ร้อยตำรวจตรีชาลีหรือชายเล็ก (โตนนท์ วงศ์บุญ) เป็นนักร้องประจำวงเดอะค๊อปวงดนตรี เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนและผู้พิทักษ์สันติราษฎร์  ซึ่งก็เหมาะกับนิสัยของชายเล็กเป็นอย่างมาก เพราะชายเล็กเป็นคนมีเสน่ห์ พูดจาไพเราะ  เก่งทั้งดนตรี กีฬา ชนิดที่ถ้าเข้าวงการบันเทิงก็น่าจะกลายเป็นพระเอกเบอร์หนึ่งได้ไม่ยาก

ฉะนั้นโครงการทุกโครงการที่ชายเล็กประชาสัมพันธ์ให้กรมตำรวจ  จะได้ผลอย่างมาก   ยังความหมั่นไส้ให้กับ  อาชา (จอม-ศรุฒ)ร้อยตำรวจเอก หนุ่มอนาคตไกลหน้าห้องของพลตำรวจโทสามล (กฤตย์ อัทธเสรี) รองผู้บังคับการกองปราบ สาเหตุที่อาชาเกลียดขี้หน้าชายเล็ก  ก็เพราะเขาหมายปอง  รจนา (มิ้น-นวินดา)  ดาวมหาวิทยาลัยที่เป็นคนรักของชายเล็ก และเป็นลูกสาวพลตำรวจโทสามล  อาชาทำทุกวิถีทางที่จะดับรัศมีชายเล็ก และเมื่อสบโอกาส เกิดม็อบที่ชุมชนแออัด ที่เต็มไปด้วยเหล่าวายร้ายโดยมีแกนนำคือ สิงห์ สมอดำ ที่ถูก สารวัตรยิ่งยง(เคลลี่ ธนะพัฒน์) ที่รู้จักกันดีในนามสารวัตรใหญ่พยายามหาทางที่จะจับกุมซึ่งก็ได้ผล ลูกน้องของสิงห์หลายต่อหลายคนถูกจับ สิงห์เห็นอนาคตของตนกำลังเข้าตาจน จึงได้ให้ลูกน้องไปยุยงจนชาวบ้านก่อม็อบประท้วงกดดันตำรวจ เพื่อให้ย้ายสารวัตรใหญ่ออกจากพื้นที่ในยี่สิบสี่ชั่วโมง อาชาแนะให้นายของเขาส่งชายเล็กและวงดนตรีไปเพื่อสลายม็อบ   เพราะเสียงเพลงของชายเล็กสามารถเปลี่ยนเสียงตะโกนที่ดุดันของผู้ชุมนุม ให้กลายมาเป็นเสียงกรี๊ดเหมือนดูคอนเสิร์ต  ป้ายประท้วงก็กลายเป็นป้ายไฟแทน อาชาจึงได้แต่เก็บความแค้นไว้ในใจและหาโอกาสคอยเล่นงานชายเล็กต่อไป

แต่ยังไม่ทันที่อาชาจะหาแผนใหม่มาแกล้งชายเล็กได้ ชายเล็กก็ต้องประสบเหตุที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดเมื่อเขาและวงดนตรีต้องตกอยู่ท่ามกลางการต่อสู้เมื่อสิงห์ที่รู้ว่าตนเองไม่มีอนาคตตัดสินใจหนีการจับกุมโดยเอาระเบิดน้อยหน่า

