ธุรกิจเจ๊งไม่มีเงินซื้อขนมให้ลูก ช่างแต่งรถชื่อดังพาลูกสมุนโจรกรรมตู้เติมเงิน
ช่างแต่งรถชื่อดัง ธุรกิจเจ๊งไม่เป็นท่า! ลูกขอเงินกินขนมไม่มีให้ หน้ามืดระดมลูกสมุน ตระเวนลักตู้เติมเงิน 11 ครั้งรวด ตร.บางละมุง แกะรอยตามลากคอดำเนินคดี ยึดซากตู้อื้อ ซุกใส่รถเก๋งเตรียมขนทิ้งทำลายหลักฐาน
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2567 พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง ร่วมกันนำกำลังฝ่ายสืบสวน จับกุมแก๊งโจรกรรมยกตู้เติม ได้ผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายรัตติชัย อายุ 29 ปี หรืออาร์ม หัวหน้าแก๊ง นายวิฑูรย์ อายุ 26 ปี และนายณัฐพล อายุ 19 ปี 2 ลูกสมุน ยึดของกลางรถเก๋ง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พร้อมตู้เติมเงินสภาพถูกหั่นแยกอะไหล่เตรียมทำลายหลักฐาน เกือบร้อยรายการ
สืบเนื่องจากตั้งแต่วันที่ 5-21 กันยายน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ สภ.บางละมุง เกิดเหตุคนร้ายวางแผนโจรกรรมตู้เติมเงิน “บุญเติม” จำนวน 11 ครั้ง ได้ตู้เติมเงินทั้งหมด 10 เครื่อง โดยพฤติการณ์ของคนร้ายในการลงมือก่อเหตุจะเป็นลักษณะเดียวกัน คือจะกระชากปลั๊กไฟตู้เติมเงินให้เครื่องหยุดการทำงาน ก่อนจะใช้แรงโยกตัวเครื่องให้หลุดออกจากฐานยึดกับแผ่นปูน แล้วยกขึ้นรถขับหลบหนีไป ใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 2 นาที ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าคนร้ายแก๊งนี้มีทั้งหมด 5 คน
ตำรวจแกะรอยพบว่าตัวนายอาร์ม หัวหน้าแก๊ง หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในห้องพักรายวันแห่งหนึ่ง ริมถนนสาย 36 พัทยา-ระยอง จึงนำกำลังปิดล้อมและจับกุมตัวได้สำเร็จ ก่อนจะขยายผลจับลูกสมุน 2 คน ได้คาอู่ซ่อม-แต่งรถ ขณะกำลังเฝ้าของกลางเศษซากตู้เติมเงิน ที่ถูกแยกเป็นเสี่ยงๆ ทาสีทับอำพราง ยัดใส่รถเก๋งเตรียมขนย้ายไปทิ้งลงแม่น้ำ เพื่อทำลายหลักฐาน โดยมีผู้ร่วมก่อเหตุสามารถหลบหนีไปได้ 2 คน
สอบสวน นายอาร์ม สารภาพว่า เคยเปิดอู่ซ่อมแต่งรถจักรยานยนต์ เคยแต่งรถส่งประกวดได้รางวัลชนะเลิศมามากหมาย ต่อมาธุรกิจเจ๊งไปไม่รอด กระทั่งมาวันหนึ่งลูกสาววิ่งเข้ามาขอเงินไปซื้อขนม แต่ตัวเอไม่มีเงินจะให้ลูก จึงหน้ามืดวางแผนเรียกระดมลูกสมุนไปตระเวนโจรกรรมตู้เติมเงิน ในช่วงกลางคืนจุดที่ไม่มีพลุกพล่าน ได้เงินรวมกันทั้งหมดประมาณ 6,000 บาท จากนั้นเอามาแบ่งกันเป็นสัดส่วนแล้วแยกย้ายกันหลบซ่อนตัว
