รวบ ครูติวเตอร์ชื่อดังย่านสีลม หลอกร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติว เสียหายกว่า 2 ล้านบาท
รวบ ครูติวเตอร์ชื่อดังย่านสีลม หลอกร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติว เสียหายกว่า 2 ล้านบาท หลังถูกจับอ้างเป็นเพราะสถานการณ์โควิด โรงเรียนจึงต้องปิดตัวลง และไม่มีเงินคืนให้กกับผู้ร่วมลงทุน ซ้ำ ขณะถูกสืบนครบาลจับกุมตัว ยังเสนอสินบน 1 แสนบาท ให้ชุดจับกุมปล่อยตัว
กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนติดตามจับกุมนายปวิชญา ครูติวเตอร์เจ้าของโรงเรียนติวชื่อดังย่านสีลม ผู้ต้องหาซึ่งหลบหนีหมายจับ 3 หมายจับ ประกอบด้วย
1) หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ความผิดฐาน “ โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
2) หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ความผิดฐาน “ ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ” ท้องที่ สน.ทองหล่อ
3) หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ความผิดฐาน “ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ”
ผู้ต้องหามีพฤติกรรมก่อเหตุหลอกให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติว อีกทั้งอ้างช่วยหาข้อสอบ SAT (Scholastic Assessment Test ) หรือ ข้อสอบวัดระดับความรู้ทางการใช้เหตุผลในวิชาและทักษะด้านการเขียนและการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) และวัดระดับความสามารถในการคิดคำนวณ (Mathematics) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำเอาคะแนนสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา) เป็นเหตุให้มีผู้ปกครองผู้เสียหายหลงเชื่อ เสียหายกว่า 2 ล้านบาท จึงเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ก่อนที่เจ้าตัวจะหลบหนี ซึ่งตามพฤติการณ์น่าจะมีผู้เสียหายหลายรายหลบเชื่อตกเป็นเหยื่อ
ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณริมถนนหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง ที่ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ชั้นจับกุมผู้ต้องหา รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นศึกษาต่อที่สถานบันการบินพลเรือน แต่เรียนไม่จบ เป็นคนที่มีความรู้ด้านคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี จึงเริ่มเป็นครูติวเตอร์อิสระตั้งแต่ปี 2537 จนมีประสบการณ์ ต่อมาประมาณปี 2558 ตนมีเงินทุนจึงได้มาเปิดโรงเรียนติวเตอร์เป็นหลักแหล่ง โดยเปิดสอนอยู่ย่านสีลม ซึ่งธุรกิจเป็นไปด้วยดี
ต่อมาช่วงประมาณปี 2562 สถานการณ์โควิดระบาด ทำให้ธุรกิจโรงเรียนติวของตนซบเซาจนต้องปิดตัวลง ทำให้ตนไม่มีส่วนแบ่งให้กับผู้เสียหาย ซึ่งตนชักชวนมาร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติวด้วยกัน จึงได้หลบหนีไม่กลับที่พัก และตระเวนสอนติวกับเด็กนักเรียน ซึ่งผู้ปกครองได้ยินชื่อเสียงจากผู้ปกครองที่เคยส่งบุตรหลานมาเรียนกับตนเอง และผลการเรียนของบุตรหลานสำเร็จ โดยที่ตนไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ เนื่องจากเกรงว่าผู้เสียหายจะทราบ ในส่วนการเรียกรับว่าจะสามารถช่วยให้บุตรหลานของผู้ปกครองที่ตนสอนนั้นสามารถสอบข้อสอบ SAT (Scholastic Assessment Test ) หรือ ข้อสอบวัดระดับความรู้ทางการใช้เหตุผลในวิชาและทักษะด้านการเขียนและการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) และวัดระดับความสามารถในการคิดคำนวณ (Mathematics) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำเอาคะแนนสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา) นั้น เดิมทีตนสามารถช่วยได้โดยตนมีแนวข้อสอบ ซึ่งค่อนข้างตรงเพื่อติวให้กับผู้ที่สนใจ แต่เนื่องจากเหตุขัดข้องตนไม่สามารถหาแนวข้อสอบในลักษณะนั้นมาได้อีก จึงทำให้ผู้ปกครองที่สนใจซึ่งจ่ายเงินมาให้ตนแล้วผิดหวัง และตนก็ไม่สามารถชดใช้เงินคืนได้ จึงถูกดำเนินคดี ก่อนที่ตนจะหลบหนี จนมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
ทั้งนี้ ในระหว่างการจับกุม หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแสดงหมายจับและจับกุมตัวผู้ต้องหาเสร็จเรียบร้อย ในระหว่างการเดินทางไปจัดทำบันทึกการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้มีการพยายามหว่านล้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล ชุดจับกุม ช่วยเหลือตนโดยการเสนอที่จะให้เงินจำนวน 1 แสนบาท แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เพื่อแลกกับการปล่อยตัวตนเป็นอิสระ อีกทั้งยังอ้างรู้จักผู้ใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมก็ไม่ได้สนใจต่อสินบนยั่วยุและบารมีคนใหญ่คนโต คงทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาดีงกล่าวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายตามขั้นตอนโดยเร็วต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติคดีในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ระบบ Crime) พบข้อมูลว่า นายปวิชญา มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูล จำนวน 4 คดี ประกอบด้วย
1) ปี 2558 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ตัวการในข้อหาปลอมเอกสารสิทธิ เอกสารราชการ ” ท้องที่ สภ.คลองหลวง ภ.จว.ปทุมธานี
2) ปี 2567 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.234/2567 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
3) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.270/2567 ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ” ท้องที่ สน.ทองหล่อ
4) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 315/2567 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 544/2567 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 1760/2567 ลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ”
กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนติดตามจับกุมนายปวิชญา ครูติวเตอร์เจ้าของโรงเรียนติวชื่อดังย่านสีลม ผู้ต้องหาซึ่งหลบหนีหมายจับ 3 หมายจับ ประกอบด้วย
1) หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ความผิดฐาน “ โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
2) หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ความผิดฐาน “ ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ” ท้องที่ สน.ทองหล่อ
3) หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ความผิดฐาน “ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ”
ผู้ต้องหามีพฤติกรรมก่อเหตุหลอกให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติว อีกทั้งอ้างช่วยหาข้อสอบ SAT (Scholastic Assessment Test ) หรือ ข้อสอบวัดระดับความรู้ทางการใช้เหตุผลในวิชาและทักษะด้านการเขียนและการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) และวัดระดับความสามารถในการคิดคำนวณ (Mathematics) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำเอาคะแนนสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา) เป็นเหตุให้มีผู้ปกครองผู้เสียหายหลงเชื่อ เสียหายกว่า 2 ล้านบาท จึงเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ก่อนที่เจ้าตัวจะหลบหนี ซึ่งตามพฤติการณ์น่าจะมีผู้เสียหายหลายรายหลบเชื่อตกเป็นเหยื่อ
ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณริมถนนหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง ที่ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ชั้นจับกุมผู้ต้องหา รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นศึกษาต่อที่สถานบันการบินพลเรือน แต่เรียนไม่จบ เป็นคนที่มีความรู้ด้านคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี จึงเริ่มเป็นครูติวเตอร์อิสระตั้งแต่ปี 2537 จนมีประสบการณ์ ต่อมาประมาณปี 2558 ตนมีเงินทุนจึงได้มาเปิดโรงเรียนติวเตอร์เป็นหลักแหล่ง โดยเปิดสอนอยู่ย่านสีลม ซึ่งธุรกิจเป็นไปด้วยดี
ต่อมาช่วงประมาณปี 2562 สถานการณ์โควิดระบาด ทำให้ธุรกิจโรงเรียนติวของตนซบเซาจนต้องปิดตัวลง ทำให้ตนไม่มีส่วนแบ่งให้กับผู้เสียหาย ซึ่งตนชักชวนมาร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติวด้วยกัน จึงได้หลบหนีไม่กลับที่พัก และตระเวนสอนติวกับเด็กนักเรียน ซึ่งผู้ปกครองได้ยินชื่อเสียงจากผู้ปกครองที่เคยส่งบุตรหลานมาเรียนกับตนเอง และผลการเรียนของบุตรหลานสำเร็จ โดยที่ตนไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ เนื่องจากเกรงว่าผู้เสียหายจะทราบ ในส่วนการเรียกรับว่าจะสามารถช่วยให้บุตรหลานของผู้ปกครองที่ตนสอนนั้นสามารถสอบข้อสอบ SAT (Scholastic Assessment Test ) หรือ ข้อสอบวัดระดับความรู้ทางการใช้เหตุผลในวิชาและทักษะด้านการเขียนและการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) และวัดระดับความสามารถในการคิดคำนวณ (Mathematics) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำเอาคะแนนสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา) นั้น เดิมทีตนสามารถช่วยได้โดยตนมีแนวข้อสอบ ซึ่งค่อนข้างตรงเพื่อติวให้กับผู้ที่สนใจ แต่เนื่องจากเหตุขัดข้องตนไม่สามารถหาแนวข้อสอบในลักษณะนั้นมาได้อีก จึงทำให้ผู้ปกครองที่สนใจซึ่งจ่ายเงินมาให้ตนแล้วผิดหวัง และตนก็ไม่สามารถชดใช้เงินคืนได้ จึงถูกดำเนินคดี ก่อนที่ตนจะหลบหนี จนมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
ทั้งนี้ ในระหว่างการจับกุม หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแสดงหมายจับและจับกุมตัวผู้ต้องหาเสร็จเรียบร้อย ในระหว่างการเดินทางไปจัดทำบันทึกการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้มีการพยายามหว่านล้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล ชุดจับกุม ช่วยเหลือตนโดยการเสนอที่จะให้เงินจำนวน 1 แสนบาท แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เพื่อแลกกับการปล่อยตัวตนเป็นอิสระ อีกทั้งยังอ้างรู้จักผู้ใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมก็ไม่ได้สนใจต่อสินบนยั่วยุและบารมีคนใหญ่คนโต คงทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาดีงกล่าวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายตามขั้นตอนโดยเร็วต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติคดีในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ระบบ Crime) พบข้อมูลว่า นายปวิชญา มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูล จำนวน 4 คดี ประกอบด้วย
1) ปี 2558 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ตัวการในข้อหาปลอมเอกสารสิทธิ เอกสารราชการ ” ท้องที่ สภ.คลองหลวง ภ.จว.ปทุมธานี
2) ปี 2567 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.234/2567 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
3) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.270/2567 ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ” ท้องที่ สน.ทองหล่อ
4) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 315/2567 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 544/2567 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 1760/2567 ลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ”