แชร์ว่อนลุงสองแถวหัวร้อน ต่อยหญิง 48 ปี ที่ขับรถไปรับหลานไปส่ง รร. ลุงสองแถว

วันที่ 20 มิ.ย. 2567
แชร์ว่อนลุงสองแถวหัวร้อน ต่อยหญิง 48 ปี ที่ขับรถไปรับหลานไปส่ง รร. ลุงสองแถว เผย ขับรถสองแถวโดยสารและรับส่งนักเรียนมา 20 ปีแล้ว แต่จู่ๆ เด็กรุ่นลูกจะมาวิ่งทับ และแย่งลูกค้า โดยไม่มาพูดคุยอะไรเลย ก็รับไม่ได้เหมือนถูกหยาม จึงเข้าไปถามแต่เขาตอบไม่ดีใส่จึงโมโหตบหน้าไปทีนึง

ลุงสองแถวหกล้อทั้งโดยสารและรับส่ง นร.ที่บุรีรัมย์ หัวร้อนสาวหมัดต่อยหญิง 48 ที่ขับกระบะของน้องชายซึ่งด้านหลังใส่โครงและเบาะนั่งคล้ายสองแถวเล็ก ไปรับหลานและเด็กในหมู่บ้านเพื่อส่ง ร.ร. จนปากแตกแก้มบวมแขนเขียวช้ำถูกนำส่ง รพ. ทั้งยังถือมีดดาบยาวที่พกไว้ในรถลงมาขู่น้องชายที่ขับรถตู้จะไปช่วยพี่สาว  อ้างโมโหถูกแย่งผู้โดยสาร  ขณะคนเจ็บยันแค่ไปรับหลานเพราะรถตู้เสียเอาผิดถึงที่สุด

หลังจากได้มีแชร์คลิปวิดีโอ ขณะที่ผู้ชายคนขับรถสองแถวหกล้อ ทั้งให้บริการโดยสารและรับ-ส่งนักเรียน บุกเข้าไปสาวหมัดชกต่อยผู้หญิงคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่ในรถกระบะ ที่มีลักษณะคล้ายรถสองแถวเล็ก เพราะมีการใส่โครงหลังคาและเบาะนั่งด้านหลังกระบะ และมีเด็กนักเรียนนั่งอยู่ด้วย ทั้งยังมีคลิปจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพ ขณะชายที่ขับสองแถวคนดังกล่าว ถือมีดดาบยาวที่พกไว้ในรถลงมาข่มขู่ รถตู้อีกคันที่ขับมาด้านหน้า โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีทั้งผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนเห็นหลายคน และต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 7 โมงเช้าของวันที่ 18 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา บนถนนในหมู่บ้านโคกเพชร  ต.สี่เหลี่ยม  อ.ประโคนชัย  จ.บุรีรัมย์

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปตามหาหญิงที่ถูกทำร้าย ก็ได้พบกับ น.ส.พรไพรินทร์ อายุ 48 ปี ชาวบ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม ซึ่งมีอาชีพรับตัดเย็บเสื้อผ้าที่บ้าน โดยเธอเพิ่งจะออกจาก รพ.ประโคนชัย หลังนอนรักษาตัวอยู่ 1 คืน พร้อมทั้งให้ดูร่องรอยที่ถูกคนขับรถสองแถมทำร้าย ทั้งรอยปากที่แตก แก้มขวาบวม แขนขวาเขียวช้ำ และมีอาการเจ็บหน้าอก  

