น้ำหนักเพิ่มขึ้นอาจไม่ใช่แค่อ้วน “ถุงน้ำในรังไข่” น้ำหนัก 9 กก.
น้ำหนักเพิ่มขึ้นอาจไม่ใช่แค่อ้วน “ถุงน้ำในรังไข่” รพ.บึงกาฬ ผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่ น้ำหนัก 9 กก. ใหญ่กว่าเคสเดิมที่ตรวจพบและนัดผ่าตัดช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถุงน้ำ มีน้ำหนัก 7.6 กก. หญิงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป หมอแนะนำให้ตรวจสุขภาพและตรวจภายใน ปีละครั้ง
เคสผู้ป่วยจริงโรงพยาบาลบึงกาฬ งานห้องผ่าตัดโรงพยาบาลบึงกาฬ เปิดเผยว่าทีมแพทย์ได้ผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่ ขนาดประมาณ 24x34 เซนติเมตร น้ำหนักกว่า 9 กิโลกรัม ให้กับผู้ป่วยหญิงคนหนึ่ง ได้สำเร็จ หลังผู้ป่วยสงสัยว่าตนเองอ้วน และมีอาการแปลกๆ จึงเดินทางมาตรวจรักษา
วันนี้ (21 ก.ค.66) แพทย์หญิง ฐิติมล ชัยธนทรัพย์ สูติแพทย์ โรงพยาบาลบึงกาฬ แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเคสผู้ป่วยถุงน้ำในรังไข่ กล่าวว่า ผู้ป่วยคนนี้สงสัยว่าตนเองอ้วนขึ้น แต่คลำดูที่ท้องรู้สึกเหมือนมีก้อนจึงมาตรวจร่างกาย พบว่าเป็นถุงน้ำที่รังไข่ข้างขวา ขนาดประมาณ 24x34 ซม. แพทย์ได้ผ่าตัดถุงน้ำและมดลูกออกทั้งหมด เนื่องจากพบความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จึงผ่าตัดได้สำเร็จ คนไข้ปลอดภัยดี
และก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือน ก.ค. มีเคสผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 65 ปี มีอาการปวดหน่วงท้อง ท้องโตขึ้นมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยรับการตรวจรักษา เนื่องจากเข้าใจว่าตนเองอ้วนขึ้น ต่อมารู้สึกตึงที่หน้าท้อง คลำได้ก้อนชัดเจน จึงมาตรวจร่างกายกับแพทย์ ผลตรวจอัลตราซาวนด์ และผล CT scan พบถุงน้ำ ที่รังไข่ข้างซ้าย ขนาดประมาณ 27 ซม. แพทย์จึงผ่าตัดนำถุงน้ำในรังไข่สามารถออกมาได้ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง น้ำหนักของก้อน ประมาณ 7.65 กิโลกรัม หลังผ่าตัดผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวและเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด ไม่มีอาการผิดปกติก็สามารถกลับบ้านได้
สำหรับอาการของโรคนี้ ถ้าเนื้องอกมีขนาดเล็ก มักจะไม่แสดงอาการใดๆ และถ้าก้อนโตขึ้น คนไข้ถึงจะมีอาการ เช่น ปัสสาวะบ่อย หรือว่ามีอาการอืดแน่นท้อง ปวดท้อง ซึ่งโดยทั่วไปเนื้องอกในรังไข่ จะมีหลายชนิด ซึ่งบางชนิดก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจก่อนทำการผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่ มักพบมากในผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดถุงน้ำในรังไข่ คือโรคอ้วน ภาวะที่มีบุตรน้อย และกรรมพันธุ์อีกส่วนหนึ่ง จึงอยากเชิญชวนให้ผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ให้ตรวจสุขภาพและตรวจภายใน ประจำปี
เคสผู้ป่วยจริงโรงพยาบาลบึงกาฬ งานห้องผ่าตัดโรงพยาบาลบึงกาฬ เปิดเผยว่าทีมแพทย์ได้ผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่ ขนาดประมาณ 24x34 เซนติเมตร น้ำหนักกว่า 9 กิโลกรัม ให้กับผู้ป่วยหญิงคนหนึ่ง ได้สำเร็จ หลังผู้ป่วยสงสัยว่าตนเองอ้วน และมีอาการแปลกๆ จึงเดินทางมาตรวจรักษา
วันนี้ (21 ก.ค.66) แพทย์หญิง ฐิติมล ชัยธนทรัพย์ สูติแพทย์ โรงพยาบาลบึงกาฬ แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเคสผู้ป่วยถุงน้ำในรังไข่ กล่าวว่า ผู้ป่วยคนนี้สงสัยว่าตนเองอ้วนขึ้น แต่คลำดูที่ท้องรู้สึกเหมือนมีก้อนจึงมาตรวจร่างกาย พบว่าเป็นถุงน้ำที่รังไข่ข้างขวา ขนาดประมาณ 24x34 ซม. แพทย์ได้ผ่าตัดถุงน้ำและมดลูกออกทั้งหมด เนื่องจากพบความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จึงผ่าตัดได้สำเร็จ คนไข้ปลอดภัยดี
และก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือน ก.ค. มีเคสผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 65 ปี มีอาการปวดหน่วงท้อง ท้องโตขึ้นมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยรับการตรวจรักษา เนื่องจากเข้าใจว่าตนเองอ้วนขึ้น ต่อมารู้สึกตึงที่หน้าท้อง คลำได้ก้อนชัดเจน จึงมาตรวจร่างกายกับแพทย์ ผลตรวจอัลตราซาวนด์ และผล CT scan พบถุงน้ำ ที่รังไข่ข้างซ้าย ขนาดประมาณ 27 ซม. แพทย์จึงผ่าตัดนำถุงน้ำในรังไข่สามารถออกมาได้ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง น้ำหนักของก้อน ประมาณ 7.65 กิโลกรัม หลังผ่าตัดผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวและเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด ไม่มีอาการผิดปกติก็สามารถกลับบ้านได้
สำหรับอาการของโรคนี้ ถ้าเนื้องอกมีขนาดเล็ก มักจะไม่แสดงอาการใดๆ และถ้าก้อนโตขึ้น คนไข้ถึงจะมีอาการ เช่น ปัสสาวะบ่อย หรือว่ามีอาการอืดแน่นท้อง ปวดท้อง ซึ่งโดยทั่วไปเนื้องอกในรังไข่ จะมีหลายชนิด ซึ่งบางชนิดก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจก่อนทำการผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่ มักพบมากในผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดถุงน้ำในรังไข่ คือโรคอ้วน ภาวะที่มีบุตรน้อย และกรรมพันธุ์อีกส่วนหนึ่ง จึงอยากเชิญชวนให้ผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ให้ตรวจสุขภาพและตรวจภายใน ประจำปี
