ผลาญเงิน 7 ล้าน! ลูกชายทาสยา-ติดพนันออนไลน์ ทำร้ายพ่อป่วยเส้นเลือดสมองตีบ
"สายไหมต้องรอด" รุดช่วยลุงวัยเกษียณ ป่วยเส้นเลือดสมองตีบ ถูกลูกทรพีทาสยา-ติดพนันออนไลน์ ทุบตี-ผลาญเงินเกษียณกว่า 7 ล้านบาท อ้างทำเพราะเครียด ด้าน พม.รับไปดูแล ส่วนลูกทรพี ถูกนำตัวตรวจสารเสพติด
28 ก.ย. 67นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกันลงพื้นที่ไปยังบ้านแห่งหนึ่งในเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่า นายอำพล อายุ 62 ปี อดีตพนักงานบริษัทเอกชน ป่วยพิการเส้นเลือดในสมองตีบ ถูกลูกชายแท้ ๆ คือ นายอดิเทพ อายุ 33 ปี ซึ่งติดยาเสพติดและพนันออนไลน์ ทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง หลังนายอำพล ได้เงินเกษียณมา 7 ล้านบาท แต่ถูกลูกชายผลาญเงินจนหมดตัว
กระทั่งวานนี้ (27 ก.ย. 67) ลูกชายบังคับให้ำปขอเงินจากญาติมาให้ แต่นายอำพล ปฎิเสธ ทำให้นายอดิเทพ เกิดความโมโห ทำร้ายร่างกายด้วยการใช้ขวดตีหัวจนได้รับบาดเจ็บ เดินสะบักสะบอมไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน จากนั้นเพื่อนบ้านจึงพาหนีออกจากบ้านพักย่านซอยพระยาสุเรนท์ เขตคลองสามวา กทม. หลบไปอยู่ที่พักย่านเมืองทองธานี นอกจากนี้ภรรยานายอำพล ก่อนเสียชีวิต ได้ถูกนายอดิเทพ ทำร้ายร่างกายเป็นประจำ จนกระดูกหัก สุดท้ายเป็นมะเร็งในจุดที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
จากนั้น เวลา 13.00 น.วันที่ 28 ก.ย. นายเอกภพ ,พ.ต.ต.รอสลี นางา สวป.สน.บางชัน นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. พานายอำพล เดินทางกลับไปยังบ้านพัก ที่เขตคลองสามวา กทม.
ต่อมาเวลา 13.40 น. นายอดิเทพ ผู้ก่อเหตุ เดินทางกลับบ้านมาพร้อมกับเพื่อน โดยลงจากรถแท็กซี่ ด้วยสีหน้าซีดเซียว ก่อนเดินเข้าไปพูดคุยกับผู้เป็นพ่อ โดยนายอดิเพทพ นำซองสีน้ำตาล ภายในมีเงินสด ประมาณกว่า 30,000 บาท ยื่นให้กับผู้เป็นพ่อพร้อมกับพูดว่า "ขอโทษครับพ่อ ผมไม่รู้ว่าพ่อเป็นอะไร"
โดยนายอดิเทพ กล่าวว่า เงินสดดังกล่าวเป็นเงินจากการที่ตนนำรถยนต์ไปขาย ได้เงินมาประมาณ 450,000 บาท เมื่อถามว่าได้ทำร้ายคุณพ่อหรือไม่และทำบ่อยแค่ไหนนั้น นายอดิเทพ ตอบว่า ก็มีบ้างเวลาทะเลาะกัน และทำบ่อย แต่ปฎิเสธเรื่องใช้ขวดตีพ่อ ก่อนหน้านี้ตนเสพไอซ์ แต่เลิกเสพได้ 2 สัปดาห์แล้ว ส่วนที่ตนตาลอย ๆ เพราะเครียดนอนไม่หลับ เนื่องจากหาเงินใช้หนี้
เมื่อถามว่าตอนทำร้ายพ่อ ยังมีสติดีหรือไม่ นายอดิเทพ บอกว่า "รู้ตัวครับ" ส่วนร่องรอยช้ำตามลำตัวพ่อนั้น ตนใช้มือตี สาเหตุที่ทำเพราะตนเครียดหลายเรื่อง เวลาตนขออะไรไม่ได้ก็จะส่งเสียงตะโกน แล้วขึ้นไปนอน อ้างว่าทำร้ายพ่อ 2-3 ครั้ง และมีความเครียดจึงต้องใช้ยาเสพติด โดยซื้อยามาจากเพื่อน
เมื่อถามนายอดิเทพ ว่าเคยทำร้ายแม่หรือไม่ จนแม่ต้องตอมใจตาย นายอดิเทพ ตอบว่า ไม่เคยทำร้าย แต่น่าจะใช่ที่แม่เสียชีวิตเพราะตรอมใจเนื่องจากถูกตนทำร้าย แต่ปฎิเสธว่าไม่ได้ติดการพนันออนไลน์แต่อย่างใด ตนไม่อยากถูกจับไปเรือนจำ แต่ที่ทำร้ายพ่อเพราะความเครียดเยอะเกิน ส่วนเงินจำนวน 7 ล้านบาทของพ่อนั้น นายอดิเทพ อ้างว่า อาแปะเป็นคนนำเงินแบ่งมาให้ใช้ เดือนละ 20,000 บาท และยอมรับว่าขอเงินไปกว่า 1 แสนบาทเพื่อเอาไปแต่งรถ แต่ตนไม่ได้ใช้หมด 7 ล้าน เพราะอาแปะเป็นคนจ่ายให้ตน
เมื่อถามนายอำพล ผู้เป็นพ่อว่า อยู่ด้วยกันไหวหรือไม่ นายอำพล ก็ตอบว่า "ไหว" ก่อนที่นายอดิเทพ จะยกมือไหว้พร้อมพูดว่า "ขอโทษนะป๊า หาเงินได้แค่นี้" ทำให้ผู้เป็นพ่อร่ำไห้สะอื้นทันที
ต่อมา เจ้าหน้าที่กระทรวง พม. จึงเข้าพูดคุยทำความเข้าใจกับนายอดิเทพ และนายอำพล สองพ่อลูกเพื่อจะนำตัวนายอำพล ผู้เป็นพ่อไปรักษาตัวยังบ้านพัก ของกระทรวง พม.
