บทส่งท้าย จากคุณหมอกฤตไท "ไม่ว่าชีวิตจะเลวร้ายแค่ไหน อย่าหมดหวังกับชีวิตเด็ดขาด"

วันที่ 5 ธ.ค. 2566
“ชีวิตไม่แน่นอน สุดท้ายเราทุกคนจะต้องตาย จงอยู่กับปัจจุบัน ใช้แต่ละวันให้เหมือนวันสุดท้าย ถ้ามีอะไรที่ทำเพื่อคนอื่นได้ ก็แบ่งปันความโชคดีให้เขาบ้าง และไม่ว่าชีวิตจะเลวร้ายแค่ไหน อย่าหมดหวังกับชีวิตเด็ดขาด” บทส่งท้ายจากหมอกฤตไท

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (5 ธ.ค.66) ได้รับข่าวเศร้ากับการจากไปของ หมอกฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 29 ปี อาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าของเพจ "สู้ดิวะ" หมอหนุ่มผู้ฝ่าฟันต่อสู้กับโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ได้เดินทางไกล จากไปอย่างสงบในเวลา 10.59 น. หลังสู้มากว่า 1 ปี

หมอกฤตไท ได้แชร์ประสบการณ์ของตนเองผ่านเพจสู้ดิวะ  เมื่อวันหนึ่งจากชีวิตที่ชอบออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพมาตลอด ในช่วงที่ชีวิตกำลังไปได้สวย เรียนจบแพทย์เฉพาะทาง และปริญญาโทวิทยาการ บรรจุเป็นอาจารย์แพทย์  กำลังเริ่มวิ่งตามความฝันอย่างเต็มที่ กำลังจะแต่งงาน และซื้อบ้าน แต่กลับจั่วได้การ์ด ที่ชื่อว่า "มะเร็งระยะสุดท้าย" มาไว้ในมือ หมอกฤตไท ได้รับการตรวจพบว่าป่วยมะเร็ง เมื่อ 10 พ.ย.2565 ทำให้หมอตระหนักได้ว่า "จริงๆแล้ว มนุษย์เรามันโคตรเปราะบางเลยครับ"

656f0106e82ea7.73314809.jpg

ในช่วงระยะเวลา 1 ปี หมอกฤตไทต่อสู้กับโรคมะเร็งปอด สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ พยายามออกกำลังกาย จริงจังกับเรื่องโภชนาการ ทำเคมีบำบัด แม้จะมีอาการอ่อนเพลียบ้าง แต่ยังคงไปสอนให้ความรู้ ในมหาลัย โรงเรียน และแชร์เรื่องราวการต่อสู้ในเพจสู้ดิวะมาตลอด นอกจากนั้นหมอกฤตไท ยังได้กระทุ้งถาม ถึงเรื่องปัญหาฝุ่นควันในจ.เชียงใหม่ ที่อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งปอด ว่าจะมีทางแก้ปัญหาคุณภาพอากาศของประเทศแบบยั่งยืนอย่างไร

ตลอดเส้นทางการต่อสู้กับโรคมะเร็งปอดของหมอกฤตไท ได้รับกำลังใจจากชาวโซเชียลอย่างล้นหลาม แต่กำลังใจที่สำคัญคือ คุณพีม แฟนสาวของหมอกฤตไท ซึ่งได้เข้าพิธีแต่งงานกันเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา

656f0106be64b9.01610861.jpg


หลังจากเข้าพิธีแต่งงานได้เดือนเศษ  วันนี้ 5 ธ.ค.66 หมอกฤตไท จากไปอย่างสงบ และได้ทิ้งบทสุดท้ายไว้ให้ ผู้ติดตามเพจสู้ดิวะ  หมอกฤตไทตั้งใจถ่ายทอดเรื่องราว แนวติดต่าง ๆ ที่ได้ตกตะกอนในช่วงที่ต่อสู้กับโรคร้าย

เพื่อน ๆ ของหมอกฤตไท ได้โพสต์ข้อความไว้ในเพจสู้ดิวะ ว่า ตอนนี้เพจ สู้ดิวะ บรรลุจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว ในฐานะเพื่อนของคุณหมอไท ที่ได้ร่วมช่วยดูแลเพจนี้มาตลอด อยากจะขอขอบคุณทุกคน ที่อยู่เป็นกำลังใจให้กันมาจนถึงวันนี้ หลังจากนี้ถึงแม้จะไม่มีโพสถัดไปจากคุณหมออีกแล้ว แต่หวังว่าแนวคิดและแรงบัลดาลใจที่คุณหมอได้สร้างไว้ จะถูกพูดถึง ส่งต่อ เป็นพลังให้กับผู้คนในสังคมต่อไป

สำหรับบทส่งท้าย ที่หมอกฤตไท ทิ้งไว้ บทสรุปจากมะเร็งที่อยู่ด้วยกันมา สรุปได้ว่า

“ชีวิตไม่แน่นอน สุดท้ายเราทุกคนจะต้องตาย จงอยู่กับปัจจุบัน ใช้แต่ละวันให้เหมือนวันสุดท้าย ถ้ามีอะไรที่ทำเพื่อคนอื่นได้ ก็แบ่งปันความโชคดีให้เขาบ้าง และไม่ว่าชีวิตจะเลวร้ายแค่ไหน อย่าหมดหวังกับชีวิตเด็ดขาด”

บางช่วงบางตอนของโพสต์ บทส่งท้าย หมอกฤตไท ให้ข้อคิดเอาไว้ด้วยว่า

ผมหวังว่าเรื่องของผมจะช่วยให้คุณกลับมามองชีวิตตัวเองแล้วฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมาเป็นโรคร้ายแบบผม กับตัวเอง ตั้งแต่ป่วยมา ผมเลิกให้ความสำคัญกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเรื่องน่าหงุดหงิด เรื่องน่ากังวลไร้สาระที่เมื่อก่อนผมให้ความสำคัญกับมันเสียมากมาย ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องรอให้ป่วย คุณก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจเรื่องไร้สาระพวกนั้นได้ตอนนี้เลย

วันนี้คุณอาจกำลังทำงานเกินเวลา คุณอาจหัวร้อนที่ตีบวกไม่ติด คุณอาจหมดใจกับองค์กร คุณอาจหงุดหงิดพุงย้อยๆ ของตัวเอง คุณอาจไม่พอใจที่ตอนไปดัดผมออกมาแล้วหยิกเกินไป คุณอาจอยากให้ซิกแพ็คคุณชัดกว่านี้สักหน่อย หรือ อาจกำลังรำคาญสิวบนใบหน้า เรื่องไร้สาระพวกนี้ ช่างหัวมันเถอะครับ

ผมเคยสนใจเรื่องพวกนี้มากพอๆ กับคุณแหละครับ แต่เชื่อผมเถอะ คุณจะไม่คิดถึงมันเลย ถ้าคุณกำลังจะตาย พอเราไม่ต้องเสียเวลาให้กับเรื่องเล็กๆ พวกนั้นแล้ว คุณจะมีสมาธิมากพอที่จะโฟกัสกับอาหารตรงหน้า โฟกัสกับการวิ่ง โฟกัสกับอากาศบริสุทธิ์ที่คุณยังสามารถหายใจเอามันเข้าไปในปอดของคุณได้ โดยไม่มีอาการเจ็บหน้าอกแบบผม คุณลองมองความสวยงามของธรรมชาติ มองรอยยิ้มของคนรอบข้าง และเสียงหัวเราะของคนที่คุณรัก มันพิเศษมากๆ เลยที่คุณยังทำสิ่งเหล่านี้ได้

656f010691a403.45906579.jpg

ผมเห็นคนบ่นว่ามันยากแค่ไหนที่จะไปออกกำลังกาย เงื่อนไขต่างๆ ที่ทำให้เขาไม่สามารถดูแลร่างกายตัวเองได้ ให้ตายเถอะ ผมอยากไปออกกำลังกายมากๆ คุณควรดีใจนะ ที่คุณยังไปออกกำลังกายได้ ดังนั้น ไปเถอะครับ ออกไปดูแลสุขภาพตัวเองในตอนที่คุณยังทำได้ แม้ว่ารูปร่างของเราจะยังไม่ใช่แบบที่เราต้องการ แต่การออกกำลังกายและกินอาหารที่เป็นประโยชน์ มันก็เป็นสิ่งที่ดีที่เราควรทำจริงๆ ครับ

สิ่งสำคัญนอกจากการดูแลร่างกายคือการดูแลสุขภาพจิตของเรา ปัจจุบันเราอยู่ในโลกที่สังคมออนไลน์ที่น่ากลัวมาก และที่สำคัญกว่านั้นคือสังคมรอบข้างตัวคุณ เราเปลี่ยนความคิดคนรอบข้างไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนตัวคนรอบข้างเราได้ครับ เราไม่จำเป็นต้องทนอยู่กับคนที่ทำให้ชีวิตเราแย่ลง หรือคนที่เราไม่ได้อยากอยู่ด้วย เลือกสังคมให้ชีวิตตัวเองดีๆ

ผมเห็นผู้คนที่ไม่อยากให้ถึงวันจันทร์ คนที่ยอมอดทนทั้งที่มีสิทธิ์เลือก คุณไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อทำงานครับ ชีวิตคุณไม่ได้ยาวนานพอที่จะอยู่อย่างฝืนทน เลือกที่จะปฏิเสธสิ่งที่คุณไม่ต้องการ อย่าไปใช้เวลาของคุณเพื่อความฝันของคนอื่นครับ จำไว้ว่าถ้ามีเรื่องไหนที่คุณไม่โอเคกับมัน คุณมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะเปลี่ยนแปลงมัน ทั้งเรื่องงาน ความรัก หรืออะไรก็ตาม คุณต้องกล้าที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตคุณเอง คุณจะไปทนทำไม คุณอาจบอกว่า “ทนไปแล้วค่อยเปลี่ยน” แต่คุณไม่รู้ว่าหรอกว่าคุณเหลือเวลาบนโลกนี้อีกเท่าไหร่ ดังนั้น อย่าเอาเวลาชีวิตที่แสนจำกัดนี้ไปใช้กับสิ่งที่คุณไม่ชอบเลยครับ แค่ทำสิ่งที่ชอบ เวลาก็ไม่พออยู่แล้ว ให้เวลากับคนรักของคุณ กับเพื่อน กับครอบครัว กับคนที่รักคุณ กับคนที่มีความสำคัญกับชีวิตคุณ มากกว่าภาระ การงาน ตำแหน่ง และเงินทองเถอะครับ ผมหวังว่าคุณจะหันมาขอบคุณความปกติในชีวิตคุณให้มากขึ้น

ทีมข่าวออนไลน์ Ch7HD News ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการจากไปของหมอกฤตไท  มา ณ ที่นี้

 

Gallery