โดยเธอเล่าให้ฟังว่า ตอนเช้าวันที่ 18 มิ.ย.67 เธอได้ขับรถกระบะของน้องชาย ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับสองแถวเล็ก เพราะมีโครงหลังคาและเบาะนั่งหลังกระบะ ซึ่งน้องชายทำไว้เตรียมไปยื่นขอวิ่งให้บริการรับ-ส่งนักเรียน เพราะรถตู้ที่เคยวิ่งให้บริการเขาเลิกวิ่ง ซึ่งหลังจากรถตู้เลิกวิ่งตั้งแต่เปิดเทอมตนก็จะขับรถตู้ของน้องชายไปส่งหลานที่โรงเรียน ซึ่งก็มีผู้ปกครองในหมู่บ้านขอติดรถไปด้วยในช่วงที่ยังไม่มีรถคันอื่นมาวิ่งรับส่งแทนรถตู้ที่เลิกวิ่ง แต่วันเกิดเหตุรถตู้ของน้องชายเสียจึงขับกระบะที่ทำคล้ายสองแถวเล็กจะไปส่งหลานแทน ก็มีเด็กนักเรียนซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นลูกหลานของญาติพี่น้องกันในหมู่บ้านขอติดไปด้วย แต่พอช่วงที่ตนไปจอดรถรอรับ นายแขก อายุประมาณ 59 ปี คนขับรถสองแถวหกล้อ ซึ่งวิ่งทั้งโดยสารและรับส่งนักเรียน ก็เดินลงจากรถพุ่งตรงเข้ามาที่รถของตนใช้มือกระชากที่จับประตูอย่างแรงจนพัง แต่ตอนนั้นประตูล็อกอยู่ จึงลดกระจกลงเพื่อจะถามว่ามีอะไร แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงกลับสาวหมัดใส่ที่หน้าตนแบบไม่ยั้งจนปากแตกหน้าบวมพอยกแขนขึ้นมาป้องก็ชกแขกเขียว ทั้งยังพยายามจะกระชากลงจากรถเพื่อหวังจะทำร้ายซ้ำอีก แต่โชคดีที่น้าซึ่งเห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วย ชายคนดังกล่าวจึงหยุดและพูดว่า “ถ้ารถตู้กูไม่ว่า แต่มึงเอาคันนี้มาหยามกันเกินไป” จากนั้นตนก็โทรศัพท์หาน้องชาย น้องชายก็รีบขับรถมาที่เกิดเหตุทันที แต่เขาก็ยังทำกร่างถือมีดดาบที่ซ่อนไว้ในรถลงมาข่มขู่น้องชายอีก

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เชื่อว่าเขาน่าจะเข้าใจผิดคิดว่าตนจะไปวิ่งแย่งลูกค้าเขา ก็ยืนยันว่าตนไม่ได้แย่งก็แค่ขับรถไปรับส่งหลาน และลูกหลานของญาติไป ร.ร.เท่านั้น ส่วนที่น้องชายทำรถกระบะ เพื่อจะไปยื่นขอวิ่งรับส่งนักเรียนก็เป็นสิทธิ์ของน้องชาย เพราะไม่ได้มีสัมปทานผูกขาดทุกคนก็สามารถทำมาหากินได้ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ปกครอง ส่วนที่ตนถูกทำร้ายและเขาถือมีดมาข่มขู่น้องก็จะเอาผิดตามกฎหมายถึงที่สุด ตอนนี้แจ้งความไว้แล้ว

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของคนขับรถสองแถวที่ก่อเหตุ เพื่อจะสอบถามถึงเหตุผลที่ก่อเหตุ  แต่ไม่พบตัวมีเพียงภรรยาอยู่บ้านแต่บอกว่าไม่รู้เรื่องต้องถามสามีเอง ทีมข่าวจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามนายแขก อายุ 59 ปี คนขับรถสองแถว ก็ให้ข้อมูลว่า ตนทำอาชีพขับรถสองแถวโดยสารและรับส่งนักเรียนมา 20 ปีแล้ว แต่จู่ๆ เด็กรุ่นลูกจะมาวิ่งทับและแย่งลูกค้าโดยไม่มาพูดคุยอะไรเลย ก็รับไม่ได้เหมือนถูกหยาม ก่อนหน้านี้เห็นเอารถตู้มาวิ่งก็ไม่ว่าอะไรก็คิดว่าเป็นทางเลือกของผู้ใช้บริการ แต่พอเห็นเอากระบะที่ดัดแปลงเหมือนสองแถวเล็กมาวิ่งรับเด็กนักเรียน  นพื้นที่ที่ตนรับส่งอยู่ก็เหมือนหยามกัน จึงเข้าไปถามแต่เขาตอบไม่ดีใส่จึงโมโหตบหน้าไปทีนึง โดยอ้างว่าไม่ได้ต่อย ส่วนที่ถือมีดลงไปแค่ป้องกันตัว เพราะเห็นรถตู้น้องชายเขาขับมาจอดขวางหน้า ก็กลัวเขาจะพาพวกมาทำร้าย ส่วนที่คู่กรณีแจ้งความก็พร้อมไปพบตำรวจตามขั้นตอน แต่หากพูดคุยไกล่เกลี่ยกันได้ก็พร้อมคุยเช่นกัน

Gallery