“ไหม ศิริกัญญา” มองรัฐบาลลดค่าไฟฟ้า ยังไม่แก้ปัญหาที่ต้นตอ สุดท้ายประชาชนต้องจ่ายแพง

“ไหม ศิริกัญญา” มองรัฐบาลลดค่าไฟฟ้า ยังไม่แก้ปัญหาที่ต้นตอ สุดท้ายประชาชนต้องจ่ายแพง
สืบเนื่องจากการปรับลดราคาค่าไฟฟ้าของรัฐบาลเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้หลายคน มีความกังวัลถึงภาระค่าใช้จ่ายพลังงานที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เครือข่ายขับเคลื่อนค่าไฟฟ้าที่เป็นธรรม จึงผุดแคมเปญ “ค่าไฟต้องแฟร์“ เชิญชวนร่วมกันลงชื่อ เสนอความเห็น 5 ข้อต่อรัฐบาล ดังนี้
1. หยุดลงนามสัญญารับซื้อไฟฟ้า (PPA) จากโครงการขนาดใหญ่แห่งใหม่ทุกโครงการ ทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าพลังนํ้าขนาดใหญ่จากประเทศเพื่อนบ้านและโรงไฟฟ้าถ่านหิน จนกว่าไฟฟ้าสำรองจะลดลงสู่มาตรฐาน
2. เร่งเดินหน้านโยบาย Net-metering หรือ ระบบหักลบหน่วยไฟฟ้า กับพลังงานแสงอาทิตย์ และ พลังงานหมุนเวียนอื่นๆ บนหลักการที่เสรี เป็นธรรมต่อทุกฝ่ายและครอบคลุมทั้งประเทศ
3. เปิดรับฟังความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง โปร่งใส ตรวจสอบได้ ต่อร่างแผนพัฒนากําลังผลิตไฟฟ้า (PDP) และร่างแผนพลังงานอื่นๆ
4. พัฒนาระบบซื้อ-ขายส่งไฟฟ้าที่สร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐอย่างเหมาะสม ควบคู่กับการเจรจาลดภาระที่ไม่เป็นธรรมในสัญญาโรงไฟฟ้าต่างๆ ที่มีอยู่
5. นําต้นทุนก๊าซธรรมชาติจากแหล่งก๊าซที่มี ราคาถูกกว่า ได้แก่ ก๊าซอ่าวไทย และ ก๊าซจากพม่า ไปคิดเป็นต้นทุนการผลิตไฟฟ้า
ล่าสุด น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียล (22ก.ย.66) เชิญชวนคนไทยร่วมลงชื่อในแคมเปญดังกล่าว มีใจความสำคัญตอนหนึ่ง ดังนี้
“ชวนทุกคนลงชื่อ และแชร์ไปให้โลกรู้ว่าคุณต้องการ #ค่าไฟต้องแฟร์
รัฐบาลประกาศลดค่าไฟเหลือ 3.99 บาทแล้ว แต่ถ้ายังไม่แก้ปัญหาที่ต้นตอที่ทำให้ค่าไฟ "ไม่แฟร์" วันนึงที่กฟผ.แบกหนี้ต่อไม่ไหว สุดท้ายประชาชนก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าไฟแพงอยู่ดี
แคมเปญดีๆ จากเครือข่ายขับเคลื่อนค่าไฟฟ้าที่เป็นธรรมค่ะ https://energy-justice-thailand.com”
สืบเนื่องจากการปรับลดราคาค่าไฟฟ้าของรัฐบาลเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้หลายคน มีความกังวัลถึงภาระค่าใช้จ่ายพลังงานที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เครือข่ายขับเคลื่อนค่าไฟฟ้าที่เป็นธรรม จึงผุดแคมเปญ “ค่าไฟต้องแฟร์“ เชิญชวนร่วมกันลงชื่อ เสนอความเห็น 5 ข้อต่อรัฐบาล ดังนี้
1. หยุดลงนามสัญญารับซื้อไฟฟ้า (PPA) จากโครงการขนาดใหญ่แห่งใหม่ทุกโครงการ ทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าพลังนํ้าขนาดใหญ่จากประเทศเพื่อนบ้านและโรงไฟฟ้าถ่านหิน จนกว่าไฟฟ้าสำรองจะลดลงสู่มาตรฐาน
2. เร่งเดินหน้านโยบาย Net-metering หรือ ระบบหักลบหน่วยไฟฟ้า กับพลังงานแสงอาทิตย์ และ พลังงานหมุนเวียนอื่นๆ บนหลักการที่เสรี เป็นธรรมต่อทุกฝ่ายและครอบคลุมทั้งประเทศ
3. เปิดรับฟังความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง โปร่งใส ตรวจสอบได้ ต่อร่างแผนพัฒนากําลังผลิตไฟฟ้า (PDP) และร่างแผนพลังงานอื่นๆ
4. พัฒนาระบบซื้อ-ขายส่งไฟฟ้าที่สร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐอย่างเหมาะสม ควบคู่กับการเจรจาลดภาระที่ไม่เป็นธรรมในสัญญาโรงไฟฟ้าต่างๆ ที่มีอยู่
5. นําต้นทุนก๊าซธรรมชาติจากแหล่งก๊าซที่มี ราคาถูกกว่า ได้แก่ ก๊าซอ่าวไทย และ ก๊าซจากพม่า ไปคิดเป็นต้นทุนการผลิตไฟฟ้า
ล่าสุด น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียล (22ก.ย.66) เชิญชวนคนไทยร่วมลงชื่อในแคมเปญดังกล่าว มีใจความสำคัญตอนหนึ่ง ดังนี้
“ชวนทุกคนลงชื่อ และแชร์ไปให้โลกรู้ว่าคุณต้องการ #ค่าไฟต้องแฟร์
รัฐบาลประกาศลดค่าไฟเหลือ 3.99 บาทแล้ว แต่ถ้ายังไม่แก้ปัญหาที่ต้นตอที่ทำให้ค่าไฟ "ไม่แฟร์" วันนึงที่กฟผ.แบกหนี้ต่อไม่ไหว สุดท้ายประชาชนก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าไฟแพงอยู่ดี
แคมเปญดีๆ จากเครือข่ายขับเคลื่อนค่าไฟฟ้าที่เป็นธรรมค่ะ https://energy-justice-thailand.com”
Gallery
