรทิพย์ อายุ 35 ลูกสาวตนเอง ได้ถูกตำรวจ สน.บางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ พร้อมตำรวจ สภ.ภูเขียว ชุดสืบสวน จ.ชัยภูมิ นำหมายศาลนำหมายศาลอาญาตลิ่งชัน เข้าจับกุม น.ส.พรทิพย์ อายุ 35 ปี ที่บริเวณป่าอ้อยทิศใต้บ้านโนนเสลา หมู่ 6 ต.หนองตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ถูกแข้งข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน 

ซึ่ง น.ส.พรทิพย์ ให้การปฏิเสธว่า ไม่ใช่บุคคลตามหมายจับและปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ได้นำตัว น.ส.พรทิพย์ ฯ อายุ 35 ปี ส่ง พนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

ขณะที่ พ่อ-แม่ น.ส.พรทิพย์ เล่าว่าที่ผ่านมา ลูกสาวของตนเอง น.ส.พรทิพย์ ไม่เคยไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทำงานอยูในพื้นที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ทุกวัน ที่ผ่านมาเคยถูกหมายศาลแขวงดุสิต มาจับกุมตัว น.ส.พรทิพย์ มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2558 ลูกสาวตนเองน.ส.ได้ให้ปฎิเสธ ได้ยื่นคำร้องไม่ใช่ตัวข้างที่ถูกฟ้อง และได้ไปเปลี่ยนชื่อเป็น น.ส.กัญญาภัทร จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2567ที่ผ่านมา ไม่ทราบว่าทำไมถูกจับกุมได้อีกอย่างไร

หลังตำรวจภูเขียว นำตัว น.ส.พรทิพย์ มาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขี่ขัน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.67 เวลา 06.09 น. การสอบสวนของพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ผลการสอบสอบสอบทราบว่าเป็นการจับกุมผิดตัว ซึ่งเมื่อปี 2558 ได้มีหมายคำฟ้องต่อศาลแขวงดุสิต มาจับกุมตัว น.ส.พรทิพย์ ได้ให้ปฎิเสธ ได้ยื่นคำร้องไม่ใช่ตัวข้างที่ถูกฟ้อง และได้ไปเปลี่ยนชื่อเป็น น.ส.กัญญาภัทร จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2567ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ นำหมายศาลอาญาบางยี่ขัน เข้าจับกุม ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน ซึ่งได้ให้ปฎิเสธ ไม่ได้กระทำความผิด แต่เป็นเพราะมีชื่อซ้ำกันตั้งแต่เด็ก จากนั้นเจ้าหน้าที่ และได้แจ้งกับพนักงานสอบสวน สน.บางขี่ขันว่า ไม่ได้กระทำผิด แต่ชื่อซ้ำกัน พนักงานสอบสวนจึงไม่ได้ควบคุมตัวเข้าห้องขังแต่อย่างใด แต่ได้สอบปากคำ น.ส.เป็นพยานเข้าประกอบสำนวนวนเพื่อดำเนินการกับผู้ต้องหาที่แท้จริงต่อไป โดยพนักงานสอบสวมไม่ได้ดีดำเนินคดีอาญากับ น.ส.ขวัญครอง หรือน.ส.พรทิพย์

หลัง น.ส.ขวัญครอง หรือน.ส.พรทิพย์ ภิรมย์โกรภักดิ์ อายุ 35 ปี ถูกปล่อยตัว ทีมข่าวได้โทรศัพท์ สอบถามถึงความรู้สึกอย่างไรที่ถูกจับกุมตัวผิดตัวในครั้งนี้ ได้รับคำตอบไม่ติดใจการทำงานของตำรวจสน.บางยี่ขัน แต่ก็อยากเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้ได้รับการเยียวยาบ้าง โดยตำรวจได้ส่งเงินค่ารถ เดินทางกลับบ้าน ที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ 2,000บาท

Gallery