หมอมนูญเตือนอันตรายจากน้ำยาล้างท่อตัน

น้ำยาล้างท่อตันหรือโซดาไฟอันตรายมาก หมอมนูญยกเคสเตือนเป็นอุทาหรณ์ อ่างล้างจานมีปัญหาท่อน้ำตัน เทน้ำยาล้างท่อใส่เกิดแรงระเบิด ผิวหนังเป็นแผลไหม้ระดับ 2
วันนี้ (29 ธ.ค.66) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยหนัก และผู้สูงอายุ ยกเคสผู้ป่วยผิวหนังเป็นแผลไหม้จากอุบัติเหตุน้ำยาล้างท่อตัน หรือโซดาไฟ หรือโซเดียมไฮดรอกไซด์ โดยผู้ป่วยท่านนี้เป็นเพศชาย อายุ 61 ปี ปกติแข็งแรงดี มีโรคไขมันในเลือดสูง เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.66 ได้เทน้ำยาล้างท่อตัน ซึ่งมีส่วนประกอบโซเดียมไฮดรอกไซด์ 50% ลงในอ่างล้างจานชามที่มีปัญหาท่อน้ำอุดตัน เกิดแรงระเบิด น้ำยาล้างท่อตันกระเด็นใส่มือข้างซ้าย ซึ่งกำลังถือขวดน้ำยาล้างท่ออุดตัน ความจุ 500 ซีซี ขวดหลุดจากมือ
ผู้ป่วยให้ประวัติด้วยว่า ขณะเกิดอุบัติเหตุไม่ได้สวมถุงมือ ทำให้ถูกน้ำยาราดแขนข้างซ้าย ลำตัว และขาทั้ง 2 ข้าง ปวดแสบปวดร้อนมาก ผู้ป่วยรีบเอาน้ำสะอาดล้างแผล และอาบน้ำทันที นอกจากนี้ ยังได้ทาผิวหนังด้วยเจลว่านหางจระเข้เข้มข้นก่อนมาโรงพยาบาล
หมอมนูญ เผยด้วยว่า ผลการตรวจร่างกายมีแผลไหม้ระดับ 2 ที่ผิวหนังของแขนซ้าย ลำตัวและขาทั้ง 2 ข้าง เนื้อเยื่อของผิวหนังบริเวณที่ตายจากถูกน้ำยาล้างท่อตัน เปลี่ยนเป็นสีซีดเหลืองอ่อน แพทย์ได้ให้ยาปฏิชีวนะ และทาแผลด้วยน้ำยาล้างแผล Hibiscrub วันรุ่งขึ้นเนื้อเยื่อของผิวหนังบริเวณที่ตายจากถูกน้ำยาล้างท่อตัน เปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บน้อยลง แพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ และนัดมาติดตามอาการในอีก 10 วัน นัดพบแพทย์เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 66 พบว่าเนื้อเยื่อบริเวณที่ตายเริ่มตกสะเก็ด
หมอมนูญ ย้ำเตือนว่า สารเคมีโซเดียมไฮดรอกไซด์ มีฤทธิ์เป็นด่าง กัดผิวและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้เนื้อเยื่อตายเกิดเป็นแผล ถ้าเข้าตาหรือกลืนกินเข้าไปอันตรายมาก หากสัมผัสถูกสารเคมีดังกล่าวให้รีบกำจัดสารเคมีออกจากผิวหนัง ด้วยการล้างสารเคมีออกให้หมดด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก หลังล้างน้ำแล้วทาผิวหนังบริเวณที่ถูกสารเคมีด้วยว่านหางจระเข้ หรือบัวหิมะ ช่วยบรรเทาการแสบร้อนได้บ้าง
วันนี้ (29 ธ.ค.66) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยหนัก และผู้สูงอายุ ยกเคสผู้ป่วยผิวหนังเป็นแผลไหม้จากอุบัติเหตุน้ำยาล้างท่อตัน หรือโซดาไฟ หรือโซเดียมไฮดรอกไซด์ โดยผู้ป่วยท่านนี้เป็นเพศชาย อายุ 61 ปี ปกติแข็งแรงดี มีโรคไขมันในเลือดสูง เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.66 ได้เทน้ำยาล้างท่อตัน ซึ่งมีส่วนประกอบโซเดียมไฮดรอกไซด์ 50% ลงในอ่างล้างจานชามที่มีปัญหาท่อน้ำอุดตัน เกิดแรงระเบิด น้ำยาล้างท่อตันกระเด็นใส่มือข้างซ้าย ซึ่งกำลังถือขวดน้ำยาล้างท่ออุดตัน ความจุ 500 ซีซี ขวดหลุดจากมือ
ผู้ป่วยให้ประวัติด้วยว่า ขณะเกิดอุบัติเหตุไม่ได้สวมถุงมือ ทำให้ถูกน้ำยาราดแขนข้างซ้าย ลำตัว และขาทั้ง 2 ข้าง ปวดแสบปวดร้อนมาก ผู้ป่วยรีบเอาน้ำสะอาดล้างแผล และอาบน้ำทันที นอกจากนี้ ยังได้ทาผิวหนังด้วยเจลว่านหางจระเข้เข้มข้นก่อนมาโรงพยาบาล
หมอมนูญ เผยด้วยว่า ผลการตรวจร่างกายมีแผลไหม้ระดับ 2 ที่ผิวหนังของแขนซ้าย ลำตัวและขาทั้ง 2 ข้าง เนื้อเยื่อของผิวหนังบริเวณที่ตายจากถูกน้ำยาล้างท่อตัน เปลี่ยนเป็นสีซีดเหลืองอ่อน แพทย์ได้ให้ยาปฏิชีวนะ และทาแผลด้วยน้ำยาล้างแผล Hibiscrub วันรุ่งขึ้นเนื้อเยื่อของผิวหนังบริเวณที่ตายจากถูกน้ำยาล้างท่อตัน เปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บน้อยลง แพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ และนัดมาติดตามอาการในอีก 10 วัน นัดพบแพทย์เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 66 พบว่าเนื้อเยื่อบริเวณที่ตายเริ่มตกสะเก็ด
หมอมนูญ ย้ำเตือนว่า สารเคมีโซเดียมไฮดรอกไซด์ มีฤทธิ์เป็นด่าง กัดผิวและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้เนื้อเยื่อตายเกิดเป็นแผล ถ้าเข้าตาหรือกลืนกินเข้าไปอันตรายมาก หากสัมผัสถูกสารเคมีดังกล่าวให้รีบกำจัดสารเคมีออกจากผิวหนัง ด้วยการล้างสารเคมีออกให้หมดด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก หลังล้างน้ำแล้วทาผิวหนังบริเวณที่ถูกสารเคมีด้วยว่านหางจระเข้ หรือบัวหิมะ ช่วยบรรเทาการแสบร้อนได้บ้าง
Gallery