เบื้องต้น จากการตรวจสอบประวัติ นายอาร์ม หัวหน้าแก๊ง เมื่อไม่นานเคยถูกตำรวจ สภ.บางละมุง จับกุมคดี พรบ.อาวุธปืน ซึ่งอยู่ในระหว่างการประกันตัวสู้คดี นอกจากนี้เจ้าตัว และลูกสมุนอีก 2 คน ยังพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย (ฉี่ม่วง) อีกด้วย ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติด และร่วมกันลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลโดยใช้ยานหาหนะ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2567 พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง ร่วมกันนำกำลังฝ่ายสืบสวน จับกุมแก๊งโจรกรรมยกตู้เติม ได้ผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายรัตติชัย อายุ 29 ปี หรืออาร์ม หัวหน้าแก๊ง นายวิฑูรย์ อายุ 26 ปี และนายณัฐพล อายุ 19 ปี 2 ลูกสมุน ยึดของกลางรถเก๋ง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พร้อมตู้เติมเงินสภาพถูกหั่นแยกอะไหล่เตรียมทำลายหลักฐาน เกือบร้อยรายการ
สืบเนื่องจากตั้งแต่วันที่ 5-21 กันยายน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ สภ.บางละมุง เกิดเหตุคนร้ายวางแผนโจรกรรมตู้เติมเงิน “บุญเติม” จำนวน 11 ครั้ง ได้ตู้เติมเงินทั้งหมด 10 เครื่อง โดยพฤติการณ์ของคนร้ายในการลงมือก่อเหตุจะเป็นลักษณะเดียวกัน คือจะกระชากปลั๊กไฟตู้เติมเงินให้เครื่องหยุดการทำงาน ก่อนจะใช้แรงโยกตัวเครื่องให้หลุดออกจากฐานยึดกับแผ่นปูน แล้วยกขึ้นรถขับหลบหนีไป ใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 2 นาที ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าคนร้ายแก๊งนี้มีทั้งหมด 5 คน
ตำรวจแกะรอยพบว่าตัวนายอาร์ม หัวหน้าแก๊ง หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในห้องพักรายวันแห่งหนึ่ง ริมถนนสาย 36 พัทยา-ระยอง จึงนำกำลังปิดล้อมและจับกุมตัวได้สำเร็จ ก่อนจะขยายผลจับลูกสมุน 2 คน ได้คาอู่ซ่อม-แต่งรถ ขณะกำลังเฝ้าของกลางเศษซากตู้เติมเงิน ที่ถูกแยกเป็นเสี่ยงๆ ทาสีทับอำพราง ยัดใส่รถเก๋งเตรียมขนย้ายไปทิ้งลงแม่น้ำ เพื่อทำลายหลักฐาน โดยมีผู้ร่วมก่อเหตุสามารถหลบหนีไปได้ 2 คน
สอบสวน นายอาร์ม สารภาพว่า เคยเปิดอู่ซ่อมแต่งรถจักรยานยนต์ เคยแต่งรถส่งประกวดได้รางวัลชนะเลิศมามากหมาย ต่อมาธุรกิจเจ๊งไปไม่รอด กระทั่งมาวันหนึ่งลูกสาววิ่งเข้ามาขอเงินไปซื้อขนม แต่ตัวเอไม่มีเงินจะให้ลูก จึงหน้ามืดวางแผนเรียกระดมลูกสมุนไปตระเวนโจรกรรมตู้เติมเงิน ในช่วงกลางคืนจุดที่ไม่มีพลุกพล่าน ได้เงินรวมกันทั้งหมดประมาณ 6,000 บาท จากนั้นเอามาแบ่งกันเป็นสัดส่วนแล้วแยกย้ายกันหลบซ่อนตัว
เบื้องต้น จากการตรวจสอบประวัติ นายอาร์ม หัวหน้าแก๊ง เมื่อไม่นานเคยถูกตำรวจ สภ.บางละมุง จับกุมคดี พรบ.อาวุธปืน ซึ่งอยู่ในระหว่างการประกันตัวสู้คดี นอกจากนี้เจ้าตัว และลูกสมุนอีก 2 คน ยังพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย (ฉี่ม่วง) อีกด้วย ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติด และร่วมกันลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลโดยใช้ยานหาหนะ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
