“ลิ้นจี่ นครพนม 1” สินค้า GI ลูกใหญ่ หวานอมเปรี้ยว ออกก่อนภาคเหนือ เม.ย. ได้กินแล้ว

แห่ปลูก “ลิ้นจี่ นครพนม 1” สินค้า GI ลูกใหญ่ หวานอมเปรี้ยว ออกก่อนภาคเหนือ เม.ย. ได้กินแล้ว หมดปัญหาด้านการตลาด
“ลิ้นจี่ นครพนม 1”วันนี้ (9ธ.ค.67) นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร จึงได้จัดทำโมเดลต้นแบบ “ลิ้นจี่ นครพนม 1 ต้นแบบงานวิจัย สู่สินค้าเกษตร GI” ของจังหวัดนครพนม ภายใต้โครงการ 76 จังหวัด 76 โมเดล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลิ้นจี่นครพนม 1 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ได้รับคัดเลือกและพัฒนาพันธุ์โดยกรมวิชาการเกษตร จัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนครพนมและเป็นตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย GI ของตำบลขามเฒ่า จังหวัดนครพนม
โดยลิ้นจี่พันธุ์นครพนม 1 มีลักษณะเด่นแตกต่างจากลิ้นจี่พันธุ์อื่นๆ ทั่วไปคือ มีรสชาติดีหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่มีรสฝาด ผลมีขนาดใหญ่ ให้ผลผลิตเร็ว แทงช่อดอกในช่วงต้นเดือนธันวาคม ดอกบานในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งเร็วกว่าลิ้นจี่ที่ปลูกในเขตภาคเหนือ จึงไม่มีปัญหาด้านการตลาด
นางสาวปวีณา เชยชุ่ม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม และคณะนักวิจัยของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม ได้คัดเลือกนางรัศมี อุทาวงค์ เป็นเกษตรกรต้นแบบ “ลิ้นจี่ นครพนม 1 ต้นแบบงานวิจัย สู่สินค้าเกษตร GI”โดยนางรัศมี มีประสบการณ์การด้านการปลูกลิ้นจี่ นครพนม 1 ตั้งแต่รุ่นพ่อสู่รุ่นลูกร่วม 26 ปี และเป็นประธานแปลงใหญ่ลิ้นจี่ นครพนม 1 ตำบลขามเฒ่า จังหวัดนครพนม คณะนักวิจัยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม ได้นำเทคโนโลยีการผลิตลิ้นจี่นครพนม 1 ไปถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรกร ทั้งเรื่องการใช้พันธุ์ลิ้นจี่นครพนม 1 ของกรมวิชาการเกษตร เทคโนโลยีการใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ เทคโนโลยีการตัดแต่งกิ่ง และเทคโนโลยีการป้องกัดกำจัดแมลงศัตรูพืช
โดยในแปลงโมเดลลิ้นจี่นครพนม 1 ของนางรัศมี ในด้านการดูแลรักษา หลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนพฤษภาคมจะดำเนินการตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น เดือนสิงหาคมใส่ปุ๋ยก่อนออกดอก หลังแทงช่อดอกในเดือนธันวาคมให้น้ำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องจนถึงติดผลดอกปานปลายเดือนมกราคม และติดผลในเดือนกุมภาพันธ์ใส่ปุ๋ย 4 ครั้ง/ปี หลังตัดแต่งกิ่งก่อนออกดอก 2-3 เดือน ระยะผลเล็กและก่อนเก็บเกี่ยว 1 เดือน
การเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนเมษายน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 100 กิโลกรัม/ต้น มีการจำหน่ายทั้งแบบปลีกและแบบส่งให้กับห้างสรรพสินค้าทั้งในจังหวัดนครพนมและจังหวัดอื่นๆ โดยราคาอยู่ที่ 80-150 บาท/กิโลกรัม ในปี 2566 มีรายได้จากการผลิตลิ้นจี่นครพนม 1 จำนวน 300,000 บาท/ไร่ ต้นทุนการผลิตลิ้นจี่ของเกษตรกรต้นแบบอยู่ที่ 20,000 บาท/ไร่ จึงมีผลตอบแทนถึง 280,000 บาท/ไร่/ปี อีกทั้งยังสามารถขยายพันธุ์เพื่อจำหน่ายต้นพันธุ์ได้อีกด้วย โดยที่แปลงต้นแบบจำหน่ายกิ่งพันธุ์ราคา 50-100 บาท
“ลิ้นจี่ นครพนม 1 เกษตรกรเริ่มให้ความสนใจในการนำไปปลูกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครพนมเกือบทั้งหมดเป็นลิ้นจี่พันธุ์นครพนม 1 และเริ่มมีปลูกในจังหวัดข้างเคียง ผลมีขนาดใหญ่ประมาณ 32-36 ผลต่อกิโลกรัม เนื้อผลหนาประมาณ 0.98 เซนติเมตร เนื้อแห้งไม่แฉะ มีกลิ่นหอม ความหวานอยู่ที่ 18-20 บริกซ์ และต้นลิ้นจี่อายุประมาณ 8-10 ปี สามารถให้ผลผลิตได้ถึง 65-180 กิโลกรัมต่อต้น สำหรับเกษตรกรที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม โทรศัพท์ 0-4253-2586” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว
