พบศพชายวัย 70 ปี ถูกอาวุธสงครามยิงเสียชีวิตปริศนาใกล้ชายแดน สปป.ลาว

วันที่ 28 มี.ค. 2567
พบศพชายวัย 70 ปี ถูกอาวุธสงครามยิงเสียชีวิตปริศนาใกล้ชายแดน สปป.ลาว

เพจตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี โพสต์ภาพ พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผกก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี, พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ หรีกประโคน ผกก.สภ.สิรินธร และพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกันตรวจสถานที่เกิดเหตุ กรณีพบร่างนายหนูเขื่อน อายุ 70 ปี นอนเสียชีวิตบนลานหินภูป่ากุง ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 24 มี.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสิรินธรจังหวัดอุบลราชธานี รับแจ้งจากนายเพชร ชัยรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ว่ามีลูกบ้านพบชายนอนเสียชีวิตอยู่บนภูป่ากุงจึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานี แพทย์โรงพยาบาลสิรินธรเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ เป็นลานหินห่างจากหมู่บ้านคำมันปลาประมาณ 3 กิโลเมตร และ ห่างจากชายแดน สปป.ลาว ประมาณ 1 กิโลเมตร พบชาวบ้านยืนล้อมดูร่างของนายหนูเขื่อน ลักษณะนอนหงาย สวมเสื้อแขนยาวสีกรมท่า เสื้อด้านในสีน้ำเงินกางเกงขาสั้นลายพราง บริเวณ หน้าอกและสะโพกขวามีบาดแผลฉกรรจ์ข้างตัวพบกองเลือดแห้งจำนวนมาก ใกล้กันพบถุงผ้าบรรจุน้ำดื่ม 1 ขวด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม ลูกสาวนายหนูเขื่อน เผยว่า บ้านหลังนี้อยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน มีนางวิจิตร อายุ 65 ปี มารดา นายยุทธภูมิ หลานชาย และนายหนูเขื่อน ในวันเกิดเหตุนายยุทธภูมิ และนางวิจิตรา เดินทางไปช่วยตนเองกรีดยางที่บ้านบะไห อำเภอโขงเจียม ตั้งแต่เวลา 08:00 น.จนกระทั่ง 16:00 น. ทั้งสองกลับมาถึงบ้าน แต่ไม่พบตัวนายหนูเขื่อน และไม่พบว่านายหนูเขื่อนกลับมาทานข้าวกลางวันที่บ้าน ก่อนแม่และหลานออกจากบ้านทราบว่านายหนูเขื่อน จะนำไก่ชนไปส่งให้กับลูกค้า ที่สั่งซื้อ แต่ตนก็ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนสั่งซื้อและจะนำไปส่งที่ใด

หลังจากนั้นนายยุทธภูมิ จึงได้โทรเข้ายังเบอร์มือถือของนายหนูเขื่อน ซึ่งมีสัญญาณ แต่ไม่มีคนรับ หลังตนเองและญาติจึงได้ออกตามหานายหนูเขื่อนตามบ้านเพื่อน  ที่นายหนูเขื่อนชอบไปชนไก่ แต่ก็ไม่พบจึงได้เดินไปตามหาบริเวณสวนยางท้ายหมู่บ้าน เพราะคิดว่านายหนูเขื่อนจะไปต่อนำเขาแต่ก็ไม่เจอ ขณะนั้นตนได้ยินเสียงสุนัขที่นายหนูเขื่อนเลี้ยงไว้เห่าอยู่บนภูป่ากุง จึงได้เดินตามเสียงขึ้นไปจนพบสุนัขทั้ง 2 ตัว ที่นายหนูเขื่อนเลี้ยงไว้พาไปพบไก่ที่นายหนูเขื่อนจะนำไปส่งให้ลูกค้าอยู่บนภูห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 20 เมตร 

ด้านนายยุทธภูมิ อายุ 23 ปี หลานชายให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนเองได้ยิน ตาคุยกับคนที่สั่งไก่ชน ซึ่งเป็นชาว สปป.ลาว ให้เอาไก่ไปส่ง ในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุประมาณ 08.00 น.ตนเอง และยายออกจากบ้านไปกรีดยาง ส่วนตาบอกว่าจะเอาไก่ไปส่งให้คนลาวสั่งซื้อไว้บนภูป่ากุง แต่ตนก็ไม่ทราบว่าตาไปอย่างไรออกไปกับใคร จากนั้นก็แยกย้ายกัน เมื่อกลับมาในช่วงเย็น ยังไม่เห็นตาอยู่ที่บ้าน จึงโทรตามแต่ไม่รับสาย ตนเองเจอจึงได้กลับมาเอามีดแล้วขึ้นไปบนภู ตอนแรกไม่คิดว่าตาจะโดนทำร้าย แต่เนื่องจากตาไม่แข็งแรงกลัวจะเป็นลม เพราะอากาศร้อน  ตนเองเดินตามเส้นทางที่คาดว่า ตาจะนำเอาไก่ไปส่งให้กับลูกค้าฝั่งลาว ระหว่างทางขึ้นไปตนเองเห็นไก่ ของตาที่จะนำไปส่งเดิมอยู่ก่อนจะพบศพ จนถึงพยายามโทรหาอีกครั้งก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์และพบร่างของคุณตานอนหงายเสียชีวิตอยู่บนลานหิน

แต่ขณะนั้นตนเองไม่มั่นใจว่าจะมีคนร้ายซุ่มอยู่หรือไม่ จึงได้เดินสำรวจ จนมั่นใจว่าปลอดภัย แล้วเข้าไปดู เพราะว่าคนตาเสียชีวิตตัวแข็งแล้ว จากนั้นจึงได้โทรบอกผู้ใหญ่บ้าน ให้ทราบและขึ้นมาตรวจสอบ นายยุทธภูมิ ยังบอกอีกว่าตนเองไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำ แต่คาดว่า อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องของไก่ชน เพราะคนที่ทำร้ายตาไม่ได้เอาไก่ไปด้วย อาวุธที่ใช้เป็นอาวุธอนุภาพสู งอาจจะเป็นอาวุธสงคราม แต่ก็ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ทำ และทำด้วยสาเหตุใด ตอนนี้ยังไม่อยากเดา เพราะกลัวเสียรูปคดี

ด้านนายเพชร  ชัยรัตน์  ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 เผยว่านายหนูเขื่อน เป็นคนที่ชอบการตีไก่ต่อนกเขาตามป่า และจะรู้จักกับชาวบ้านฝั่งลาว ไปมาหาสู่กันอยู่บ้าง ระยะหลังที่ผ่านมานายหนูเขื่อนสุขภาพไม่ค่อยดีเป็นโรคเก๊าท์ ต้องเที่ยวไปหาหมอเป็นประจำ นายหนูเขื่อนมีนิสัยที่โผงผางบ้างในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันไม่มีปัญหาอะไรไม่เคยมีประวัติเกี่ยวกับ ยาเสพติดหรือคดีแต่อย่างใด

ส่วนสาเหตุการตายในขณะนี้ ทราบเพียงแต่นายหนูเขื่อนถูกยิงด้วยอาวุธปืน โดยทางญาติและหลานให้การตรงกันว่านายหนูเขื่อนนำเอาไก่ไปส่งให้กับลูกค้าจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว แต่สาเหตุของการถูกฆ่ากรรมครั้งนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเพราะสาเหตุใด

ทางด้านคดี แหล่งข่าวในชุดทำงาน ได้ให้ข้อมูลว่าทางการสืบสวนเบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ส่วนสาเหตุการตาย ในขณะนี้ยังรอผลการชันสูตรจากแพทย์นิติเวชและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุบลราชธานี  เพื่อรวบรวมประกอบสำนวน  ส่วนข้อมูลการใช้โทรศัพท์การนัดหมายของนายหนูเขื่อน เบื้องต้นยังไม่มีการรายงานกลับมาซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ในชั้นนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูล ที่ชัดเจนและสาเหตุได้

Gallery