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า หลังรับแจ้งจากเพื่อนบ้าน ตนจึงประสานไปยัง พ.ต.อ.กฤติเดช ภูมิธเนศ ผกก.สน.บางชัน ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.บางชัน และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. มาลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือคุณลุง เบื้องต้นจึงส่งตัวคุณลุงให้ทาง พม.ดูแล ส่วนลูกชาย ให้ทางตำรวจนำตัวไปดำเนินคดี และจะพาญาติคุณลุงไปแจ้งความเอาผิดลูกรายนี้ ข้อหาทำร้ายร่างกาย
ขณะที่ เจ้าหน้าที่กระทรวง พม. กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องมีการไกล่เกลี่ยพูดคุยกับ นายอดิเทพ ลูกชาย และนายอำพล ผู้เป็นพ่อ โดยช่วงแรกนายอำพล ไม่ยอมให้ พม.รับตัวไป แต่หลังจากพูดคุยแล้วก็ยอมไป โดยจะนำตัวนายอำพล ไปดูแล ณ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จังหวัดปทุมธานี และรอจนกว่าทางครอบครัวนายอำพล พร้อมรับกลับไปอยู่ที่บ้าน
พ.ต.ต.รอสลี นางา สวป.สน.บางชัน กล่าวว่า เบื้องต้น แม้พ่อจะไม่ต้องการแจ้งความ แต่การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดฐานทำร้ายร่างกายต่อบุคคลเฉพาะเจาะจง เช่น บุพการี ซึ่งต้องให้พนักงานสอบสวนไปพิจารณา และหลังจากนี้จะคุมตัวนายอดิเทพ ไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย
28 ก.ย. 67นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกันลงพื้นที่ไปยังบ้านแห่งหนึ่งในเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่า นายอำพล อายุ 62 ปี อดีตพนักงานบริษัทเอกชน ป่วยพิการเส้นเลือดในสมองตีบ ถูกลูกชายแท้ ๆ คือ นายอดิเทพ อายุ 33 ปี ซึ่งติดยาเสพติดและพนันออนไลน์ ทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง หลังนายอำพล ได้เงินเกษียณมา 7 ล้านบาท แต่ถูกลูกชายผลาญเงินจนหมดตัว
กระทั่งวานนี้ (27 ก.ย. 67) ลูกชายบังคับให้ำปขอเงินจากญาติมาให้ แต่นายอำพล ปฎิเสธ ทำให้นายอดิเทพ เกิดความโมโห ทำร้ายร่างกายด้วยการใช้ขวดตีหัวจนได้รับบาดเจ็บ เดินสะบักสะบอมไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน จากนั้นเพื่อนบ้านจึงพาหนีออกจากบ้านพักย่านซอยพระยาสุเรนท์ เขตคลองสามวา กทม. หลบไปอยู่ที่พักย่านเมืองทองธานี นอกจากนี้ภรรยานายอำพล ก่อนเสียชีวิต ได้ถูกนายอดิเทพ ทำร้ายร่างกายเป็นประจำ จนกระดูกหัก สุดท้ายเป็นมะเร็งในจุดที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
จากนั้น เวลา 13.00 น.วันที่ 28 ก.ย. นายเอกภพ ,พ.ต.ต.รอสลี นางา สวป.สน.บางชัน นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. พานายอำพล เดินทางกลับไปยังบ้านพัก ที่เขตคลองสามวา กทม.