“ลิ้นจี่ นครพนม 1”วันนี้ (9ธ.ค.67) นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร จึงได้จัดทำโมเดลต้นแบบ “ลิ้นจี่ นครพนม 1 ต้นแบบงานวิจัย สู่สินค้าเกษตร GI” ของจังหวัดนครพนม ภายใต้โครงการ 76 จังหวัด 76 โมเดล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลิ้นจี่นครพนม 1 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ได้รับคัดเลือกและพัฒนาพันธุ์โดยกรมวิชาการเกษตร จัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนครพนมและเป็นตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย GI ของตำบลขามเฒ่า จังหวัดนครพนม
โดยลิ้นจี่พันธุ์นครพนม 1 มีลักษณะเด่นแตกต่างจากลิ้นจี่พันธุ์อื่นๆ ทั่วไปคือ มีรสชาติดีหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่มีรสฝาด ผลมีขนาดใหญ่ ให้ผลผลิตเร็ว แทงช่อดอกในช่วงต้นเดือนธันวาคม ดอกบานในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งเร็วกว่าลิ้นจี่ที่ปลูกในเขตภาคเหนือ จึงไม่มีปัญหาด้านการตลาด
นางสาวปวีณา เชยชุ่ม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม และคณะนักวิจัยของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม ได้คัดเลือกนางรัศมี อุทาวงค์ เป็นเกษตรกรต้นแบบ “ลิ้นจี่ นครพนม 1 ต้นแบบงานวิจัย สู่สินค้าเกษตร GI”โดยนางรัศมี มีประสบการณ์การด้านการปลูกลิ้นจี่ นครพนม 1 ตั้งแต่รุ่นพ่อสู่รุ่นลูกร่วม 26 ปี และเป็นประธานแปลงใหญ่ลิ้นจี่ นครพนม 1 ตำบลขามเฒ่า จังหวัดนครพนม คณะนักวิจัยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม ได้นำเทคโนโลยีการผลิตลิ้นจี่นครพนม 1 ไปถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรกร ทั้งเรื่องการใช้พันธุ์ลิ้นจี่นครพนม 1 ของกรมวิชาการเกษตร เทคโนโลยีการใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ เทคโนโลยีการตัดแต่งกิ่ง และเทคโนโลยีการป้องกัดกำจัดแมลงศัตรูพืช
โดยในแปลงโมเดลลิ้นจี่นครพนม 1 ของนางรัศมี ในด้านการดูแลรักษา หลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนพฤษภาคมจะดำเนินการตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น เดือนสิงหาคมใส่ปุ๋ยก่อนออกดอก หลังแทงช่อดอกในเดือนธันวาคมให้น้ำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องจนถึงติดผลดอกปานปลายเดือนมกราคม และติดผลในเดือนกุมภาพันธ์ใส่ปุ๋ย 4 ครั้ง/ปี หลังตัดแต่งกิ่งก่อนออกดอก 2-3 เดือน ระยะผลเล็กและก่อนเก็บเกี่ยว 1 เดือน
การเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนเมษายน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 100 กิโลกรัม/ต้น มีการจำหน่ายทั้งแบบปลีกและแบบส่งให้กับห้างสรรพสินค้าทั้งในจังหวัดนครพนมและจังหวัดอื่นๆ โดยราคาอยู่ที่ 80-150 บาท/กิโลกรัม ในปี 2566 มีรายได้จากการผลิตลิ้นจี่นครพนม 1 จำนวน 300,000 บาท/ไร่ ต้นทุนการผลิตลิ้นจี่ของเกษตรกรต้นแบบอยู่ที่ 20,000 บาท/ไร่ จึงมีผลตอบแทนถึง 280,000 บาท/ไร่/ปี อีกทั้งยังสามารถขยายพันธุ์เพื่อจำหน่ายต้นพันธุ์ได้อีกด้วย โดยที่แปลงต้นแบบจำหน่ายกิ่งพันธุ์ราคา 50-100 บาท
“ลิ้นจี่ นครพนม 1 เกษตรกรเริ่มให้ความสนใจในการนำไปปลูกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครพนมเกือบทั้งหมดเป็นลิ้นจี่พันธุ์นครพนม 1 และเริ่มมีปลูกในจังหวัดข้างเคียง ผลมีขนาดใหญ่ประมาณ 32-36 ผลต่อกิโลกรัม เนื้อผลหนาประมาณ 0.98 เซนติเมตร เนื้อแห้งไม่แฉะ มีกลิ่นหอม ความหวานอยู่ที่ 18-20 บริกซ์ และต้นลิ้นจี่อายุประมาณ 8-10 ปี สามารถให้ผลผลิตได้ถึง 65-180 กิโลกรัมต่อต้น สำหรับเกษตรกรที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม โทรศัพท์ 0-4253-2586” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว
Gallery