ที่เก็บได้มาใช้ข่มขู่  ชายเล็กทำงานได้เยี่ยมเหมือนเดิม  ทั้งพูดทั้งร้องเพลงจนผู้ก่อเหตุเคลิ้มยอมปล่อยตัวประกัน  ซึ่งเรื่องน่าจะจบด้วยดี  ถ้าคนร้ายไม่ปล่อยระเบิดที่ถอดสลักหล่นมาด้วย  แต่ก่อนที่จะเกิดเหตุตายหมู่ ชายเล็กก็เห็นนายตำรวจหนุ่มใหญ่คนหนึ่งกระโจนเข้ามาผลักเขาออกไป และนั้นคือสิ่งสุดท้ายที่ชายเล็กจำความได้ก่อนที่จะหมดสติไป เมื่อชายเล็กตื่นขึ้นมาที่โรงพยาบาลก็ต้องพบกับเรื่องที่น่าตระหนกสองเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกก็คือว่าตำรวจที่ได้ช่วยชีวิตเขาไว้คือสารวัตรใหญ่ได้เสียชีวิตแล้ว และเรื่องที่สอง วิญญาณสารวัตรใหญ่ ที่โกรธเขาเพราะความไร้ฝีมือของชายเล็กเป็นเหตุให้สารวัตรใหญ่ต้องตายทั้งๆที่ยังมีห่วงอีกหลายอย่าง ตั้งแต่ พลอย (น้องคนดี) ลูกสาวคนเล็กอายุแปดขวบที่ฝากให้ พิม (พอลลี่-พรพรรณ) น้าสาวดูแลเพราะเมียหนีไป  แถมหนี้สินที่สร้างไว้อย่างพะรุงพะรัง  รวมทั้งคดีความค้างเก่าที่ยังไม่ได้สะสางอย่างเช่นการตามจับสิงห์ สมอดำเป็นต้น สารวัตรใหญ่จึงตัดสินใจตามติดชายเล็ก เพื่อขอให้ชายเล็กช่วยทำภารกิจคาใจทั้งหมดให้เสร็จ โดยแรกๆ ชายเล็กก็ยังไม่รู้ว่าสารวัตรเป็นเพียงวิญญาณ 

จนเมื่อวันหนึ่งมีการยกกำลังเข้าทลายแหล่งที่กักขังหญิงสาวเพื่อส่งขายซึ่งบังเอิญเป็นแก๊งค์ของ สิงห์สมอดำและวงดนตรีของชายเล็กกำลังทำการประชาสัมพันธ์โครงการของตำรวจให้กับชาวบ้าน แต่บังเอิญอยู่ใกล้แหล่งเป้าหมาย  สารวัตรใหญ่ได้โอกาสตามติดเข้าไปช่วยหาห้องขังลับจนเจอ  ทำให้เหล่าร้ายยิงต่อสู้ เกิดการตะลุมบอนกันอย่างดุเดือด  ชายเล็กที่ไม่คุ้นเคยกับการต่อสู้  ตกใจมาก ได้แต่หลบกระสุนอย่างเดียว  ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทำท่าจะเพลี่ยงพล้ำ  ทันใดสารวัตรใหญ่ก็เขาสิงร่างกายชายเล็กทั้งๆที่ชายเล็กไม่ยินยอมสู้กับเหล่าร้ายอย่างสามารถ แถมยังโดดเอาร่างเข้าบังกระสุนให้กับรองสามลจนบาดเจ็บ  สร้างความประทับใจให้กับรองสามลเป็นอย่างมาก   และยังทำให้อคติที่ไม่ชอบหน้าชายเล็กที่มาจีบลูกสาวกลายมาเป็นความปลาบปลื้มแทน แต่วีรกรรมในครั้งนี้กลับไม่ทำให้ชายเล็กและวงเดอะค๊อปปลื้มไปด้วยเพราะทั้งหมดได้รับหน้าที่เสริมให้คอยสืบสวนสอบสวนตามชุมชนต่างๆ  เพื่อสะสางคดีใหญ่ๆ  ที่เจ้าตัวไม่มีความชำนาญ  ครั้นจะปฎิเสธ ก็เกรงพ่อตาในอนาคตจะหายปลื้มชายเล็กจึงจำเป็นต้องอาศัยสารวัตรใหญ่เป็นกุนซือสอนงาน  โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าชายเล็กต้องดูแลพิมและพลอยให้ ซึ่งก็สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับชายเล็กอย่างมาก เพราะนับแต่สารวัตรใหญ่ตายพลอยก็กลายเป็นเด็กมีปัญหา  ตั้งตัวเป็นหัวโจกของแก็งค์เด็กแสบในชุมชน   ก่อเรื่องให้ชายเล็กต้องตามแก้   จนเกือบจะทำให้รจนาเข้าใจผิด คิดว่าชายเล็กซุกซ่อนเมียกับลูกไว้ แน่นอนผู้เติมเชื้อไฟในครั้งนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อาชา คู่แค้นของชายเล็กนั่นเอง   ในที่สุด ชายเล็ก ก็ต้องเริ่มชีวิตตำรวจมือปราบอย่างไม่เต็มใจโดยมีวิญญาณสารวัตรใหญ่เป็นคู่หู  ทั้งคู่ต้องผจญกับคดีที่ผู้ร้ายมีทั้งผีทั้งคนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคดีฆาตกรรม ปล้นชิง ค้ายาเสพติด แต่ละคดีต้องอาศัย ไหวพริบ ประสบการณ์  ที่จะมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ …