ผลการประชุม ก.ตร.
เช้านี้ที่หมอชิต - ใช้เวลาไปไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ในการประชุม ก.ตร. ที่ว่ากันว่า จะเป็นการชี้ชะตา "บิ๊กโจ๊ก" แต่ผลสุดท้ายก็เป็นไปตามคาดการณ์ ยังไม่มีผลใด ๆ กระทบต่อ บิ๊กโจ๊ก โดยตรง
โดยก่อนการประชุม คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. พบว่า คณะกรรมการที่จะมาเข้าร่วมการประชุมจริง ๆ มากันได้แค่ 13 คน จาก 15 คน โดย 2 คน ไม่ได้เข้าร่วม เพราะต้องไปราชการต่างประเทศ
ประธานการประชุมก็คือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ตอนแรกมีกระแสข่าวว่าจะไม่เข้า สุดท้ายก็ไปเข้าร่วมประชุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ผู้สื่อข่าว คุณพิธพงษ์ ก็ตะโกนถามว่า ท่านนายก ฯ ไหวไหม
ขณะที่ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ไม่เจอกันมานานหลายวัน ปรากฏตัวครั้งแรก พร้อมกับรอยยิ้มทักทายสื่อมวลชน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
โดยมีรายงานข่าวว่า ระหว่างการประชุมลงมติเรื่องของ "บิ๊กโจ๊ก" พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ ได้แถลงถึงสาเหตุที่ต้องลงนามคำสั่งให้ บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการไว้ก่อน จากนั้นก็ได้ขออนุญาตออกจากห้องประชุม ไม่ร่วมลงคะแนนเสียง เพราะมองว่าตนเองเป็นคู่ขัดแย้ง ก่อนที่ประชุมจะโหวตอนุญาต ทำให้ที่ประชุมเหลือผู้ลงคะแนนรวม 12 เสียง
ขณะที่ เลขานุการ ก.ตร. สรุปผลที่ประชุมมีมติ 12 ต่อ 0 เห็นด้วยกับผลการประชุม อนุฯ ก.ตร. แต่ให้รอผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจก่อน ค่อยดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ เลขานุการ ก.ตร. ยังบอกว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษในที่ประชุม แต่ให้เน้นย้ำถึงความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และยึดหลักกฎหมาย ส่วนมติของ ก.ตร. เรื่อง บิ๊กโจ๊ก ก็ไม่ใช่เป็นการกดดันการทำงานของ ก.พ.ค.ตร. ที่มีกรอบในการพิจารณาภายใน 120 วัน เพราะ ก.พ.ค.ตร. มีอิสระในการพิจารณา
โดยก่อนการประชุม คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. พบว่า คณะกรรมการที่จะมาเข้าร่วมการประชุมจริง ๆ มากันได้แค่ 13 คน จาก 15 คน โดย 2 คน ไม่ได้เข้าร่วม เพราะต้องไปราชการต่างประเทศ
ประธานการประชุมก็คือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ตอนแรกมีกระแสข่าวว่าจะไม่เข้า สุดท้ายก็ไปเข้าร่วมประชุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ผู้สื่อข่าว คุณพิธพงษ์ ก็ตะโกนถามว่า ท่านนายก ฯ ไหวไหม
ขณะที่ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ไม่เจอกันมานานหลายวัน ปรากฏตัวครั้งแรก พร้อมกับรอยยิ้มทักทายสื่อมวลชน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
โดยมีรายงานข่าวว่า ระหว่างการประชุมลงมติเรื่องของ "บิ๊กโจ๊ก" พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ ได้แถลงถึงสาเหตุที่ต้องลงนามคำสั่งให้ บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการไว้ก่อน จากนั้นก็ได้ขออนุญาตออกจากห้องประชุม ไม่ร่วมลงคะแนนเสียง เพราะมองว่าตนเองเป็นคู่ขัดแย้ง ก่อนที่ประชุมจะโหวตอนุญาต ทำให้ที่ประชุมเหลือผู้ลงคะแนนรวม 12 เสียง
ขณะที่ เลขานุการ ก.ตร. สรุปผลที่ประชุมมีมติ 12 ต่อ 0 เห็นด้วยกับผลการประชุม อนุฯ ก.ตร. แต่ให้รอผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจก่อน ค่อยดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ เลขานุการ ก.ตร. ยังบอกว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษในที่ประชุม แต่ให้เน้นย้ำถึงความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และยึดหลักกฎหมาย ส่วนมติของ ก.ตร. เรื่อง บิ๊กโจ๊ก ก็ไม่ใช่เป็นการกดดันการทำงานของ ก.พ.ค.ตร. ที่มีกรอบในการพิจารณาภายใน 120 วัน เพราะ ก.พ.ค.ตร. มีอิสระในการพิจารณา