ต่อมาเวลา 13.40 น. นายอดิเทพ ผู้ก่อเหตุ เดินทางกลับบ้านมาพร้อมกับเพื่อน โดยลงจากรถแท็กซี่ ด้วยสีหน้าซีดเซียว ก่อนเดินเข้าไปพูดคุยกับผู้เป็นพ่อ โดยนายอดิเพทพ นำซองสีน้ำตาล ภายในมีเงินสด ประมาณกว่า 30,000 บาท ยื่นให้กับผู้เป็นพ่อพร้อมกับพูดว่า "ขอโทษครับพ่อ ผมไม่รู้ว่าพ่อเป็นอะไร"
โดยนายอดิเทพ กล่าวว่า เงินสดดังกล่าวเป็นเงินจากการที่ตนนำรถยนต์ไปขาย ได้เงินมาประมาณ 450,000 บาท เมื่อถามว่าได้ทำร้ายคุณพ่อหรือไม่และทำบ่อยแค่ไหนนั้น นายอดิเทพ ตอบว่า ก็มีบ้างเวลาทะเลาะกัน และทำบ่อย แต่ปฎิเสธเรื่องใช้ขวดตีพ่อ ก่อนหน้านี้ตนเสพไอซ์ แต่เลิกเสพได้ 2 สัปดาห์แล้ว ส่วนที่ตนตาลอย ๆ เพราะเครียดนอนไม่หลับ เนื่องจากหาเงินใช้หนี้
เมื่อถามว่าตอนทำร้ายพ่อ ยังมีสติดีหรือไม่ นายอดิเทพ บอกว่า "รู้ตัวครับ" ส่วนร่องรอยช้ำตามลำตัวพ่อนั้น ตนใช้มือตี สาเหตุที่ทำเพราะตนเครียดหลายเรื่อง เวลาตนขออะไรไม่ได้ก็จะส่งเสียงตะโกน แล้วขึ้นไปนอน อ้างว่าทำร้ายพ่อ 2-3 ครั้ง และมีความเครียดจึงต้องใช้ยาเสพติด โดยซื้อยามาจากเพื่อน
เมื่อถามนายอดิเทพ ว่าเคยทำร้ายแม่หรือไม่ จนแม่ต้องตอมใจตาย นายอดิเทพ ตอบว่า ไม่เคยทำร้าย แต่น่าจะใช่ที่แม่เสียชีวิตเพราะตรอมใจเนื่องจากถูกตนทำร้าย แต่ปฎิเสธว่าไม่ได้ติดการพนันออนไลน์แต่อย่างใด ตนไม่อยากถูกจับไปเรือนจำ แต่ที่ทำร้ายพ่อเพราะความเครียดเยอะเกิน ส่วนเงินจำนวน 7 ล้านบาทของพ่อนั้น นายอดิเทพ อ้างว่า อาแปะเป็นคนนำเงินแบ่งมาให้ใช้ เดือนละ 20,000 บาท และยอมรับว่าขอเงินไปกว่า 1 แสนบาทเพื่อเอาไปแต่งรถ แต่ตนไม่ได้ใช้หมด 7 ล้าน เพราะอาแปะเป็นคนจ่ายให้ตน
เมื่อถามนายอำพล ผู้เป็นพ่อว่า อยู่ด้วยกันไหวหรือไม่ นายอำพล ก็ตอบว่า "ไหว" ก่อนที่นายอดิเทพ จะยกมือไหว้พร้อมพูดว่า "ขอโทษนะป๊า หาเงินได้แค่นี้" ทำให้ผู้เป็นพ่อร่ำไห้สะอื้นทันที
ต่อมา เจ้าหน้าที่กระทรวง พม. จึงเข้าพูดคุยทำความเข้าใจกับนายอดิเทพ และนายอำพล สองพ่อลูกเพื่อจะนำตัวนายอำพล ผู้เป็นพ่อไปรักษาตัวยังบ้านพัก ของกระทรวง พม.
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า หลังรับแจ้งจากเพื่อนบ้าน ตนจึงประสานไปยัง พ.ต.อ.กฤติเดช ภูมิธเนศ ผกก.สน.บางชัน ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.บางชัน และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. มาลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือคุณลุง เบื้องต้นจึงส่งตัวคุณลุงให้ทาง พม.ดูแล ส่วนลูกชาย ให้ทางตำรวจนำตัวไปดำเนินคดี และจะพาญาติคุณลุงไปแจ้งความเอาผิดลูกรายนี้ ข้อหาทำร้ายร่างกาย
ขณะที่ เจ้าหน้าที่กระทรวง พม. กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องมีการไกล่เกลี่ยพูดคุยกับ นายอดิเทพ ลูกชาย และนายอำพล ผู้เป็นพ่อ โดยช่วงแรกนายอำพล ไม่ยอมให้ พม.รับตัวไป แต่หลังจากพูดคุยแล้วก็ยอมไป โดยจะนำตัวนายอำพล ไปดูแล ณ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จังหวัดปทุมธานี และรอจนกว่าทางครอบครัวนายอำพล พร้อมรับกลับไปอยู่ที่บ้าน
พ.ต.ต.รอสลี นางา สวป.สน.บางชัน กล่าวว่า เบื้องต้น แม้พ่อจะไม่ต้องการแจ้งความ แต่การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดฐานทำร้ายร่างกายต่อบุคคลเฉพาะเจาะจง เช่น บุพการี ซึ่งต้องให้พนักงานสอบสวนไปพิจารณา และหลังจากนี้จะคุมตัวนายอดิเทพ ไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย
