คณะแพทย์จุฬาฯ ปรับหลักสูตร-ประเมินผลใหม่ เรียนหมอไม่มีเกรด A-F

วันที่ 29 ม.ค. 2567
ล้ำหน้าไปอีกขั้น คณะแพทย์จุฬาฯ ปรับหลักสูตร-วัดผลใหม่ ยกเลิกเกรด A-F ลดความเครียด สร้างแรงจูงใจเรียนรู้ ผลปฏิบัติงานไม่ลด

วันนี้ (29 ม.ค.67) ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ, รศ.นพ.ศักนัน มะโนทัย รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และ นสพ.รหัท หลงสมบูรณ์ นายกสโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ปีการศึกษา 2565 ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว MDCU Change for the Better “หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2567)” หลักสูตรฉบับภาษาไทยสำหรับนิสิตที่จะเข้าศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2567 เป็นต้นไป

โดยหลักสูตรดังกล่าวมีการปรับปรุงพัฒนาในหลายด้าน และการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญยิ่ง คือ การปรับเปลี่ยนการแสดงผลการประเมินนิสิตในแต่ละรายวิชาเป็น S/U (Satisfactory/Unsatisfactory) ตลอดหลักสูตร แทนการแสดงผลการประเมินแบบดั้งเดิมที่เป็นสัญลักษณ์ A-F จุฬาฯ ผู้นำการเปลี่ยนแปลง เน้นการสร้างสุขภาวะให้แก่ผู้เรียน

ศ.ดร.บัณฑิต กล่าวว่า การพัฒนาหลักสูตรและการประเมินผลของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เป็นการแสดงถึงความเป็นผู้นำด้านการศึกษาของประเทศไทยและภูมิภาคอย่างแท้จริง โดยการตัดสินผลการศึกษาในลักษณะนี้จะเป็นการเสริมสร้างสุขภาวะให้แก่ผู้เรียน ในขณะที่ยังคงยึดมั่นในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการผลิตบัณฑิตแพทย์ที่มีคุณภาพ มีความรู้คู่คุณธรรมตามผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตร ทั้งนี้ คณะอื่นๆ ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็กำลังขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาการประเมินผลในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน

ด้าน รศ.นพ.ศักนัน เผยว่า รายละเอียดสำคัญของการพัฒนาระบบการประเมินผลแบบใหม่ในหลักสูตร คือ การประเมินผลในรายวิชาต่างๆ ในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต จะแสดงผลการประเมินเป็น “ผ่าน/ตก” หรือ “S/U (Satisfactory/Unsatisfactory)” ตลอดหลักสูตร แทนการแสดงผลการประเมินแบบดั้งเดิมที่เป็นสัญลักษณ์ A-F  ซึ่งมีงานวิจัยที่แสดงว่า การตัดสินผลการศึกษาในลักษณะนี้ (non-tiered grading system) ช่วยลดระดับความเครียดของผู้เรียน ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น และสร้างเสริมสุขภาวะของผู้เรียน ในขณะที่ผลการสอบและพฤติกรรมในการเรียนการปฏิบัติงานไม่ได้ลดลง นอกจากนั้น ยังเป็นการสร้างเสริมแรงจูงใจในการเรียนรู้จากภายใน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต (lifelong learning) อีกด้วย

โดยนิสิตจะได้รับสัญลักษณ์ S เมื่อนิสิตผ่านการประเมินระดับรายวิชาได้อย่างครบถ้วน โดยคณะจะจัดให้มีการสอบซ้ำ (remedial exam) ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะฯ กำหนด ทั้งนี้ จากสถิติของโรงเรียนแพทย์ในสหรัฐอเมริกา พบว่า สัดส่วนของโรงเรียนแพทย์ที่ใช้ letter grade (A-F) มีจำนวนลดลงเรื่อยๆ โดยในปีการศึกษา 2021/2022 มีโรงเรียนแพทย์ที่ใช้การตัดเกรดลักษณะนี้ไม่ถึง 15% ของโรงเรียนแพทย์ทั้งหมด

การปรับเปลี่ยนการแสดงผลการตัดสินการศึกษาในครั้งนี้เป็นการ มุ่งเน้นการประเมินผลที่เป็นระบบ (systematic) สนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียน (assessment for learning) และทำให้มั่นใจว่าบัณฑิตแพทย์ในหลักสูตรจะบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตร (Programme Learning Outcomes; PLOs) ทุก PLOs ตามประกาศคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา เรื่องเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2565 และยังเป็นการสร้างสมดุลใหม่ระหว่าง “การสร้างแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถและมีจริยธรรมให้สังคมไว้วางใจ (Trust)” กับ “การดูแลสุขภาวะของนิสิต (Well-being)” โดยการวางระบบเพื่อสนับสนุนให้นิสิตคุ้นเคยกับการเรียนรู้จากแรงจูงใจภายในจะเป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการสร้างเสริมให้นิสิตเติบโตและพัฒนาเป็นแพทย์ในแบบของตนเอง
 
ในหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2567 นี้ นิสิตจะได้รับรายงานผลการศึกษาโดยละเอียด เพื่อที่นิสิตจะสามารถนำข้อมูลนั้นไปปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาด้านวิชาการและวางแผนพัฒนาตนเองต่อไป สำหรับข้อมูลผลการศึกษาเพื่อการศึกษาต่อ (เช่น การฝึกอบรมเป็นแพทย์เฉพาะทาง) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้เชิญอาจารย์ผู้ดูแลการคัดเลือกแพทย์เฉพาะทางทุกสาขาวิชามาประชุมร่วมกัน ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางที่คณะฯ นำเสนอในการจัดทำระเบียนประวัติเพื่อแสดงถึง “ความเป็นแพทย์ในแบบของตนเองของนิสิตแต่ละคน” โดยในระเบียนประวัตินี้จะให้ข้อมูลวิชาที่นิสิตเลือกเรียน รางวัล ผลงานวิจัยและนวัตกรรมของนิสิต ประวัติการทำกิจกรรมที่โดดเด่น และ “ความเป็นเลิศทางการศึกษา (Excellence)”

Gallery